ทุกการเดินทางมักมีเรื่องราวประทับใจชวนให้นึกถึงอยู่เสมอ เพราะทุกทริปของการออกไปท่องโลก นอกจากจะได้เห็นสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้นักเดินทางเก็บบันทึกไว้ในกล้อง หากแต่ความประทับใจในสถานที่ที่ไปยังคงจารึกอยู่ในความทรงจำ แม้จะผ่านไปนานเพียงใดก็ยังคงตราตรึงอยู่เสมอ ดั่งเช่น “ณัฐพล จุฬางกูร” นักบริหารธุรกิจหนุ่มแสนล้าน ทายาทผู้ก่อตั้งบริษัทเครือซัมมิท คอร์ปอเรชั่น และธุรกิจในเครืออีกหลากหลาย ทั้งโรงเรียนนานาชาติ สนามกอล์ฟ และโรงแรมอีกหลายแห่ง ที่ตกหลุมรักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ เพราะชายหนุ่มยึดถือเสมอว่า ทุกการเดินทางไม่เพียงแค่เปิดโลกให้ตัวเองเท่านั้น หากแต่ยังทำให้เขาเปิดใจ ยอมรับความต่างและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว : ผมเป็นคนที่ไม่ได้กำหนดว่า การเดินทางท่องเที่ยวของผม ต้องมีความท้าทายที่ต้องใช้ความยากลำบากขั้นสูงสุดในการเดินทาง แต่ผมชอบเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครไป หรือเมื่อมีความรู้สึกว่าอยากไปชื่นชมสถานที่นั้นๆ ก็จะเดินทางไปชมในทันที ซึ่งในแต่ละปีถ้าไม่นับการเดินทางท่องเที่ยวในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมจะไปเที่ยวในสถานที่ไกลๆ ปีละ2 ครั้ง คือในช่วงเดือนมกราคมและเมษายนของทุกปี โดยจะใช้เวลาครั้งละประมาณ7-15 วัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเดินทางไปเที่ยวทางยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา มีแค่โซนทางแอฟฟริกาใต้เท่านั้น ที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ไป
ประทับใจประเทศไหนที่สุด : ผมเดินทางไปหลายประเทศมาก แต่ที่ประทับใจที่สุดคือ เมืองตูริน หรือ โตรีโน ประเทศอิตาลี เพราะที่นั่นเป็นเมืองอุตสาหกรรมของประเทศอิตาลี สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เมื่อเราขึ้นไปยืนอยู่บนภูเขา เรามองลงมาจะเห็นวิลล่าแบบพาโนรามา โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ ซึ่งเป็นวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งมากหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ที่สำคัญเมืองแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างอื่นให้เที่ยวอีกมากมาย อาทิ พระราชวังหลวง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเขาไปเที่ยมชมได้ สถาปัตยกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวของความเจริญในเมืองนี้เมื่อพันปีก่อน อาคารบ้านเรือนที่มีการผสมผสานความเป็นอิตาลีและฝรั่งเศสรวมกัน ซึ่งอาคารส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสีขาวมีความกว้างขวาง โดยเฉพาะ ปราสาทที่สร้างบนยอดเขาอันมีความสูงมาก แถมมีร้านกาแฟประหนึ่งสร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่19ให้เราได้ละเลียด คนส่วนใหญ่ไปเที่ยวอิตาลีแค่วันสองวันก็เกินพอแล้ว แต่ถ้าใครศึกษาให้ดีก็จะรู้ว่าเมืองนี้มีอะไรให้ท่องเที่ยวมากมาย ขนาดผมไปเมืองนี้มาเมื่อ9ปีที่แล้ว แต่ภาพความงดงามต่างๆ ยังคงจดจำอยู่ในความทรงจำของผมเหมือนผมพึ่งไปมาเมื่อวานนี้เองครับ
ประเทศไหนที่อยากเดินทางไปเที่ยวสักครั้งหนึ่ง : ตุรกี เป็นประเทศที่ผมอยากไปเที่ยวมากที่สุดและตั้งใจว่าจะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเมื่อก่อนภูมิประเทศของที่นี่เคยโดนภูเขาไฟลาวากัดกร่อน จึงทำให้หินมีรูปร่างแปลกๆ และไปเที่ยว เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) อันเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอานาโตเลีย ในบริเวณตอนกลางของประเทศตุรกี ซึ่งไฮไลต์ของที่นั่นคือ การได้นั่งบอลลูนยักษ์ สีสันสดใส ลอยขึ้นไปชมวิวมุมสูงแบบ Bird’s-eye view และชมทัศนียภาพที่สวยงามของแคว้นคัปปาโดเกีย ซึ่งผมเชื่อว่าเมืองแห่งนี้เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน รวมทั้งผมที่ต้องหาโอกาสไปเยือนสักครั้งให้ได้
การเดินทางคือความเข้าใจและยอมรับ : การเดินทางไม่เพียงทำให้ผมได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้แล้ว หากแต่ยังทำให้ผมได้เรียนรู้เข้าใจและยอมรับในความแตกต่างของวัฒนธรรม ภาษาขนบธรรมเนียมประเพณีหรือแม้แต่เรื่องอาหาร ว่าแต่ละที่มีวิถีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน เมื่อเราออกเดินทางเราก็จะยอมรับว่า ทำไมคนประเทศนี้เมื่อเขามาเที่ยวที่บ้านเรา เขาเป็นแบบนี้เพราะวัฒนธรรมของเขาเป็นแบบนี้ มันทำให้เราเข้าใจยอมรับในความแตกต่างและใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งนั้นอย่างปกติสุขที่สุด