ในขณะที่ กำลังก้าวเข้าสู่ขวบปีสุดท้ายในการบริหารประเทศ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า มีนโยบายแนวบ้าบิ่น ถึงลูกถึงคน รวมทั้งแนวเสียสติออกมาอย่างมากมาย
และเป็นที่รู้กันดีว่านอกจากคณะรัฐมนตรีที่คอยบริหารประเทศให้แล้ว ทรัมป์ยังลากเอาลูกๆ และบรรดาคนสนิท เข้ามานั่งตำแหน่งที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรี จนแทบจะเหมือนยกทั้งตระกูลเข้าทำเนียบขาวกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าคนที่จะถูกโฟกัสมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นลูกสาวและลูกเขยคนดัง “ไอวองกา และ จาเรด คุชเนอร์”
ด้วยความที่ทั้งสองคนต่างก็อยู่ในแวดวงเซเลบริตี สปอตไลต์ของสื่อมาตั้งแต่ก่อนโดนัลด์จะเล่นการเมืองเสียอีก แล้วยิ่งเข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีที่พ่อตัวเองนั่งอยู่หัวโต๊ะ ก็ยิ่งถูกจับจ้อง โดยเฉพาะ รายงานชิ้นล่าสุดที่นิตยสารฟอร์บส์ได้เผยแพร่นั่นก็คือ ตัวเลขความร่ำรวยของ ไอวองกา และจาเรด นั้น เพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างน้อยพันล้านบาทในปีที่ผ่านมา จากรายงานผลการลงทุนที่พวกเขาได้แจ้งเปิดเผยเอาไว้
หนึ่งในประเด็นที่ถูกตั้งข้อสงสัยก็คือ ไอวองกานั้นถือหุ้นของธุรกิจโรงแรมในเครือของทรัมป์อยู่ 7.5% โดยที่กลุ่มธุรกิจดังกล่าวนั้น ล้วนแต่เป็นเจ้าของโรงแรมสุดหรูทั่ว วอชิงตัน ดีซี และในขณะเดียวกัน ไอวองกาก็เช่าโรงแรมแห่งหนึ่งที่บริหารโดยกลุ่มธุรกิจของตัวเอง ไว้เพื่อเป็นที่อยู่ชั่วคราว โดยต้องจ่ายค่าเช่าเป็นมูลค่าสูงถึง 150 ล้านเลยทีเดียว ซึ่งยังไม่มีการระบุว่า ค่าเช่าที่สูงลิบนี้ เป็นเม็ดเงินจากรายได้ส่วนใดของเธอ และมาจากงบประมาณค่าตำแหน่งที่ปรึกษาในคณะรัฐมนตรีนี้ด้วยหรือไม่