แค่การจะเดินทางมาเยือนอังกฤษของ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เรียกแขกเชิญชวนคนมาประท้วงได้พอสมควร แต่อะไรที่ธรรมดามันก็คงจะไม่ใช่ทรัมป์ และก็ไม่รู้ว่าการเดินทางมาเยือนอังกฤษนี่ เพื่อกระชับมิตรหรือเปลี่ยนมิตรเป็นศัตรูกันแน่ เพราะไม่กี่วันก่อนจะเดินทางสู่กรุงลอนดอน ก็ให้สัมภาษณ์แบบไม่มีหูรูด ด้วยการหมิ่น ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ด้วยการใช้ศัพท์ว่า “แนสตี้” หมายความได้ถึงบ้าหรือชั่วร้าย ทั้งนี้ เนื่องจาก ดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ พระชายาของเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งขณะยังทรงเป็นสามัญชนชาวอเมริกัน เคยทรงให้สัมภาษณ์ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2559 วิจารณ์ทรัมป์ว่า เป็นพวกเหยียดผู้หญิง, มีนโยบายที่ก่อให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม, และพระองค์จะทรงย้ายไปอยู่แคนาดาหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ซึ่งเพิ่งมีพระประสูติกาลพระโอรสองค์แรกเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน จะทรงไม่ร่วมพบทรัมป์ตอนที่เขาเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองด้วย พอนักข่าวถามถึงประเด็นนี้ ทรัมป์ก็เลยเรียกดัชเชสว่า แนสตี้ เสียเลย
นอกจากปากจะเสียเกรียนไม่แคร์เจ้าภาพแล้ว การกินอยู่ของทรัมป์และครอบครัวในระหว่างเยือนอังกฤษ ก็เรียกว่าไม่ธรรมดา เผลอๆ อาจจะใช้ชีวิตหรูหรากว่าราชวงศ์อังกฤษด้วยซ้ำไป เดลีเมล์ ได้รายงานว่า ทรัมป์จ่ายเงินถึงคืนละ 22,000 ปอนด์ หรือราว 9 แสนบาท เพื่อเหมาโรงแรมโครินเธีย สุดหรูใจกลางกรุงลอนดอนแบบยกชั้น เพื่อใช้เป็นที่พักสำหรับครอบครัวของเขา ตลอดช่วงเวลาเยือนอังกฤษ โดยโรงแรมโครินเธียเพิ่งได้รับการยกย่องจาก BBC ว่า เป็นหนึ่งในโรงแรมหรูที่สุดของอังกฤษเมื่อปีที่ผ่านมา สำหรับการเหมาชั้นโรงแรมครั้งนี้ ก็เพื่อใช้เป็นที่พักของ ทรัมป์, เมลาเนีย และลูกๆ ทั้ง 4 คน ที่ร่วมเดินทางในฐานะที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรี และประธานาธิบดี ทั้ง โดนัลด์ จูเนียร์, ไอวองกา, อีริค และทิฟฟานี และเพื่อเป็นการทำให้การเยือนอังกฤษเป็นไปด้วยความราบรื่น ทรัมป์ยังได้จองคอร์สสปาเพื่อลดอาการเมาเครื่องบิน เอาไว้สำหรับสมาชิกครอบครัวด้วย ซึ่งก็ยู่ที่ราว 10,000 บาทต่อชั่วโมงเลยทีเดียว!