xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโปรไฟล์พระสหาย เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ “ฝน-รติรส จุลชาต”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ชื่อของ “ฝน-รติรส จุลชาต” กลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ เมื่อเจ้าสาวคนสวยได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ จากการที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ (พระยศในขณะนั้น) ทรงพระกรุณาประทานชุดเจ้าสาวแบรนด์ Sirivannavari Bangkok สุดงดงาม ประดับด้วยคริสตัลและขนนก ทั้งปักตัวอักษร 09Dec2018 ซึ่งเป็นวันวิวาห์ พร้อมด้วยชื่อเจ้าสาวและเจ้าบ่าว นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาเป็นเพื่อนเจ้าสาว และเสด็จร่วมงานแต่งงานของเธอและสามี (ป๊อง-รุจจิ์ จุลชาต) เนื่องจากทั้งคู่นั้นเป็นพระสหายเมื่อครั้งพระเยาว์ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ สมัยที่พระองค์ทรงเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา


"กราบพระบาท หม่อมฉันและครอบครัวเราทั้งสองรู้สึกเป็นเกียรติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้เสด็จร่วมงานวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของหม่อมฉันและคู่สมรส ขอพระองค์ทรงพระเจริญเพคะ” คือข้อความในอินสตาแกรมที่ฝนใช้แทนความรู้สึกจากใจถึงความซาบซึ้งในน้ำพระทัย ตั้งแต่เมื่อวันที่เธอเข้าพิธีวิวาห์ หากแต่ความรู้สึกยังตราตรึงมาถึงวันนี้ ซึ่งเธอยังคงย้ำประโยคเดิม เมื่อถามถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิต ราวกับเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

“สำหรับฝน ทูลกระหม่อมหญิง พระองค์ท่านทรงน่ารักมีพระเมตตามาก ทรงรักพระสหายมากๆ ไม่ใช่แค่กับฝนเท่านั้น แต่กับเพื่อนๆ ทุกคน ทรงใส่พระทัยในรายละเอียด อย่าง ตอนฝนแต่งงาน ทรงแนะนำทุกอย่าง ตั้งแต่ชุดแต่งงานว่าต้องแบบไหนถึงจะเข้ากับฝน ควรมีปักชื่อฝนหรือวันพิเศษนี้ไว้ตรงไหนของชุด ถึงจะเข้ากัน ไม่เว้นแม้แต่การเลือกเครื่องประดับ ที่ติดผม พระองค์ทรงช่วยเลือกด้วยพระองค์เองว่า แบบไหนถึงจะเหมาะ นอกจากนี้ หากทรงทราบว่าพระสหายมีปัญหา จะทรงเป็นพระองค์แรกที่ประทานคำปรึกษาแก่พระสหายเสมอ แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ

นอกจากนี้ พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างในการดูแลสุขภาพ ทรงออกกำลังกายสม่ำเสมอ เสวยพระกระยาหารคลีน และยังทรงห่วงพระสหาย ทรงถามไถ่พระสหายเสมอว่า ดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลัง และเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า” ฝนบอกเล่าอย่างสดใส จนพาให้ใครได้ฟังก็ต้องอมยิ้มตาม

ไม่เพียงแต่น้ำพระทัยที่ทรงมีต่อพระสหาย จะเป็นที่ประจักษ์ แต่เมื่อพูดถึงการทรงงานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงจริงจังและตั้งพระทัย

“ไม่ว่าจะทรงงานอะไร ทูลกระหม่อมหญิงจะทรงจริงจัง โดยเฉพาะ ด้านการออกแบบที่พระองค์ท่านทรงศึกษามา ยิ่งทรงใส่พระทัย ทรงทราบว่าผู้หญิงใส่ชุดแบบไหนสวย ดูดี นอกจากนี้ ยังทรงเป็นต้นแบบด้านการออกแบบของคนไทย ทรงศึกษาด้านงานปัก และเทคนิคต่างๆ เพื่อผลักดันผลงานออกแบบของคนไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ พร้อมกันนี้ ยังทรงเปิดสถาบันเพื่อถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านการออกแบบและงานปัก ให้กับประชาชนทั่วไปมาสมัครเรียน โดยจะมีประกาศนียบัตรให้ เพื่อช่วยพัฒนาฝีมือคนไทย” ฝนเล่าด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะพาเราไปรู้จักกับตัวตนของเธอ ซึ่ง Celeb Online ถือเป็นที่แรกก็ว่าได้ ที่เธอออกปากว่าจะได้รู้จักเธอแบบเจาะลึก

หลังจากเรียนจบปริญญาด้านวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความรักในวิทยาศาสตร์ บวกกับความมุ่งมั่นเต็มร้อยที่จะกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว เธอจึงเลือกเรียนในสาขาดังกล่าวตามคำแนะนำของพี่ชาย พอเรียนจบก็ตัดสินใจไปหาประสบการณ์ทำงานนอกบ้านอยู่ 2 ปี ด้วยการอำลาเมืองไทยไปเป็นผู้ช่วยทูตวิทยาศาสตร์ที่เบลเยียม ก่อนจะกลับมาเมืองไทยเพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งเป็นธุรกิจนำเข้า-ส่งออกเคมีอุตสาหกรรม เรียกได้ว่าเป็นเจ้าใหญ่เจ้าหนึ่งของประเทศไทยเหมือนกัน เพราะมีลูกค้าอยู่ในเกือบทุกอุตสาหกรรม แต่ชีวิตผิดแผนเล็กน้อย เพราะจากที่คิดว่ากลับมาชิมลางงานที่บ้านไม่นาน แล้วจะไปเรียนต่อปริญญาโท แต่ปรากฏยิ่งทำยิ่งอิน สุดท้ายเลยตัดสินใจทำงานไปด้วยพร้อมกับเรียนปริญญาโทด้าน International Business Management ที่จุฬาฯ ไปพร้อมกัน

มาถึงวันนี้ 8 ปีมาแล้ว ที่เธอได้กลับมาเป็นกำลังหลักสำคัญของธุรกิจครอบครัว โดยมีหน้าที่หลักคือ การคัดเลือกซัปพลายเออร์ที่เราจะนำสารเคมีและแร่ธาตุเข้ามา รวมถึงดูแลด้านส่งออก เพราะตอนนี้เราเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อนบ้าน อย่าง ลาว เวียดนาม เมียนมาร์ โดยทำควบคู่ไปกับการปลุกปั้นธุรกิจส่วนตัว ที่ยังไม่หนีไม่จากสิ่งที่เธอรัก เพียงแต่พลิกมุมคิดจนเกิดเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ และไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมากขึ้น

เพื่อขยายความให้เห็นภาพมากขึ้น ฝนเล่าถึงที่มาของธุรกิจที่ก่อตัวจากแพสชันล้วนๆ อย่าง แบรนด์ RATI ซึ่งเธอนิยามว่าเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ที่ใช้เคมีสังเคราะห์ให้น้อยที่สุดอย่างออกรส

“ต้องย้อนกลับไปตอนแต่งงาน ฝนและสามีมองหาว่าจะใช้อะไรเป็นของชำร่วยดี ด้วยความที่ธุรกิจบ้านฝนขายเคมีและแร่ธาตุธรรมชาติอย่างที่บอก ซึ่งสารส้มถือเป็นหนึ่งในแร่ธาตุธรรมชาติที่ทำมานานแล้ว ดังนั้น ในฐานะที่ฝนเองก็เป็นวิศวกรเคมี ชอบการทดลองวิทยาศาสตร์บวกกับชอบใช้สารส้มแทนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ลองมาแล้วทุกแบบ จนมาลงตัวที่สารส้มเกรดอาหารและยา คือใช้ทำความสะอาดผักและผลไม้ได้ ก็เลยใช้มาตลอด แต่ปัญหาคือเวลาที่ต้องเดินทาง ฝนไม่กล้าพกไป หนึ่งคือไม่สะดวก สองก็อายเพื่อนนะ จะหาว่าเราโบราณ (หัวเราะ) พอสบโอกาสว่ากำลังมองหาของชำร่วย เลยคิดว่าน่าจะนำไอเดียที่อยากจะนำเสนอของดีของไทย ใช้แล้วปลอดภัย มาต่อยอดโดยพัฒนาเป็นสเปรย์เพื่อให้ใช้ง่าย

ปรากฏว่างานแต่งงานผ่านไป 2-3 เดือน มีแขกในงานมาถามว่าจะหาซื้อได้จากที่ไหน อยากได้บ้าง เลยจุดประกายให้ฝนคิดว่าน่าจะนำมาทำเป็นธุรกิจ โดยร่วมกับสามีซึ่งมาสายทำหนัง ก็จะเน้นดูเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ ส่วนฝนเป็นฝ่ายผลิต ตอนนี้เรามีเว็บไซต์ขายอย่างเป็นทางการ และในอนาคตคิดว่าจะเข้าไปวางขายตามห้างสรรพสินค้า พร้อมกับอีก 2 ผลิตภัณฑ์ที่เราพัฒนาขึ้นมา นั่นคือ ผงวิตามินซีสำหรับเติมลงไปในครีมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเป็น Skin Booster และ สเปรย์ป้องกันกลิ่นเท้า ซึ่งผลิตจากสารส้มเกรดดีที่สุดตามธรรมชาติเช่นกัน”

ผ่านไปแล้ว 2 บทบาท มาถึงบทบาทสุดท้ายที่ฝนทำด้วยใจรักเช่นกัน นั่นคือ เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารภาพรวมของแบรนด์ Sirivannavari Bangkok

“ต้องขอบคุณเทคโนโลยี ที่ทำให้ชีวิตคนยุคนี้สะดวกสบายมากขึ้น สามารถบริหารหลากหลายบทบาทได้อย่างลงตัว ยังมีเวลาว่างสำหรับทำกิจกรรมอื่น วันหยุดของฝนเรียบง่ายมากๆ ถ้าไม่ไปหาคาเฟ่เก๋ๆ นั่ง ก็ชอบอยู่บ้าน ดูซีรีส์ เพราะรู้สึกว่าวันธรรมดาเราไปทำงานตลอด วันหยุดก็อยากใช้เวลาอยู่บ้านกับคุณสามี แต่ทุกๆ3-4 เดือนเราก็จะมีทริปท่องเที่ยวด้วยกัน ซึ่งคุณสามีจะออกแนวแอดเวนเจอร์หน่อย อย่าง ไปปีนเขา เล่นสกี ดำน้ำ ซึ่งถ้าเทียบกับฝน อาจจะไม่ใช่สายลุยเท่าไหร่ แต่ก็โอเคไปไหนไปกัน ”


ไหนๆ ก็เอ่ยถึงคุณสามี เลยถือโอกาสนี้ถามถึงชีวิตหลังแต่งงานว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง งานนี้ฝนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนตอบว่า “แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย อาจเพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน เรียนมาด้วยกันตั้งแต่โรงเรียนจิตรลดา ที่จะต่างคือ แต่ก่อนเราเจอกัน แต่พอดึกเราก็ต้องแยกย้าย แต่ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันแล้ว (หัวเราะ) สำหรับแผนการปั๊มทายาท อย่างที่บอกว่า สามีชอบแอดเวนเจอร์ เขายังแซวว่าถ้าฝนยังไม่ไปเทรคกิ้ง แล้วก็ไปทริปสกีกับครอบครัว ก็อาจจะต้องรอไปก่อน (หัวเราะ) ส่วนตัวฝนเองก็อยากใช้ชีวิตคู่ให้ครบ 1 ปีก่อนแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งเดือนต.ค.นี้จะครบรอบ 1 ปีที่เราหมั้นกัน ถามว่าอยากมีกี่คน ฝนอยากมีไม่เกิน 2 คน เพราะกลัวเลี้ยงไม่ไหว แต่จริงๆ แล้วฝั่งคุณย่าก็อยากอุ้มหลาน คิดว่าถ้ามีลูกจริงๆ คุณย่าก็น่าจะช่วยเลี้ยง”

สำหรับเป้าหมายในอนาคต ฝนพาวาดภาพอีก 10 ปีว่า “ชีวิตคนเราไม่ต้องการอะไรมาก แค่มีชีวิตที่มีความสุข มีเวลาให้ครอบครัว ในอนาคต มีลูก เขาก็ไม่จำเป็นต้องเก่งมากแต่ขอให้เป็นคนดี แต่ถ้ามองไปถึงภาพใหญ่ในมุมสังคม ความตั้งใจในการทำแบรนด์ RATI ของฝนคือ อยากสนับสนุนความเป็นไทยให้ต่างชาติรู้ว่าเมืองไทยก็มีดี ฝนอยากพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้แร่ธาตุตามธรรมชาติของไทยให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แล้วทำออกมาให้ชิคที่สุด ปลอดภัยที่สุด แม้แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้ ควบคู่ไปกับการแตกไลน์สินค้าใหม่ ที่ยังยืนอยู่บนพื้นฐานะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้เคมีสังเคราะห์ให้น้อยที่สุด ฝนหวังว่าจะเห็นแบรนด์ของเราไปวางขายอยู่ในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน คนไทยก็หันกลับมาใช้แบรนด์คนไทยกันเอง” ฝนทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น ฟังแล้วฮึกเหิมจนอยากเอาใจช่วยไปด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น