หลายครั้งหลายคราที่เราได้ยินการเดินทางของผู้คนที่พิชิตเป้าหมายอันน่าทึ่ง และได้แต่หวังว่าชั่วชีวิตนี้เราจะได้มีทริปที่น่าจดจำอย่างนั้นบ้าง ซึ่งถ้าลองสังเกตดูดีๆ เรามักจะพบว่านักเดินทางเหล่านี้มักจะมีจุดเริ่มต้นง่ายๆ ให้กับตนเอง เป็นต้นว่า เป็นไปได้ไหมที่เราจะเที่ยวรอบโลกด้วยรถไฟ หรือเป็นไปได้ไหมที่เราจะไปเหยียบพื้นดินที่สูงที่สุดในโลกสักครั้งในชีวิต และเป็นเพราะคนเหล่านี้ไม่เพียงตั้งคำถามขึ้นมาแบบลอยๆ แต่ยังหาวิธีจัดการให้มันเป็นจริง เขาถึงได้ครอบครองประสบการณ์อันน่าอิจฉาไว้ด้วยตัวเอง
เหมือนเช่น “เมย์-เมสินี แก้วราตรี” ที่ต้องการเก็บประสบการณ์อันน่าอิจฉาไว้กับสามี “เท็ดดี้-พรเศก ภาคสุวรรณ” ด้วยการออกเดินทางแบบ Road Trip แต่ละทริปที่ไปใช้เวลายาวนาน บางทริปใช้เวลาในการขับรถเพื่อเที่ยวชมหาประสบการณ์แปลกใหม่เป็นพันๆ กิโล ขับวนซ้ำไปเวียนมาบนถนนที่ทอดยาวไกล
ท่องเที่ยวสไตล์ไหน : เที่ยวได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบไปชอปปิงอย่างเดียว หรือทริปที่ไปรับประทานอาหารในที่แปลกๆ คือเป็นคนชอบเที่ยวในที่แปลกใหม่ และยังไม่ค่อยมีใคร หรือกรุ๊ปทัวร์จัดไปถึง โดยเฉพาะ การเที่ยวแบบRoad Trip มันทำให้เราได้ไปที่ใหม่ๆ ไปเจอชุมชนเมืองใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้ว่ามี
ทำไมถึงชอบการเดินทางแบบ Road Trip : เมย์ไม่ชอบการเดินทางแบบเป็นกรุ๊ปทัวร์ เพราะไม่ชอบให้ใครมาบริหารจัดการเรื่องเวลา ในการเที่ยวแต่ละครั้งให้กับเรา แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนไม่บริหารจัดการเรื่องเวลานะคะ เมย์เป็นคนบริหารเวลาดีมากๆ แต่ด้วยความที่สามีเป็นคนชอบขับรถ ตัวเราเองก็เป็นคนชอบรถและรักการเดินทาง ดังนั้น เราจึงชอบการเที่ยวแบบRoad Trip คือเราจะวางแผนการเที่ยวไว้ล่วงหน้ากันเอง ซึ่งบางทีเวลาที่เราขับรถไปเที่ยวเราอยากไปชิมอาหารท้องถิ่นของแต่ละเมือง เราก็จะขับไปกินกัน หรือบางครั้งเราเพิ่งขับรถผ่านมาแล้วเห็นอะไรสักอย่างที่แปลกใหม่ เราก็จะพากันขับรถวนกลับไปดูอีกรอบเป็นเช่นนี้ประจำ
กิจกรรมสุดโปรดเมื่อออกขับรถเที่ยวกันสองคน : ทุกทริปของการออกเดินทาง เมย์จะเป็นคนวางแผนเองทั้งหมด ซึ่งกิจกรรมที่ต้องทำของเราในทริปมี 2อย่างด้วยกัน หนึ่ง ต้องมีกิจกรรมฟรีมาร์เก็ต คือต้องแวะไปเที่ยวชมตลาดท้องถิ่นของแต่ละเมือง ว่าเป็นแบบไหน ที่สำคัญ ต้องเป็นตลาดวินเทจ มีความย้อนยุคหน่อยๆ เพราะมันจะมีมนต์เสน่ห์มาก และอีกกิจกรรมที่ต้องแวะคือ การไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์รถโบราณของแต่ละเมือง เพราะเมย์เป็นคนชอบรถคลาสสิกมาก การได้ไปเห็นรถโบราณมากมาย มันจะทำให้เรามีความสุข ที่สำคัญ ทุกๆ การเดินทาง เราต้องผสมผสานสถานที่ท้องถิ่นเมืองโบราณ ให้เข้ากับเส้นทางเมืองเล็กๆ ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
การเดินทางอันแสนยาวนานที่สุด : คือปกติเราสองคนจะชอบการออกเดินทางทั้งในและต่างประเทศ แต่ที่เราออกทริปRoad Trip ที่ยาวนานและไกลที่สุด ก็คงจะเป็นที่ยุโรป เราขับรถกันมากกว่าพันกิโล ใช้เวลา15 วัน ในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเราสองคนก็จะใช้เวลาขับรถเวียนไปมาอยู่อย่างนั้น ไปดูเมืองเล็กๆ ในประเทศแถบยุโรป ขับรถเข้าไปในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ทัวร์เข้าไปไม่ถึง ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เราได้เจอกับเหตุการณ์หรือสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต ที่เราไม่เคยเห็น อย่างเช่น ขับรถอยู่ดีๆ ก็เจอฝูงกวาง หรือลำธารเล็กๆ น้ำใสไหลเย็น บางทีขับรถไปก็เจอภูเขาหิมะอยู่ข้างทาง เราก็พากันแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ซึ่งทั้งหมดนี้มันเป็นประสบการณ์แปลกใหม่มาก และมีความสุขที่สุด และอีกกิจกรรมสุดโปรดของเมย์ เมื่อขับรถไปถึงที่หมายแล้วก็คือ การที่ได้ตื่นมาวิ่งตอนเช้าในบรรยากาศที่เย็นสบายสดชื่น
การเดินทางสอนอะไรบ้าง : การเดินทางนอกจากจะพาเราออกไปเจอประสบการณ์แปลกใหม่ที่เราไม่เคยเจอมาก่อนแล้ว ยังสอนให้เราเป็นคนใจเย็นมากขึ้น เพราะบางสถานที่ที่ไป เราต้องยอมรับก่อนเลยว่า มันอาจจะไม่ปรากฏในกูเกิลแมพ เราต้องพร้อมยอมรับสำหรับการหลงทาง เราจึงต้องใจเย็นเพื่อเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางใหม่ ซึ่งเมื่อก่อนเมย์เป็นคนใจร้อนมาก แต่พอได้ออกทริปขับรถไปเที่ยวบ่อยๆมันช่วยให้เรากลายเป็นคนใจเย็นมากขึ้น และต้องทำชีวิตให้มีความสุขกับทุกวินาทีของการใช้ชีวิต เพราะทุกอย่างในการเดินทาง หรือแม้แต่การใช้ชีวิต ก็มักจะมีเรื่องผิดพลาด หรือเรื่องปวดหัวมาให้กับเราทั้งสิ้น
ภาพจาก ig@mesimay
