งานออกแบบและดีไซน์นั้น ล้วนเป็นงานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ประกอบกับใจรักงานทางด้านนี้ ถึงจะเสกสรรงานที่ตัวเองรักออกมาให้ดีที่สุด ดังเช่นบรรดาเซเลบเมืองไทยที่ตกหลุมรักในงานออกแบบและดีไซน์ในแขนงต่างๆ จนสามารถสร้างชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงผลงานการออกแบบที่ไม่ธรรมดา ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกคู่กันมาแล้ว แต่จะมีเซเลบนักออกแบบคนไหนบ้าง ที่รักในอาชีพนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น แถมยังใช้พลังแห่งความรัก ความศรัทธาต่อวิชาชีพ สร้างสรรค์ผลงานสุดปังมาแล้วนับไม่ถ้วน รีบไปดูกันเลย
เริ่มที่ มุก-เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ เจ้าของแบรนด์และดีไซเนอร์ Mook V กระเป๋างานคราฟท์ทอมือใบต่อใบ ที่ใช้ลวดลายสร้างความครีเอทีฟให้กับลุคเก๋ๆ ของคุณ คุณแม่ลูกแฝด3 ที่ได้โลดแล่นอยู่ในวงการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอของเมืองไทย มานานกว่า 10 ปี มีผลงานออกมาอวดสายตาชาวไทยหลากหลายคอลเลกชัน โดยเฉพาะ การมาทำกระเป๋า Mook V ซึ่งเธอเล่าว่า เริ่มทำแบรนด์มาเมื่อหลายปีที่แล้ว เพราะในช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ค่อยดี โรงงานที่ทำหมอนกับพรมส่งตามโรงแรม แทบจะไม่มีออเดอร์ จึงต้องหาสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่องออกมาวางขาย เริ่มจากทอผ้าออกมาเป็นผืนเล็กแล้วพับเป็นกระเป๋าคลัตช์เอาไว้ถือเอง เพื่อนๆ ของเธอเห็นก็อยากซื้อบ้าง ลองผิดลองถูกทำไปจนได้เจอกับหุ้นส่วนที่เป็นบริษัททำมาร์เก็ตติ้ง และขายอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้
มุกเริ่มย้อนถึงวันที่เธอตัดสินใจก้าวเข้ามาในวงการนักออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอว่า ที่บ้านนั้นมีโรงงานทอผ้าอยู่แล้ว ดังนั้น ตั้งแต่จำความได้เธอก็เห็นและคลุกคลีกับเส้นใยผ้าอันสวยงาม ที่โรงงานทอออกมา และด้วยความคุ้นชินนี้เอง เธอจึงตกหลุมรักงานผ้าและเข้ามาสู่วงการผลิตภัณฑ์สิ่งทอของเมืองไทย และก้าวกระโดดมาเป็นนักออกแบบอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่เดินอยู่บนถนนสายแฟชั่นและการออกแบบ มุกมีผลงานด้านการออกแบบมากมายที่สะดุดตาและครองใจสาวๆ เมืองไทย หากแต่ผลงานล่าสุดที่สร้างความประทับใจให้กับเธอสุดๆ คือ เธอเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับความไว้ใจจากLouis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) ประเทศฝรั่งเศส ให้ออกแบบและตกแต่งร้าน Louis Vuitton สาขาไอคอนสยาม ซึ่งนอกจากจะเป็นสาขาแรกของโลก ที่มีการออกแบบตกแต่งแบบผสมผสานระหว่าง Louis Vuitton DNA กับความเป็นไทย
“การตกแต่งร้าน Louis Vuitton สาขาไอคอนสยาม เราตกแต่งภายใต้ธีม The River of King ซึ่งสื่อให้เห็นถึงการเดินทางด้วยสายน้ำ ประเทศไทยมีการเดินทางด้วยสายน้ำมาตลอดทุกยุคสมัย แม่น้ำลำคลองมีความสำคัญกับชีวิตคนไทย และในอดีตเราก็ทำมาค้าขายกับชาวต่างชาติผ่านทางแม่น้ำ ที่สำคัญ ไอคอนสยาม ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น มุกจึงนำความเป็นไทยและฝรั่งเศสมาตกแต่งรวมกันอย่างลงตัว เพราะถ้าก้าวเข้าร้าน ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความเป็นไทย ที่แฝงไว้อย่างลงตัวในทุกๆ องค์ประกอบ ได้กลิ่นอายของบ้านไทย ที่ยังมีเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง อยู่เช่นเดิม ส่วนไฮไลต์ด้านงานตกแต่งสาขานี้คือ ประติมากรรมผ้าประดับเพดาน เราได้ใช้หลายวัสดุด้วยกัน ทั้งผ้าทอพื้นเมือง ผ้าไหม ดิ้นทอง งานถักโครเชต์ ผ้าซาติน และสายเทปจากเทปคาสเซ็ต โดยนำวัสดุทั้งหมดมาประกอบเข้าด้วยกัน เป็นรูปทรงที่ดูเหมือนระลอกน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา”
คุณแม่ลูกสามเล่าว่า ผลงานครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับเธอมาก เพราะมันเป็นความภาคภูมิใจที่สามารถนำดีเอ็นเอของหลุยส์ วิตตอง มารวมกับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว และมีความสวยงาม จนทำให้กลายเป็นร้านต้นแบบ ที่ในแต่ละวันมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางแวะเวียนมาถ่ายรูปคู่กับหลุยส์ วิตตอง สาขานี้ไม่เคยขาดสาย
มาถึงสาวอาร์ตผู้หลงใหลในการออกแบบ แม้ชีวิตจะพาให้หลงทางจากเส้นทางที่ฝันไปบ้าง แต่สุดท้ายโชคชะตาก็พาให้ “พลอย มหาดำรงค์กุล” ผู้ร่วมก่อตั้ง “สตูดิโอ พอยต์ ไลน์ เพลน” (Studio Point Line Plane) บริษัทออกแบบครบวงจร ตั้งแต่งานกราฟิกจนไปถึงงานอินทีเรีย และเป็นผู้ก่อตั้ง บจก.Archiculture Inter Group ซึ่งเป็นบริษัทที่รับดูแลงานด้านสถาปัตยกรรม ตั้งแต่บ้าน อาคารสาธารณะขนาดเล็กและขนาดใหญ่ แถมปีนี้เจ้าตัวยังมีแพลนจะเปิดอีกบริษัทเป็น Branding&Marketing Agency กลับมายืนที่เดิม และสร้างอาณาจักรนี้ให้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิ
พลอยย้อนความทรงจำที่ทำให้เธอหลงรักงานออกแบบว่า เธอสนใจทุกงานที่เป็นงานดีไซน์ และการทำงานของเธอนั้นไม่ใช่เน้นแค่ความสวยงาม แต่ต้องใช้ได้จริงและเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ สร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ ให้กับสังคม
“เราไม่ใช่บริษัทที่มุ่งหวังกำไร ถ้าลูกค้ารวยก็ดีค่ะ แต่ถ้าลูกค้ามีเงินจำกัด งบประมาณจำกัด แล้วอยากทำ อยากให้เราช่วยจริงๆ เราก็จะช่วยจนสุดความสามารถ เราชอบ make it happen บางโปรเจกต์ที่เป็นงานสถาปัตย์ก็นานถึง 5 ปี เราก็ยังอยู่กับลูกค้าจนบางทีหมดหน้าที่เราแล้ว แต่เราก็จะส่งลูกน้องไปช่วยดู ไป follow up ไปช่วยจนกว่างานจะออกมาเสร็จสมบูรณ์ เป็นไปตามที่ทีมเราและลูกค้าหวังไว้ค่ะ”
นักออกแบบคนเก่งเล่าว่า ทุกงานที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ล้วนเป็นงานที่เธอประทับใจทั้งสิ้น แต่งานออกแบบร้านอาหารโคบอลท์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นงานที่สร้างความประทับใจที่สุด เพราะเป็นงานที่ใช้ความคิดเยอะมาก ได้ออกแบบทุกอย่าง ตั้งแต่แพตเทิร์นลายหินขัดไปยันปลอกหมอน ทุกสิ่งในร้านล้วนสื่อสารถึงกัน ทุกอย่างคือเรื่องเดียวกัน ซึ่งโจทย์นี้เราทุกคนตั้งใจคิดมาตั้งแต่แรกว่า ทุกสิ่งต้องสัมพันธ์กัน ต้องเหมือนอยู่ในใต้ทะเลแบบเหนือจริง
ทุกผลงานที่ลงทุนทั้งแรงกายและแรงใจ ล้วนเป็นงานที่สร้างประทับใจให้กับพลอยได้เสมอ แต่เมื่อถามถึงผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอ ที่สร้างความภูมิใจให้กับเธอและทีมงาน ก็มีหลายโครงการจนมีรางวัลระดับชาติการันตีถึงชิ้นงานคุณภาพ
“เราตั้งใจสร้างสรรค์ทุกงาน แต่งานที่เข้าตาคว้ารางวัลระดับ international ก็มีหลายโครงการ เช่นประเภทงาน Architect ก็จะมีโครงการ S16 ที่พัทยา เป็นงานออกแบบมันส์ๆ ได้รางวัล International Property Awards ส่วนงานอินทีเรียที่ได้รางวัลระดับอินเตอร์ ก็จะมีโครงการ Jacqueline Hanoi ประเภทงาน Retail เป็นร้าน Multi-Brand Store ได้รับหลายรางวัลจาก Architecture & Design Award จากฮ่องกงและ China Design Awards จากประเทศจีนค่ะ ร้านอาหารก็จะมี Sushi Mori สาขา Sathorn Square ได้รับรางวัล Asia Pacific Property Awards สาขา Best Restaurant เป็นต้นค่ะ”
ส่วน “เหมี่ยว-พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ” สาวเก่งแห่ง Quattro Design (ควอตโตร ดีไซน์) ผู้นำทางด้านไลฟ์สไตล์และการแต่งบ้านมากว่า 10 ปีเล่าว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้วหลังจากที่เธอเรียนจบงานด้านอินทีเรียที่สหรัฐอเมริกา และกลับมาฝึกงานที่เมืองไทย แล้วเธอรู้สึกว่าชอบงานตกแต่งภายในบ้านมาก และในยุคนั้นยังไม่มีใครที่เปิดบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน พร้อมออกแบบและหาเฟอร์นิเจอร์อย่างครบวงจร ประกอบกับที่บ้านมีกิจการร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว เธอจึงตัดสินใจเปิดบริษัทรับตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรเป็นเจ้าแรกๆ ในประเทศไทย
“เราต้องเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อสรรหาของมาตกแต่งบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ โซฟา โคมไฟ เพื่อนำมาตกแต่งบ้านให้ลูกค้า บางครั้งเราก็รับออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้กับลูกค้า เพื่อนำมาตกแต่งบ้าน คอนโดฯ หรือโรงแรม ให้กับลูกค้า ซึ่งทุกงานเป็นงานที่สนุกมากค่ะ”
เป็นเวลากว่า10ปีที่โลดแล่นในวงการออกแบบตกแต่งบ้าน มีตึกระฟ้าคอนโดฯ หรูหลายโครงการ อย่าง มาร์ค สุขุมวิท คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี บนถนนสุขุมวิท 39, วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน หนึ่งในสุดยอดคอนโดฯ หรู ที่อยู่ติดกับเขาตะเกียบ ฯลฯ ต่างไว้วางใจให้เธอและทีมงานเข้าไปออกแบบและตกแต่งห้องตัวอย่างมาให้แล้วทั้งสิ้น
แต่อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่นักออกแบบคนเก่งประทับใจที่สุด ถึงแม้จะเป็นเพียงโปรเจกต์เล็กๆ ก็ตาม แต่เธอก็ประทับใจมากคือ การเข้าไปช่วยทำอาร์ตเวิร์กให้กับ Bamboo Bar ที่บริเวณชั้นล่างของโรงแรม Mandarin Oriental ซึ่งบาร์แห่งนี้มีอายุกว่า 60 ปี และยังถือเป็นแจ๊ซบาร์แห่งแรกของเมืองไทยอีกด้วย
“งานนี้เราแค่รับทำอาร์ตเวิร์กอย่างเดียว แต่เราต้องคิดว่าจะไปหางานศิลปะชิ้นใดมาตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศของบาร์แห่งนี้ ที่มีอายุเก่าแก่มาก แถมยังเคยมีศิลปินระดับโลก อย่าง เจมส์ บอนด์ และอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ศิลปินชื่อดังระดับโลกมาเยือนแล้ว ซึ่งเป็นงานที่เราประทับใจมากคะ”
นอกจากนี้ ยังมีเซเลบที่หันมาเอาดีด้านงานออกแบบอีกหลายคน อย่าง วิชดา สีตกะลิน ดีไซเนอร์มาดเก๋ที่หลงรักงานอินทีเรียดีไซน์ จนมาร่วมหุ้นกับเพื่อนรัก เหมี่ยว-พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ เปิดธุรกิจ Quattro Design และ Eichholtz TH แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ทันสมัย รวมถึงเป็นดีไซน์ไดเรกเตอร์โรงแรมสุดหรูบนหาดไร่เลย์ Rayavadee และ Tamarind Village ใจกลางเมืองเชียงใหม่
เช่นเดียวกับหนุ่มนักออกแบบเครื่องเพชร “พอชท์-กิตติศักดิ์ กันดิศาคุณานนท์” ทายาทโรงงานผลิตจิลเวลรี ซึ่งได้เริ่มต้นจากการสเก็ตช์งานเล่นๆ จนมาสู่การเป็นJewelry design ที่ผสมผสานคุณค่าความงาม ความละเอียด มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทำให้ใครๆ เห็นต่างหลงรักและอยากเป็นเจ้าของ ไม่เว้นแม่แต่ สุมณี คุณะเกษม ไฮโซพันล้านและผู้เป็นเจ้าของอภิมหาคฤหาส์หมื่นล้าน ที่ไว้วางใจให้ออกแบบป้ายชื่อแฟนซีให้มาแล้วด้วยคร่า
เริ่มที่ มุก-เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ เจ้าของแบรนด์และดีไซเนอร์ Mook V กระเป๋างานคราฟท์ทอมือใบต่อใบ ที่ใช้ลวดลายสร้างความครีเอทีฟให้กับลุคเก๋ๆ ของคุณ คุณแม่ลูกแฝด3 ที่ได้โลดแล่นอยู่ในวงการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอของเมืองไทย มานานกว่า 10 ปี มีผลงานออกมาอวดสายตาชาวไทยหลากหลายคอลเลกชัน โดยเฉพาะ การมาทำกระเป๋า Mook V ซึ่งเธอเล่าว่า เริ่มทำแบรนด์มาเมื่อหลายปีที่แล้ว เพราะในช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ค่อยดี โรงงานที่ทำหมอนกับพรมส่งตามโรงแรม แทบจะไม่มีออเดอร์ จึงต้องหาสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่องออกมาวางขาย เริ่มจากทอผ้าออกมาเป็นผืนเล็กแล้วพับเป็นกระเป๋าคลัตช์เอาไว้ถือเอง เพื่อนๆ ของเธอเห็นก็อยากซื้อบ้าง ลองผิดลองถูกทำไปจนได้เจอกับหุ้นส่วนที่เป็นบริษัททำมาร์เก็ตติ้ง และขายอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้
มุกเริ่มย้อนถึงวันที่เธอตัดสินใจก้าวเข้ามาในวงการนักออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอว่า ที่บ้านนั้นมีโรงงานทอผ้าอยู่แล้ว ดังนั้น ตั้งแต่จำความได้เธอก็เห็นและคลุกคลีกับเส้นใยผ้าอันสวยงาม ที่โรงงานทอออกมา และด้วยความคุ้นชินนี้เอง เธอจึงตกหลุมรักงานผ้าและเข้ามาสู่วงการผลิตภัณฑ์สิ่งทอของเมืองไทย และก้าวกระโดดมาเป็นนักออกแบบอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่เดินอยู่บนถนนสายแฟชั่นและการออกแบบ มุกมีผลงานด้านการออกแบบมากมายที่สะดุดตาและครองใจสาวๆ เมืองไทย หากแต่ผลงานล่าสุดที่สร้างความประทับใจให้กับเธอสุดๆ คือ เธอเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับความไว้ใจจากLouis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) ประเทศฝรั่งเศส ให้ออกแบบและตกแต่งร้าน Louis Vuitton สาขาไอคอนสยาม ซึ่งนอกจากจะเป็นสาขาแรกของโลก ที่มีการออกแบบตกแต่งแบบผสมผสานระหว่าง Louis Vuitton DNA กับความเป็นไทย
“การตกแต่งร้าน Louis Vuitton สาขาไอคอนสยาม เราตกแต่งภายใต้ธีม The River of King ซึ่งสื่อให้เห็นถึงการเดินทางด้วยสายน้ำ ประเทศไทยมีการเดินทางด้วยสายน้ำมาตลอดทุกยุคสมัย แม่น้ำลำคลองมีความสำคัญกับชีวิตคนไทย และในอดีตเราก็ทำมาค้าขายกับชาวต่างชาติผ่านทางแม่น้ำ ที่สำคัญ ไอคอนสยาม ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น มุกจึงนำความเป็นไทยและฝรั่งเศสมาตกแต่งรวมกันอย่างลงตัว เพราะถ้าก้าวเข้าร้าน ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความเป็นไทย ที่แฝงไว้อย่างลงตัวในทุกๆ องค์ประกอบ ได้กลิ่นอายของบ้านไทย ที่ยังมีเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง อยู่เช่นเดิม ส่วนไฮไลต์ด้านงานตกแต่งสาขานี้คือ ประติมากรรมผ้าประดับเพดาน เราได้ใช้หลายวัสดุด้วยกัน ทั้งผ้าทอพื้นเมือง ผ้าไหม ดิ้นทอง งานถักโครเชต์ ผ้าซาติน และสายเทปจากเทปคาสเซ็ต โดยนำวัสดุทั้งหมดมาประกอบเข้าด้วยกัน เป็นรูปทรงที่ดูเหมือนระลอกน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา”
คุณแม่ลูกสามเล่าว่า ผลงานครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับเธอมาก เพราะมันเป็นความภาคภูมิใจที่สามารถนำดีเอ็นเอของหลุยส์ วิตตอง มารวมกับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว และมีความสวยงาม จนทำให้กลายเป็นร้านต้นแบบ ที่ในแต่ละวันมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางแวะเวียนมาถ่ายรูปคู่กับหลุยส์ วิตตอง สาขานี้ไม่เคยขาดสาย
มาถึงสาวอาร์ตผู้หลงใหลในการออกแบบ แม้ชีวิตจะพาให้หลงทางจากเส้นทางที่ฝันไปบ้าง แต่สุดท้ายโชคชะตาก็พาให้ “พลอย มหาดำรงค์กุล” ผู้ร่วมก่อตั้ง “สตูดิโอ พอยต์ ไลน์ เพลน” (Studio Point Line Plane) บริษัทออกแบบครบวงจร ตั้งแต่งานกราฟิกจนไปถึงงานอินทีเรีย และเป็นผู้ก่อตั้ง บจก.Archiculture Inter Group ซึ่งเป็นบริษัทที่รับดูแลงานด้านสถาปัตยกรรม ตั้งแต่บ้าน อาคารสาธารณะขนาดเล็กและขนาดใหญ่ แถมปีนี้เจ้าตัวยังมีแพลนจะเปิดอีกบริษัทเป็น Branding&Marketing Agency กลับมายืนที่เดิม และสร้างอาณาจักรนี้ให้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิ
พลอยย้อนความทรงจำที่ทำให้เธอหลงรักงานออกแบบว่า เธอสนใจทุกงานที่เป็นงานดีไซน์ และการทำงานของเธอนั้นไม่ใช่เน้นแค่ความสวยงาม แต่ต้องใช้ได้จริงและเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ สร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ ให้กับสังคม
“เราไม่ใช่บริษัทที่มุ่งหวังกำไร ถ้าลูกค้ารวยก็ดีค่ะ แต่ถ้าลูกค้ามีเงินจำกัด งบประมาณจำกัด แล้วอยากทำ อยากให้เราช่วยจริงๆ เราก็จะช่วยจนสุดความสามารถ เราชอบ make it happen บางโปรเจกต์ที่เป็นงานสถาปัตย์ก็นานถึง 5 ปี เราก็ยังอยู่กับลูกค้าจนบางทีหมดหน้าที่เราแล้ว แต่เราก็จะส่งลูกน้องไปช่วยดู ไป follow up ไปช่วยจนกว่างานจะออกมาเสร็จสมบูรณ์ เป็นไปตามที่ทีมเราและลูกค้าหวังไว้ค่ะ”
นักออกแบบคนเก่งเล่าว่า ทุกงานที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ล้วนเป็นงานที่เธอประทับใจทั้งสิ้น แต่งานออกแบบร้านอาหารโคบอลท์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นงานที่สร้างความประทับใจที่สุด เพราะเป็นงานที่ใช้ความคิดเยอะมาก ได้ออกแบบทุกอย่าง ตั้งแต่แพตเทิร์นลายหินขัดไปยันปลอกหมอน ทุกสิ่งในร้านล้วนสื่อสารถึงกัน ทุกอย่างคือเรื่องเดียวกัน ซึ่งโจทย์นี้เราทุกคนตั้งใจคิดมาตั้งแต่แรกว่า ทุกสิ่งต้องสัมพันธ์กัน ต้องเหมือนอยู่ในใต้ทะเลแบบเหนือจริง
ทุกผลงานที่ลงทุนทั้งแรงกายและแรงใจ ล้วนเป็นงานที่สร้างประทับใจให้กับพลอยได้เสมอ แต่เมื่อถามถึงผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอ ที่สร้างความภูมิใจให้กับเธอและทีมงาน ก็มีหลายโครงการจนมีรางวัลระดับชาติการันตีถึงชิ้นงานคุณภาพ
“เราตั้งใจสร้างสรรค์ทุกงาน แต่งานที่เข้าตาคว้ารางวัลระดับ international ก็มีหลายโครงการ เช่นประเภทงาน Architect ก็จะมีโครงการ S16 ที่พัทยา เป็นงานออกแบบมันส์ๆ ได้รางวัล International Property Awards ส่วนงานอินทีเรียที่ได้รางวัลระดับอินเตอร์ ก็จะมีโครงการ Jacqueline Hanoi ประเภทงาน Retail เป็นร้าน Multi-Brand Store ได้รับหลายรางวัลจาก Architecture & Design Award จากฮ่องกงและ China Design Awards จากประเทศจีนค่ะ ร้านอาหารก็จะมี Sushi Mori สาขา Sathorn Square ได้รับรางวัล Asia Pacific Property Awards สาขา Best Restaurant เป็นต้นค่ะ”
ส่วน “เหมี่ยว-พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ” สาวเก่งแห่ง Quattro Design (ควอตโตร ดีไซน์) ผู้นำทางด้านไลฟ์สไตล์และการแต่งบ้านมากว่า 10 ปีเล่าว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้วหลังจากที่เธอเรียนจบงานด้านอินทีเรียที่สหรัฐอเมริกา และกลับมาฝึกงานที่เมืองไทย แล้วเธอรู้สึกว่าชอบงานตกแต่งภายในบ้านมาก และในยุคนั้นยังไม่มีใครที่เปิดบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน พร้อมออกแบบและหาเฟอร์นิเจอร์อย่างครบวงจร ประกอบกับที่บ้านมีกิจการร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว เธอจึงตัดสินใจเปิดบริษัทรับตกแต่งบ้านอย่างครบวงจรเป็นเจ้าแรกๆ ในประเทศไทย
“เราต้องเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อสรรหาของมาตกแต่งบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ โซฟา โคมไฟ เพื่อนำมาตกแต่งบ้านให้ลูกค้า บางครั้งเราก็รับออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้กับลูกค้า เพื่อนำมาตกแต่งบ้าน คอนโดฯ หรือโรงแรม ให้กับลูกค้า ซึ่งทุกงานเป็นงานที่สนุกมากค่ะ”
เป็นเวลากว่า10ปีที่โลดแล่นในวงการออกแบบตกแต่งบ้าน มีตึกระฟ้าคอนโดฯ หรูหลายโครงการ อย่าง มาร์ค สุขุมวิท คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี บนถนนสุขุมวิท 39, วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน หนึ่งในสุดยอดคอนโดฯ หรู ที่อยู่ติดกับเขาตะเกียบ ฯลฯ ต่างไว้วางใจให้เธอและทีมงานเข้าไปออกแบบและตกแต่งห้องตัวอย่างมาให้แล้วทั้งสิ้น
แต่อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่นักออกแบบคนเก่งประทับใจที่สุด ถึงแม้จะเป็นเพียงโปรเจกต์เล็กๆ ก็ตาม แต่เธอก็ประทับใจมากคือ การเข้าไปช่วยทำอาร์ตเวิร์กให้กับ Bamboo Bar ที่บริเวณชั้นล่างของโรงแรม Mandarin Oriental ซึ่งบาร์แห่งนี้มีอายุกว่า 60 ปี และยังถือเป็นแจ๊ซบาร์แห่งแรกของเมืองไทยอีกด้วย
“งานนี้เราแค่รับทำอาร์ตเวิร์กอย่างเดียว แต่เราต้องคิดว่าจะไปหางานศิลปะชิ้นใดมาตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศของบาร์แห่งนี้ ที่มีอายุเก่าแก่มาก แถมยังเคยมีศิลปินระดับโลก อย่าง เจมส์ บอนด์ และอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ศิลปินชื่อดังระดับโลกมาเยือนแล้ว ซึ่งเป็นงานที่เราประทับใจมากคะ”
นอกจากนี้ ยังมีเซเลบที่หันมาเอาดีด้านงานออกแบบอีกหลายคน อย่าง วิชดา สีตกะลิน ดีไซเนอร์มาดเก๋ที่หลงรักงานอินทีเรียดีไซน์ จนมาร่วมหุ้นกับเพื่อนรัก เหมี่ยว-พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ เปิดธุรกิจ Quattro Design และ Eichholtz TH แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ทันสมัย รวมถึงเป็นดีไซน์ไดเรกเตอร์โรงแรมสุดหรูบนหาดไร่เลย์ Rayavadee และ Tamarind Village ใจกลางเมืองเชียงใหม่
เช่นเดียวกับหนุ่มนักออกแบบเครื่องเพชร “พอชท์-กิตติศักดิ์ กันดิศาคุณานนท์” ทายาทโรงงานผลิตจิลเวลรี ซึ่งได้เริ่มต้นจากการสเก็ตช์งานเล่นๆ จนมาสู่การเป็นJewelry design ที่ผสมผสานคุณค่าความงาม ความละเอียด มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทำให้ใครๆ เห็นต่างหลงรักและอยากเป็นเจ้าของ ไม่เว้นแม่แต่ สุมณี คุณะเกษม ไฮโซพันล้านและผู้เป็นเจ้าของอภิมหาคฤหาส์หมื่นล้าน ที่ไว้วางใจให้ออกแบบป้ายชื่อแฟนซีให้มาแล้วด้วยคร่า
