ถึงแม้จะเกิดมาร่ำรวย หากแต่บรรดาเซเลบเมืองไทยหลายคน เลือกที่จะไม่เสวยสุขบนกองเงินกองทอง แต่กลับคิดก่อร่างสร้างตัวด้วยมันสมองและสองมือ ดังจะเห็นได้จากมีหลายคนเลือกที่จะเปิดกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะ ร้านอาหาร ทั้งแบบที่มีหน้าร้านและแบบเดลิเวอรี ชนิดที่ว่าทั้งลงทุนลงแรงเข้าไปดูแล พร้อมขายของเองทุกอย่าง และจะมีเซเลบคนไหนบ้างที่ผันตัวมาเป็นแม่ค้า ซึ่งเป็นอาชีพพวกเขายอมรับว่าสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง เพราะสามารถทำรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัวได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
เริ่มที่สาวร่างเล็ก “จุ๋ย-จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา” ที่ตอนนี้มาเปิดร้านอาหารลูกครึ่งเกาหลีอีสานฟิวชั่นชื่อว่า “โซลจู ปูดอง” (Seoul Ju Pu Deo) ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเกินคาดเจ้าตัวจึงขยับขยายร้านจากทองหล่อมาอยู่ที่เอกมัย ในบรรยากาศร้านที่กว้างขวางกว่าเดิม พร้อมเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการมาทำร้านอาหารว่า เริ่มจากร่วมหุ้นกับเพื่อนขายปูดองอันยอง เดลิเวอรี และเกิดอยากจะมีหน้าร้านให้ลูกค้ามานั่งรับประทานบ้าง ก็เลยเปิดร้านที่ทองหล่อมีโต๊ะอยู่ประมาณ 3 โต๊ะ แต่ปรากฏว่ามีลูกค้าแน่นร้าน และบริการไม่ทั่วถึง เธอจึงตัดสินใจย้ายร้านมาเปิดที่เอกมัย ซึ่งร้านนี้มีสองชั้นสามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง และเมนูของร้านส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเกาหลีอีสาน อย่าง ส้มตำกิมจิ ส้มตำปูทะ ปูดอง เป็นต้น
จุ๋ยบอกว่า การที่มีอาชีพแม่ค้าด้วยนั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอายแต่อย่างใด กลับสร้างความภูมิใจให้อีกต่างหาก เพราะนอกจากจะดูแลตัวเองได้แล้ว ยังสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อีกด้วย
“ตั้งแต่เรียนจบจุ๋ยก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตลอด ตั้งแต่ขายเสื้อผ้าสุนัขจนมาเปิดร้านอาหาร จุ๋ยไม่ได้รู้สึกอายที่ต้องมาขายของ เพราะที่บ้านสอนเรามาตลอดว่าต้องทำงาน และตอนนี้นอกจากจุ๋ยจะมีเงินในการดูแลตัวเองแล้ว ยังมีเงินดูแลคุณแม่และครอบครัว มันเป็นความภูมิใจมากกว่าความอายนะคะ”
ส่วนสาวอารมณ์ดี “โบว์-มนต์ริสสา ลีนุตพงษ์” ที่กำลังวางแผนจะเปิดร้านกาแฟสุดชิคภายในรั้วบ้านตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเกษมสันต์ 2 เร็วๆ นี้ เล่าถึงร้านกาแฟโฉมใหม่ที่นอกจากจะขายกาแฟและขนมเค้กแล้ว เธอยังลงทุนสร้างสรรค์เมนูขนมไทยที่หารับประทานได้ยากมาขายอีกด้วย แถมทุกเมนูขนมไทยเจ้าตัวทำเองกับมือเลยคร่า
“เมื่อปลายปีที่แล้วโบว์ไปเข้าคอร์สเรียนทำขนมไทย แล้วรู้สึกชอบในความมีเสน่ห์ของขนมไทย ดังนั้น ร้านกาแฟของโบว์ที่กำลังจะเปิด จึงจะทำขนมไทยที่หารับประทานยาก อย่าง ขนมสัมปันนี อะลัว ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ทองเอก ช่อม่วง บัวหิมะ มาขายในร้านด้วยค่ะ ซึ่งแต่ละเมนูโบว์จะเป็นคนปรุงและทำเองทั้งหมดเลยค่ะ”
โบว์เล่าถึงเหตุผลที่เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ภายในรั้วบ้านของตัวเองว่า เหตุผลแรกคือบ้านอยู่ในซอยที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวตลอดเวลา และอีกอย่างคือเธออยากรู้คุณค่าของเงินมากกว่าการแบมือขอเงินพ่อกับแม่ใช้ไปวันๆ
“ซอยบ้านโบว์มีร้านจิมป์ทอมสันเปิดอยู่ ดังนั้นตลอดทั้งวันก็จะมีนักท่องเที่ยวเดินเข้าออกเป็นประจำ ฉะนั้น ถ้าโบว์เปิดร้านกาแฟและขายขนมไทยไปด้วย ก็จะทำให้ชาวต่างชาติได้มีโอกาสมาลิ้มรสชาติของขนมหวานไทยด้วย และที่ผ่านมาพ่อกับแม่มักจะพร่ำบอกโบว์เสมอว่า พ่อกับแม่สามารถหาเลี้ยงลูกได้ตลอดชีวิต เพียงแค่ลูกอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันก็พอ แต่โบว์รู้สึกว่าเราอยากรู้จักคุณค่าของเงินมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต แต่โบว์มีความรู้สึกว่าชีวิตมันถึงจุดอิ่มตัวจากการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตไปวันๆ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าชีวิตมันขาดการเหนื่อย ขาดการคิดอะไรบางอย่าง ดังนั้น จึงมีความคิดว่าเราควรทำอะไรสักอย่าง และการเปิดร้านกาแฟ พร้อมขายขนมไปด้วย มันจึงเป็นสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุด เพราะโบว์ชอบทำขนมไทยอยู่แล้วค่ะ”
ขณะที่ สาวโปรไฟล์เริ่ด “เอม-วรสุดา แพ่งสภา” ก็เป็นอักหนึ่งสาวที่ขยันคิดโปรเจกต์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ล่าสุด เจ้าตัวก็ลุกขึ้นมางัดโปรเจกต์ขายเบเกอรี่ออนไลน์ ทั้งคัฟเค้ก คุกกี้ บราวนี่ ฯลฯ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาปัดฝุ่นใหม่แล้วเปิดขายในอินสตาแกรม ภายใต้ชื่อ Stay High Bakery เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เอง
เอมเล่าถึงเหตุผลที่ลุกขึ้นมาเป็นแม่ค้าขายเบเกอรี่ออนไลน์ว่า มันเป็นอาชีพสุจริต การที่ทำแล้วทำให้เราได้เงินนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย แต่กลับมีความสุขมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ที่สามารถนำความสามารถเฉพาะตัว มาทำอะไรที่เกิดประโยชน์อันสร้างสรรค์ให้แก่ตนเอง
ถึงแม้ตัวที่บ้านจะมีธุรกิจโรงแรมใหญ่โต แถมสามียังเป็นเจ้าของร้านอาหารและผับชื่อดัง แต่ “ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์” ก็ยังขยันคิดทำโปรเจกต์อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แถมล่าสุด ยังลุกขึ้นมาช่วยทำโปรเจกต์พิเศษร่วมกับร้าน Chingcha Charlee อันเป็นร้านของสามี ด้วยการทำ “ปิ่นโตมะยงชิด” สุดหรูจาก Pirate.Delivery ซึ่งการทำปิ่นโตออนไลน์นั้น ได้เกิดมาจากความตั้งใจของเธอเอง เป็นคนคิดค้นรังสรรค์เมนูมะยงชิดสุดเริ่ด จากการชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้ส่วนตัว ซึ่งในปิ่นโตนี้ประกอบไปด้วย เมนูฮ่อยจ๊อเป็ดกรอบมะยงชิด, น้ำพริกมะยงชิด ปลาช่อนแดดเดียว/ผักออร์แกนิก และของหวาน
งานระดับเจ้าแม่โปรเจกต์ทำเองแล้วล่ะก็ ไม่มีทางทำให้ใครผิดหวัง เพราะด้วยกระแสปิ่นโตหรูที่แพร่หลายไปทั่วทั้งในหมู่ดารา เซเลบ โลกโซเซียลที่ต่างพากันอัปโหลดความอร่อยนี้ผ่านรูปภาพ พร้อม Hastag #มะยงชิดคลิกเลย ถือเป็นตัวบ่งชี้การันตีได้เลยว่า ปิ่นโตมะยงชิดของเขานั้นดีจริงๆ
ล่าสุด ยังแอบกระซิบมาอีกว่า เร็วๆ นี้มะยงชิดจะมีเมนูน้องใหม่อีกหลากหลายเมนู ฝากทุกคนติดตามกันด้วย ส่วนใครที่จะไปสั่งเมนูนี้ที่หน้าร้าน อาจจะต้องเสียใจ เพราะเมนูสุดพิเศษนี้ เขาเปิดให้ Pre-Order เฉพาะในออนไลน์แค่เดือนนี้เดือนเดียวเท่านั้น ส่วนเดือนหน้าสาวกข้าวแช่รอชิมปิ่นโตข้าวแช่ เดลิเวอรี่ จากสาวปอกันได้เลยคร่า
นอกจากนี้ ยังมีเซเลบอีกหลายคนที่ลุกขึ้นมาเป็นแม่ค้าเปิดร้านขายอาหาร บางคนที่บ้านมีกิจการใหญ่โตเป็นพันล้าน หรือบางคนเป็นถึงราชนิกูลผู้สูงศักดิ์ ก็ยังเปิดร้านขายอาหาร แถมบางวันยังลงมาดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น “คุณหญิงแมงมุม-ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล” ได้เปิดร้านอาหารอีสานครบรส ชื่อ “ไก่ย่างเสือใหญ่ by MANGMOOM” ตั้งอยู่ที่โครงการพิมาน 49, “แวว-ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์” ก็ได้ร่วมหุ้นกับพี่น้องบ้านสารสิน อย่าง สุรัชนี-สุรภาพ ลิ่มอติบูลย์, พงศ์ศิษฏ์-พงศ์วรุฒน์ ปังศรีวงศ์, แพร-ภูมิ สารสิน เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวไฮโซที่มีชื่อว่า “เนื้อคู่” มาเสิร์ฟความอร่อยเมนูเส้นให้ได้ชิมกันมานานหลายปีแล้ว, เซเลบสุดจี๊ด “จ้อ-อทิตา สุธาดารัตน์” เจ้าของเแบรนด์ขนม Home Made Delivery 'Atita Sweet Home แถมตอนนี้ยังขยับเลเวลขึ้นมาอีกขั้น เมื่อเริ่มมีองค์กรใหญ่ๆ เชิญไปเป็นวิทยากรเรื่องการทำขนมไทย จึงเปิดคอร์สเล็กๆ สอนทำขนมไทยให้กับคนที่รักขนมไทยไปด้วยเลย
ขณะที่ ทายาทปาร์คนายเลิศ “เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” แม้จะเป็นสาวร่างเล็กแต่ความแกร่งเกินชาย นอกจากจะคุมงานก่อสร้างไปจนถึงงานก้นครัวได้แล้ว ล่าสุด เจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาขายปลาร้าใส่ขวด แถมยังโพสต์ท่าสุดชิคขายปลาร้าเอง จนเพื่อนในไอจีเข้ามาแซวว่า “แม่ค้าระดับเซเลบริตี” พร้อมบอกด้วยว่า ใครสนใจก็สั่งที่แม่ค้าไฮโซคนนี้ได้เลย
ปิดท้ายที่ “มิ้นท์-ชลิตา สาลีรัฐวิภาค” ที่รับไม้ต่อจากคุณแม่ใหม่มาดูแลร้าน ก๋วยเตี๋ยวเรือคุณใหม่ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาในตำนานที่อร่อยมาก ขายดีจนต้องขยายสาขาไปเอาใจลูกค้าแถบสุขุมวิท 101 กับสาขาล่าสุด Whizdom 101 The Third Place โซน Tops Market Food and Wine ชั้น B2 คอก๋วยเตี๋ยวเรือแวะไปชิมกันได้เลยคร่า
เริ่มที่สาวร่างเล็ก “จุ๋ย-จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา” ที่ตอนนี้มาเปิดร้านอาหารลูกครึ่งเกาหลีอีสานฟิวชั่นชื่อว่า “โซลจู ปูดอง” (Seoul Ju Pu Deo) ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเกินคาดเจ้าตัวจึงขยับขยายร้านจากทองหล่อมาอยู่ที่เอกมัย ในบรรยากาศร้านที่กว้างขวางกว่าเดิม พร้อมเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการมาทำร้านอาหารว่า เริ่มจากร่วมหุ้นกับเพื่อนขายปูดองอันยอง เดลิเวอรี และเกิดอยากจะมีหน้าร้านให้ลูกค้ามานั่งรับประทานบ้าง ก็เลยเปิดร้านที่ทองหล่อมีโต๊ะอยู่ประมาณ 3 โต๊ะ แต่ปรากฏว่ามีลูกค้าแน่นร้าน และบริการไม่ทั่วถึง เธอจึงตัดสินใจย้ายร้านมาเปิดที่เอกมัย ซึ่งร้านนี้มีสองชั้นสามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง และเมนูของร้านส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเกาหลีอีสาน อย่าง ส้มตำกิมจิ ส้มตำปูทะ ปูดอง เป็นต้น
จุ๋ยบอกว่า การที่มีอาชีพแม่ค้าด้วยนั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอายแต่อย่างใด กลับสร้างความภูมิใจให้อีกต่างหาก เพราะนอกจากจะดูแลตัวเองได้แล้ว ยังสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อีกด้วย
“ตั้งแต่เรียนจบจุ๋ยก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตลอด ตั้งแต่ขายเสื้อผ้าสุนัขจนมาเปิดร้านอาหาร จุ๋ยไม่ได้รู้สึกอายที่ต้องมาขายของ เพราะที่บ้านสอนเรามาตลอดว่าต้องทำงาน และตอนนี้นอกจากจุ๋ยจะมีเงินในการดูแลตัวเองแล้ว ยังมีเงินดูแลคุณแม่และครอบครัว มันเป็นความภูมิใจมากกว่าความอายนะคะ”
ส่วนสาวอารมณ์ดี “โบว์-มนต์ริสสา ลีนุตพงษ์” ที่กำลังวางแผนจะเปิดร้านกาแฟสุดชิคภายในรั้วบ้านตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเกษมสันต์ 2 เร็วๆ นี้ เล่าถึงร้านกาแฟโฉมใหม่ที่นอกจากจะขายกาแฟและขนมเค้กแล้ว เธอยังลงทุนสร้างสรรค์เมนูขนมไทยที่หารับประทานได้ยากมาขายอีกด้วย แถมทุกเมนูขนมไทยเจ้าตัวทำเองกับมือเลยคร่า
“เมื่อปลายปีที่แล้วโบว์ไปเข้าคอร์สเรียนทำขนมไทย แล้วรู้สึกชอบในความมีเสน่ห์ของขนมไทย ดังนั้น ร้านกาแฟของโบว์ที่กำลังจะเปิด จึงจะทำขนมไทยที่หารับประทานยาก อย่าง ขนมสัมปันนี อะลัว ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ทองเอก ช่อม่วง บัวหิมะ มาขายในร้านด้วยค่ะ ซึ่งแต่ละเมนูโบว์จะเป็นคนปรุงและทำเองทั้งหมดเลยค่ะ”
โบว์เล่าถึงเหตุผลที่เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ภายในรั้วบ้านของตัวเองว่า เหตุผลแรกคือบ้านอยู่ในซอยที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวตลอดเวลา และอีกอย่างคือเธออยากรู้คุณค่าของเงินมากกว่าการแบมือขอเงินพ่อกับแม่ใช้ไปวันๆ
“ซอยบ้านโบว์มีร้านจิมป์ทอมสันเปิดอยู่ ดังนั้นตลอดทั้งวันก็จะมีนักท่องเที่ยวเดินเข้าออกเป็นประจำ ฉะนั้น ถ้าโบว์เปิดร้านกาแฟและขายขนมไทยไปด้วย ก็จะทำให้ชาวต่างชาติได้มีโอกาสมาลิ้มรสชาติของขนมหวานไทยด้วย และที่ผ่านมาพ่อกับแม่มักจะพร่ำบอกโบว์เสมอว่า พ่อกับแม่สามารถหาเลี้ยงลูกได้ตลอดชีวิต เพียงแค่ลูกอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันก็พอ แต่โบว์รู้สึกว่าเราอยากรู้จักคุณค่าของเงินมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต แต่โบว์มีความรู้สึกว่าชีวิตมันถึงจุดอิ่มตัวจากการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตไปวันๆ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าชีวิตมันขาดการเหนื่อย ขาดการคิดอะไรบางอย่าง ดังนั้น จึงมีความคิดว่าเราควรทำอะไรสักอย่าง และการเปิดร้านกาแฟ พร้อมขายขนมไปด้วย มันจึงเป็นสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุด เพราะโบว์ชอบทำขนมไทยอยู่แล้วค่ะ”
ขณะที่ สาวโปรไฟล์เริ่ด “เอม-วรสุดา แพ่งสภา” ก็เป็นอักหนึ่งสาวที่ขยันคิดโปรเจกต์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ล่าสุด เจ้าตัวก็ลุกขึ้นมางัดโปรเจกต์ขายเบเกอรี่ออนไลน์ ทั้งคัฟเค้ก คุกกี้ บราวนี่ ฯลฯ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาปัดฝุ่นใหม่แล้วเปิดขายในอินสตาแกรม ภายใต้ชื่อ Stay High Bakery เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เอง
เอมเล่าถึงเหตุผลที่ลุกขึ้นมาเป็นแม่ค้าขายเบเกอรี่ออนไลน์ว่า มันเป็นอาชีพสุจริต การที่ทำแล้วทำให้เราได้เงินนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย แต่กลับมีความสุขมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ที่สามารถนำความสามารถเฉพาะตัว มาทำอะไรที่เกิดประโยชน์อันสร้างสรรค์ให้แก่ตนเอง
ถึงแม้ตัวที่บ้านจะมีธุรกิจโรงแรมใหญ่โต แถมสามียังเป็นเจ้าของร้านอาหารและผับชื่อดัง แต่ “ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์” ก็ยังขยันคิดทำโปรเจกต์อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แถมล่าสุด ยังลุกขึ้นมาช่วยทำโปรเจกต์พิเศษร่วมกับร้าน Chingcha Charlee อันเป็นร้านของสามี ด้วยการทำ “ปิ่นโตมะยงชิด” สุดหรูจาก Pirate.Delivery ซึ่งการทำปิ่นโตออนไลน์นั้น ได้เกิดมาจากความตั้งใจของเธอเอง เป็นคนคิดค้นรังสรรค์เมนูมะยงชิดสุดเริ่ด จากการชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้ส่วนตัว ซึ่งในปิ่นโตนี้ประกอบไปด้วย เมนูฮ่อยจ๊อเป็ดกรอบมะยงชิด, น้ำพริกมะยงชิด ปลาช่อนแดดเดียว/ผักออร์แกนิก และของหวาน
งานระดับเจ้าแม่โปรเจกต์ทำเองแล้วล่ะก็ ไม่มีทางทำให้ใครผิดหวัง เพราะด้วยกระแสปิ่นโตหรูที่แพร่หลายไปทั่วทั้งในหมู่ดารา เซเลบ โลกโซเซียลที่ต่างพากันอัปโหลดความอร่อยนี้ผ่านรูปภาพ พร้อม Hastag #มะยงชิดคลิกเลย ถือเป็นตัวบ่งชี้การันตีได้เลยว่า ปิ่นโตมะยงชิดของเขานั้นดีจริงๆ
ล่าสุด ยังแอบกระซิบมาอีกว่า เร็วๆ นี้มะยงชิดจะมีเมนูน้องใหม่อีกหลากหลายเมนู ฝากทุกคนติดตามกันด้วย ส่วนใครที่จะไปสั่งเมนูนี้ที่หน้าร้าน อาจจะต้องเสียใจ เพราะเมนูสุดพิเศษนี้ เขาเปิดให้ Pre-Order เฉพาะในออนไลน์แค่เดือนนี้เดือนเดียวเท่านั้น ส่วนเดือนหน้าสาวกข้าวแช่รอชิมปิ่นโตข้าวแช่ เดลิเวอรี่ จากสาวปอกันได้เลยคร่า
นอกจากนี้ ยังมีเซเลบอีกหลายคนที่ลุกขึ้นมาเป็นแม่ค้าเปิดร้านขายอาหาร บางคนที่บ้านมีกิจการใหญ่โตเป็นพันล้าน หรือบางคนเป็นถึงราชนิกูลผู้สูงศักดิ์ ก็ยังเปิดร้านขายอาหาร แถมบางวันยังลงมาดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น “คุณหญิงแมงมุม-ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล” ได้เปิดร้านอาหารอีสานครบรส ชื่อ “ไก่ย่างเสือใหญ่ by MANGMOOM” ตั้งอยู่ที่โครงการพิมาน 49, “แวว-ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์” ก็ได้ร่วมหุ้นกับพี่น้องบ้านสารสิน อย่าง สุรัชนี-สุรภาพ ลิ่มอติบูลย์, พงศ์ศิษฏ์-พงศ์วรุฒน์ ปังศรีวงศ์, แพร-ภูมิ สารสิน เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวไฮโซที่มีชื่อว่า “เนื้อคู่” มาเสิร์ฟความอร่อยเมนูเส้นให้ได้ชิมกันมานานหลายปีแล้ว, เซเลบสุดจี๊ด “จ้อ-อทิตา สุธาดารัตน์” เจ้าของเแบรนด์ขนม Home Made Delivery 'Atita Sweet Home แถมตอนนี้ยังขยับเลเวลขึ้นมาอีกขั้น เมื่อเริ่มมีองค์กรใหญ่ๆ เชิญไปเป็นวิทยากรเรื่องการทำขนมไทย จึงเปิดคอร์สเล็กๆ สอนทำขนมไทยให้กับคนที่รักขนมไทยไปด้วยเลย
ขณะที่ ทายาทปาร์คนายเลิศ “เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” แม้จะเป็นสาวร่างเล็กแต่ความแกร่งเกินชาย นอกจากจะคุมงานก่อสร้างไปจนถึงงานก้นครัวได้แล้ว ล่าสุด เจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาขายปลาร้าใส่ขวด แถมยังโพสต์ท่าสุดชิคขายปลาร้าเอง จนเพื่อนในไอจีเข้ามาแซวว่า “แม่ค้าระดับเซเลบริตี” พร้อมบอกด้วยว่า ใครสนใจก็สั่งที่แม่ค้าไฮโซคนนี้ได้เลย
ปิดท้ายที่ “มิ้นท์-ชลิตา สาลีรัฐวิภาค” ที่รับไม้ต่อจากคุณแม่ใหม่มาดูแลร้าน ก๋วยเตี๋ยวเรือคุณใหม่ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาในตำนานที่อร่อยมาก ขายดีจนต้องขยายสาขาไปเอาใจลูกค้าแถบสุขุมวิท 101 กับสาขาล่าสุด Whizdom 101 The Third Place โซน Tops Market Food and Wine ชั้น B2 คอก๋วยเตี๋ยวเรือแวะไปชิมกันได้เลยคร่า