แค่ได้ยินนามสกุล “ทองเจือ” หลายคนอาจนึกถึงอดีตพระเอกคนดัง “พีท ทองเจือ” แต่วันนี้ เราอยากแนะนำให้รู้จักกับน้องนุชคนสุดท้องของบ้าน “น้ำตาลสด-ดรัลรัตน์ ทองเจือ” หรือชื่อสั้นๆ ที่บ้านเรียกว่า “สด” เพราะไม่หวานเหมือนน้ำตาล แต่ออกแนวลุยๆ
“คนส่วนใหญ่ที่ชื่อ น้ำตาลสด อาจเรียกตัวเองว่า “น้ำ” หรือ “ตาล” แต่เราเรียกตัวเองว่า “สด” เริ่มมาจากที่บ้านเรียกตั้งแต่เด็ก ก็ชินกับคำนี้ นึกภาพตัวเองว่าชื่อ “น้ำ” หรือ “ตาล” ไม่ออก (หัวเราะ) เพราะไม่ใช่สาวหวานแต่ออกแนวแมนๆ ห้าวๆ เพราะโตมากับคุณพ่อกับพี่พีท วิ่งเล่นในกองถ่าย ไปดูพี่พีทแข่งรถ ทำกิจกรรมผู้ชายๆ ลุยๆ เอาต์ดอร์มาตลอด” น้ำตาลสดเผยถึงที่มาของนิคเนมที่หลายคนสงสัย
พร้อมอธิบายถึงอาชีพที่ทำอยู่ว่า “สดเปิดบริษัทของตัวเองชื่อ Tangible Creative Solution รับวางแผนโครงการประชาสัมพันธ์ ทำแคมเปญครบวงจร ตั้งแต่คิดคอนเซ็ปต์ ทำสื่อประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรม สร้างแบรนด์ หรือทำแคมเปญภายในองค์กร เหตุผลที่เปิดบริษัทเพราะมีประสบการณ์มาเกือบ 20 ปี
ที่จริงจบคณะมนุษย์ศาสตร์ เอกภาษาไทย แต่ได้เริ่มงานแรกที่บริษัทโฆษณา ทำส่วนโปรดักชัน ซึ่งเป็นสายที่ถนัด เพราะเห็นการทำงานเบื้องหลังมาตั้งแต่เด็ก จากการติดตามคุณพ่อ พี่พีท พี่น้ำผึ้งไปทำงาน ทำไปสักพักก็รู้สึกอยากศึกษาเพิ่มเติม จึงไปเรียนต่อปริญญาโทด้านนิเทศศาสตร์ ซึ่งทางออฟฟิศใจดีให้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แต่พอใกล้ๆ จบมันเรียนหนักมาก บางคลาสต้องเบียดบังเวลาทำงาน ทำให้รู้สึกไม่ดี เหมือนเอาเปรียบองค์กรเลยตัดสินใจลาออก ขอทำเป็นฟรีแลนซ์แทนจนกระทั่งเรียนจบ ก็ยังสนุกสนานกับการทำฟรีแลนซ์อยู่”
แต่การเป็นฟรีแลนซ์ดูไม่มั่นคงในสายตาผู้ใหญ่ ทำให้ต้องเบนเข็มไปช่วยธุรกิจออร์กาไนเซอร์ของแฟนหนุ่ม โดยสดเล่าว่า
“ทำออร์กาไนซ์ จัดกิจกรรมต่างๆ ก็สนุกนะคะ ทำอยู่เกือบ 15 ปี จนเมื่อ 3 ปีที่แล้วมานั่งพิจารณาว่า เรามีทีมงานคุณภาพครบ ตั้งแต่ทีมเออีที่ขายงานเก่ง ครีเอทีพขั้นเทพ ทีมโปรดักชันมืออาชีพ ก็น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ เลยตัดสินใจขยายธุรกิจมาเปิดอีกบริษัท เพื่อรับงานที่ครอบคลุมเต็มรูปแบบมากขึ้นในนาม Tangible Creative Solution
คราวนี้สเกลเราใหญ่ขึ้น ได้รับโอกาสให้ทำงานที่หลากหลาย ตั้งแต่สื่อสารองค์กร ที่เข้าไปช่วยตั้งแต่ขั้นตอนแรกว่า ถ้ามีจุดประสงค์จะสื่อสารหรือสร้างการรับรู้แบบนี้ ต้องสื่อสารแบบไหน จัดกิจกรรมอะไรบ้าง ไปจนถึงงานสเกลใหญ่ อย่าง การจัดการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ซึ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำ จากคนที่ไม่ดูฟุตบอล ต้องมาบริหารการจัดทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ มีผู้เข้าร่วมงานเรือนหมื่น ก็เป็นอีกงานสำคัญที่ทำให้ได้เรียนรู้เยอะมากเช่นกัน”
อีกหนึ่งงานที่เล่าเมื่อไหร่ก็ยังภูมิใจ คือโปรเจกต์โปรโมทร้านเนื้อย่างของเพื่อน “ตอนนั้นเข้าไปดูเฟซบุ๊กร้านเพื่อนเห็นคนไลค์อยู่ 100 คน ก็เลยเกิดเป็นโปรเจกต์ที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก พอดีช่วงนั้นใกล้ฮาโลวีน เลยคิดโปรโมทร้านในออนไลน์ ด้วยการทำเป็นธีมซอมบี้อยากกินเนื้อย่าง สร้างเป็นเรื่องราว ถ่ายทำเป็นหนังสั้น มีปล่อยทีเซอร์โปรโมทด้วย คือจัดเต็มมาก แล้วก็ประสบความสำเร็จมาก ยอดคนไลค์เพิ่มเป็นหลักพันภายใน 7 วัน เกิดเป็นกระแสในโลกออนไลน์ มียอดวิวเป็นหลายแสนแบบไม่ต้องใช้เงินบู๊ทส์ จนทำให้มีลูกค้าหลายรายตามมาจากแคมเปญนี้ คือผลงานมันพูดด้วยตัวมันเอง เขาก็ปากต่อปากกัน”
เธอเล่าต่อว่า “จริงๆ สเกลงานนี้เล็กมาก เริ่มต้นมาจากบทสนทนาในกลุ่มเพื่อน แต่พอเราได้เริ่มคิดแล้วมันสนุก ทุกคนใส่ไอเดียกันไม่ยั้ง ทีมงานคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในโปรเจกต์ พอรู้รายละเอียดก็อยากช่วย ขอเป็นสแตนอินซอมบี้ มาช่วยยกพร็อบ ช่วยกันคนละไม้ละมือ ซึ่งเป็นธรรมชาติขององค์กรเรา ทุกคนสนุกกับงาน เราเรียกตัวเองว่า ทีม Tangy ทุกคนมีแพสชันในการทำงาน ไม่ได้มองว่านี่งานฉัน นี่งานเธอ แต่มองว่าเราคือทีม ทำอย่างไรผลงานจะออกมาดีที่สุด ประสบความสำเร็จที่สุด ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ทีมของเราแตกต่าง ไม่มีคำว่าน่าเบื่อ อะไรแบบเดิมๆ ซ้ำซากเราไม่ทำ”
ถึงความตั้งใจเต็มร้อย แต่ใช่ว่าทุกงานจะออกมาปังสมใจ ผู้บริหารคนเก่งยอมรับว่า มีบางงานที่ไม่เป็นอย่างที่คิดบ้าง
“สดคิดว่ามันคือประสบการณ์ ทุกครั้งที่เจอกับอะไรที่ไม่เป็นไปตามแผน มันคือการฝึกคิดแก้ปัญหา เมื่อไหร่ที่เจอกับความล้มเหลว เราจะรีบประเมินเลยว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้เป็นแบบนั้น แล้วเก็บเป็นบทเรียนสำหรับงานชิ้นถัดๆ ไป สดคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือชั่วโมงบินของเรา”
เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย นอกจากแม่ทัพจะใจเกินร้อย ขุนพลและพลทหารก็ต้องพร้อม สำหรับทีมงานคุณภาพที่ผู้บริหารคนเก่งมองหา ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด แต่ต้องเป็นน้ำไม่เต็มแก้วที่พร้อมจะเรียนรู้ “เวลามีพนักงานมาสัมภาษณ์งาน สดไม่ได้ดูแต่พอร์ตผลงาน หรือเรียนจบจากสถาบันไหน ผ่านงานอะไรมาบ้าง สดดูสิ่งที่อยู่ในตัวเขา สดชอบเปิดเวทีให้เขาได้แสดงความสามารถ ออกไอเดียมาเลยว่าถ้าเราจะมีงานแบบนี้ จะขายงานเราอย่างไร ทำอะไรบ้าง แต่คุณสมบัติที่สดมองว่าขาดไม่ได้คือ ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่โกหก สมมติถ้าเจอลูกน้องขี้เกียจ สดยังโอเคนะ เพราะสดเชื่อว่าสามารถผลักดันให้เขาขยันขึ้น ให้ทำงานให้สำเร็จได้ แต่ถ้าโกหกเราแก้ไขอะไรไม่ได้”
สำหรับเทคนิคเฉพาะตัวในการรับมือ เวลาที่หมดมุขในการสร้างสรรค์งาน น้ำตาลสดบอกว่า เธอชอบดูงานศิลปะ ชอบไปพิพิธภัณฑ์ ไปเดินดูแกลอรี “บางภาพนั่งจ้องได้เป็นครึ่งชั่วโมง สดเชื่อว่าต่อให้มองภาพเดียวกัน แต่ในเวลาและอารมณ์ที่ต่างกัน ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ตีความต่างกัน การดูงานศิลปะเหมือนเป็นการรีเฟรชสมอง หรือถ้ามันหนักๆ หรืองานยุ่ง เหนื่อยมากๆ วิธีพักของเราบางทีก็เก็บกระเป๋าขับรถไปเที่ยวคนเดียว ไปเขาใหญ่ เขาค้อ พักหนึ่งคืน ดูธรรมชาติ ใช้เวลากับตัวเอง แล้วกลับมาลุยงานต่อ” น้ำตาลสดกล่าวปิดท้ายอย่างอารมณ์ดี
