เป็นที่รู้กันดีว่า ราชวงศ์วินด์เซอร์ โดยเฉพาะ ควีนเอลิซาเบธ นั้นเคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบ และธรรมเนียมปฏิบัติมากเพียงใด ถึงแม้ช่วงหลังจะหย่อนๆ ลงแล้วก็ตามที แต่ธรรมเนียมดั้งเดิมหลายอย่างก็ยังคงไว้ และไม่มีใครที่จะกล้าฝ่าฝืนแหกกฎสักเท่าไหร่
แต่เมื่อมีประโยคคลาสสิกที่ว่า "กฎมีไว้ให้แหก" ก็ย่อมมีเหตุการณ์ไม่ทำตามกฎให้ต้องจดจำอยู่เสมอ และคราวนี้การแหกกฎนั้นเกิดในช่วงคริสต์มาส เทศกาลที่ควีนเอลิซาเบธให้ความสำคัญมากที่สุดเทศกาลหนึ่ง ช่วงที่สมาชิกราชวงศ์จะกลับมาฉลองและใช้เวลาร่วมกันช่วงท้ายปี และเป็นเช่นนี้มาตลอดยาวนาน เพียงแต่ปีนี้มีผู้แหกธรรมเนียมทุกๆ อย่างของรอยัลคริสต์มาสอย่างสิ้นเชิง และหัวโจกที่นำการแหวกธรรมเนียมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ เจ้าชายจอร์จ นำทีม เจ้าหญิงชาร์ล็อต และเจ้าชายหลุยส์ พากันแหวกธรรมเนียมสำคัญถึงสามข้อด้วยกัน
ข้อแรก รัชทายาททั้งสาม ไม่ร่วมเข้าโบสถ์สวดมนต์
ที่ผ่านมาทุกปีสมาชิกราชวงศ์จะเดินทางไปร่วมสวดมนต์กับควีนเอลิซาเบธอย่างพร้อมเพรียงที่โบสถ์ เซนต์ แมรี แมดาลีน ชานดริงแฮม แต่ปีนี้รัชทายาททั้งสามก็ไม่ได้มาร่วม โดยดยุคและดัชเชสได้ให้เหตุผลว่า ทั้งสามพระองค์ยังเด็กเกินไปที่จะร่วมพิธีที่ต้องใช้สมาธิเป็นเวลานาน
ของขวัญขอแกะก่อนไม่รอแล้วนะ
สำหรับธรรมเนียมโดยทั่วไปสำหรับช่วงคริสต์มาสนั้น คืนวันคริสต์มาสจะเป็นช่งพบปะของสมาชิกและมีมื้ออาหารร่วมกัน ส่วนของขวัญนั้นจะแกะกล่องในวันรุ่งขึ้น หรือวันที่ 26 ธันวาคม ที่เรียกว่า บ็อกซิงเดย์ นั่นแหละ แต่สำหรับรัชทายาททั้งสามพระองค์ไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะทั้งหมดได้แกะของขวัญไปตั้งแต่ตอนเช้าของวันที่ 25 ตั้งแต่ตื่นนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตกแต่งต้นคริสต์มาสก่อนใคร
คำถามที่เกิดขึ้นในทุกปี นั่นก็คือ เราจะเริ่มประดับต้นคริสต์มาสในบ้านเมื่อไหร่กัน สำหรับครอบครัวในอังกฤษโดยส่วนใหญ่แบ่งเป็นสองช่วงเวลา กลุ่มแรกจะเริ่มประดับกันตั้งแต่ 1 ธันวาคม และก็เก็บเมื่อเข้าสู่ปีใหม่ กับอีกกลุ่มหนึ่งก็จะมีเคล็ดความจำง่ายๆ ว่า จะเริ่มต้นประดับประดา 12 วันก่อนถึงวันคริสต์มาส และก็จะไปเก็บกวาดทั้งหมดอีกทีก็ 12 วันหลังวันคริสต์มาสเช่นกัน แต่สูตรเหล่านี้ไม่ใช่วิถีของบ้านดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เพราะดัชเชสแคตเธอรีนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า พระองค์ได้นำต้นสนมาประดับคริสต์มาสให้รัชทายาททั้งสามได้สนุกกับการตกแต่งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาแล้ว!
จะว่าไปแล้ว การแหกธรรมเนียมของรัชทายาททั้งสามล้วนมาจากพระบิดาและพระมารดานั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก https://www.bbc.com/thai/international