ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ มือเก่า มือเก๋า หรือมืออาชีพ สำหรับเหล่าศิลปินและนักวาดภาพประกอบแล้ว ย่อมต้องมีสักครั้งในชีวิตที่ได้วาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูนของปวงชนชาวไทย จะด้วยแสดงความจงรักภักดี แสดงความอาลัย หรือสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ ท้ายสุดแล้วทุกภาพของพ่อหลวงที่ผ่านปลายพู่กันล้วนถ่ายทอดความรู้สึกผูกพันที่มีต่อพระองค์ท่าน เฉกเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน
ในจำนวนผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าจากฝีมือของเหล่าศิลปิน ย่อมต้องมีชิ้นแห่งความทรงจำสุดประทับใจ ส่วนใครจะชื่นชอบภาพไหนบ้าง ตามมาดูกัน
เริ่มที่อาร์ติสท์แนว Pop Art ชื่งดังของเมืองไทย อย่าง โอ่ง-กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์ ที่วาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของรัชกาลที่ ๙ มามากกว่า 100 ภาพ ทุกภาพล้วนแล้วแต่ประทับใจ เขาบอกว่าไม่มีภาพไหนในชีวิตที่จะทำให้มีความสุขได้เท่ากับภาพวาดในหลวง รัชกาลที่ ๙ เพียงแต่ภาพที่เขาชื่นชอบและประทับใจเป็นภาพที่เขาเพิ่งวาดได้ไม่นานมานี้ โดยเป็นมุมที่ปกติคนทั่วไปอาจไม่ค่อยได้เห็น องค์ประกอบภาพแสดงถึงความสง่างาม อย่างที่คำสามัญเรียกว่า “ทรงพระเท่”
“ผมชอบภาพนี้เพราะเป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ที่รู้สึกได้ว่า พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ มีรอยแย้มพระโอษฐ์นิดๆ เป็นภาพที่เห็นแค่พระพักตร์ด้านข้าง แต่ถ้ามองในมุมเชิงศิลปะ รู้สึกได้ถึงอิมแพกต์ที่ให้พลังใจ ให้ความรู้สึกที่ดี (Feel Good) เป็นภาพที่ผมติดไว้บนหัวนอนตลอด”
ถัดมาเป็น นวลตอง ประสานทอง อีกหนึ่งนักวาดภาพประกอบสาวที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนความอ่อนช้อยของหญิงสาวและป่าพงไพร เผยว่าตั้งแต่มีโอกาสร่วมโครงการ 70 ภาพ 70 คำสอน 70 ปีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ ซึ่งเป็นการรวบรวมพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ที่บรรจงวาดโดย 10 ศิลปิน จากโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้นวลได้มีโอกาสฝึกฝนฝีมือวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระองค์ท่านมากยิ่งขึ้น
“ส่วนตัวนวลเชื่อว่าการวาดรูปใครก็ตาม เราจะได้แลกเปลี่ยนพลังบางอย่างจากภาพคนที่เราวาดด้วย จนนวลได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านเมื่อครั้งเสด็จออก ณ สีหบัญชร มาเป็นแบบ เหมือนวันที่นวลลงมือวาดมีสมาธิดี จิตใจปลอดโปร่ง พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ที่ออกมาจึงถ่ายทอดสายพระเนตรของพระองค์ท่านได้ออกมาอ่อนโยน และเปี่ยมด้วยพระเมตตาที่สุด จึงเป็นภาพที่นวลชอบที่สุด เพราะเหมือนเราได้ถ่ายทอดอารมณ์ของภาพได้ตรงกับที่เราอยากสื่อมากที่สุด”
ด้าน ผึ้ง-มธุนาฏ ซอโสตถิกุล ทายาทนักธุรกิจที่หันมาเอาจริงเอาจังและประสบความสำเร็จกับบทบาทศิลปินอิสระแนวอิลาสเตเตอร์ ภายใต้แบรนด์ Matunart.Designs ที่สร้างผลงานไปไกลถึงอเมริกามาแล้ว เล่าว่า ส่วนตัวเป็นคนที่วาดลายเส้นได้หลายแนว แต่สไตล์ที่เป็น Matunart.Designs คือเป็นแนวอิลาสเตเตอร์ ทำให้ปกติไม่ค่อยได้มีโอกาสวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระองค์ท่านบ่อยนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการวาดด้วยหมึกและอะคริลิก แต่เมื่อถามถึงภาพประทับใจ ผึ้งบอกว่าเป็นภาพที่วาดด้วยแนวคอลลาจ
“หลังจากพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต ในใจอยากแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ท่าน ตอนนั้นเลยวาดเป็นภาพแนวที่เราถนัดคือ เป็นภาพแนวคอลลาจที่นำภาพหลายๆ ภาพมาปะติดปะต่อกัน แต่สะท้อนรายละเอียดเอาไว้บนความเรียบง่าย ที่ไม่ว่าใครเห็นก็เข้าใจได้ อย่างในภาพมีรูปกังหัน ทุกคนรู้ได้ว่านี่คือโครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา ซึ่งพระองค์ทรงริเริ่มขึ้น, มีรูปลิง ก็หมายถึงโครงการแก้มลิง ความที่เราเป็นศิลปิน เราจึงน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วยวิธีนี้” ผึ้งย้อนถึงภาพที่เธอประทับใจ
อีกหนึ่งศิลปินนักวาดภาพชื่อดังของไทย ครูปาน-สมนึก คลังนอก ที่ได้มีโอกาสวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ อยู่บ่อยครั้ง เผยถึงภาพที่ประทับใจว่า เป็นภาพสีน้ำขนาดใหญ่เรียบง่ายแต่สะท้อนกลิ่นอายความเป็นแฟชั่น โดยเป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ที่พระองค์ท่านทรงยืนถือกล้องถ่ายรูปในพระอิริยาบถสบายๆ อยู่กลางภาพ
“จริงอยู่ว่าเป็นภาพที่ไม่เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่านเลย แต่ทุกคนที่เห็นภาพนี้จะรู้ได้ทันทีว่านี่คือ ในหลวงของเรา อีกอย่างที่ชอบภาพนี้ เพราะเวลามองจะรู้สึกราวกับว่าพระองค์ท่านกำลังทรงถ่ายรูปพวกเราอยู่ บางคนที่เห็นภาพนี้จะรู้สึกแตกต่างไปอีกแบบคือ เป็นภาพที่ไม่มี Contact Eye แต่กล้องถ่ายรูปที่พระองค์ทรงถือ นั่นล่ะเป็นตัวแทนพระเนตรของพระองค์ เรียกว่าเป็นภาพที่ทำให้คนดูสามารถรู้สึกได้หลายแบบ”
ปัจจุบันพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์นี้ติดตั้งอยู่ที่ร้าน Chubby Papaya ของครูปาน ที่ผ่านมามีหลายคนมาติดต่อขอซื้ออยู่ไม่น้อย แต่ครูปานก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง และเนื่องจากเป็นเฟรมภาพค่อนข้างใหญ่ จุดติดตั้งภาพนี้จึงอยู่ในมุมสูง ทุกครั้งที่ดูภาพต้องเงยหน้ามอง ให้ความรู้สึกเหมือนพวกเราปวงชนอยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน
ปิดท้ายที่ รอง-จิตต์สิงห์ สมบุญ แฟชั่นดีไซเนอร์ นักออกแบบ และศิลปินอิสระรุ่นใหญ่ ที่ผ่านงานวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมามากมายในวาระและโอกาสต่างๆ โดยในจำนวนนั้นภาพที่ศิลปินสุดเท่คนนี้ประทับใจที่สุด เป็นผลงานชื่อ #thelightlifeuniverse ซึ่งเป็นผลงานเทคนิคกราฟฟิตีที่แปลกตาที่สุด เป็นผลงานใหญ่ที่สุดเท่าที่ดีไซเนอร์คนนี้เคยสร้างสรรค์มา (420x340x40 ซม.) โดยเป็นการผสมผสานหลอดไฟ LED Stripes เรียงทีละเส้นบนรางเหล็กหุ้มปลอก สั่งการด้วยระบบเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว ติดตั้งบนฐานโครงสร้างแบบ wire frame ซึ่งเป็นผลงานศิลป์ที่ทำเป็นโปรเจกต์พิเศษให้กับสยามเซ็นเตอร์ และปัจจุบันบริจาคให้กับสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(องค์การมหาชน) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ให้ผู้สนใจได้เข้าชม
แนวความคิดของผลงานชิ้นนี้มีความหมายลึกซึ้ง อันได้แก่ “คือแสงสร้างชีวิต คือแสงรวมจิตวิญญาณ คือแสงแห่งจินตนาการ คือแสงก่อสุข คือแสงขจัดทุกข์ คือแสงจุดพลังงาน คือแสงนำทาง คือแสงสว่างแห่งจักรวาล”
ลิงก์การแสดงผลงาน #thelightlifeuniverse
https://goo.gl/aLMVwo
นี่คือเศษเสี้ยวหนึ่งของที่สุดในดวงใจที่เหล่าศิลปินมีต่อพ่อหลวงของเรา และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปไม่มีวันเสื่อมคลาย