สงสัยว่าช่วงนี้รถซูเปอร์คาร์ราคามันถูกลงหรืออย่างไร เพราะเห็นมหาเศรษฐีเมืองไทยทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างก็หันมานิยมสะสมรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์กันเต็มบ้านเต็มเมือง แถมในวันหยุดหรือวันว่างยังได้แปลงกายเป็นไบเกอร์ไฮโซ ขับรถสองล้อหรูคู่กายออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ยังสถานที่ต่างๆ แต่จะมีใครไหนบ้างนั้น ตามมาส่องวิถีชีวิตอิสระที่เลือกได้กันเลยคร้า
เริ่มที่เซเลบหนุ่ม โตโต้-อภิชาต สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ทายาทของ อภิชาต หวั่งหลี และ อัญชลิกา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ย้อนอดีตให้ฟังถึงสาเหตุที่เขาตกหลุมรักความงามของบิ๊กไบค์ว่า เมื่อครั้งสมัยที่เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนสาธิต ด้วยความที่บ้านอยู่ย่านที่รถติดสุดๆ วันไหนที่คิดว่าจะต้องถึงโรงเรียนสายแน่นอน ตัวช่วยที่ดีของคุณแม่คือ การพาเขานั่งซ้อนท้ายวินมอเตอร์ไซค์จากปากทางไปยังโรงเรียน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาตกหลุมรักความคล่องแคล่วและปราดเปรียวของมอเตอร์ไซค์จนถึงวันนี้
“บ้านผมอยู่สุขุมวิท 31 ซึ่งถนนเส้นนั้นรถติดหนักมาก หนทางเดียวที่จะทำให้ผมถึงโรงเรียนทันเวลาก็คือการซ้อนท้ายวินมอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน และเวลาที่นั่งรถมอเตอร์ไซค์ผมรู้สึกว่ามันเย็นสบายและรวดเร็วดี พอโตขึ้นมาหน่อยเรียนอยู่มัธยมก็ขอคุณแม่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ แต่คุณแม่ไม่ให้ซื้อเพราะเป็นห่วง ดังนั้น พอผมไปเรียนมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา เรียนอยู่ชั้นปี 3 คุณแม่อนุญาตให้ซื้อมอเตอร์ไซค์ได้ ผมจึงไปซื้อรถมือ 2 มาขี่ พอขี่แล้วรู้สึกเย็นสบายมากเพราะอากาศที่นั่นดีมาก แต่พอเรียนจบแล้วกลับมาเมืองไทยผมก็ขายรถคันนั้นไป”
ทันทีที่มาถึงประเทศไทย สิ่งแรกที่ชายหนุ่มขอมารดาก็คือ ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ และเมื่อได้รับไฟเขียวจากผู้เป็นมารดา ชายหนุ่มจึงไปซื้อรถอีกครั้งและตกหลุมรักบิ๊กไบค์คันโปรดจนมาถึงทุกวันนี้
“ความรู้สึกแรกที่ได้มาขี่มอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย ไม่ได้ต่างไปจากที่สหรัฐอเมริกา มีความเย็นสบาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ มิตรภาพในกลุ่มเพื่อนรถบิ๊กไบค์ เพราะเวลาออกทริปหนึ่งพวกเราต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ช่วยกันมองทางหน้าหลังซ้ายขวาตลอดเวลา หรือเวลาแวะรับประทานข้าว เข้าปั๊ม เราก็หยุดแวะพร้อมกัน มันเป็นมิตรภาพที่หาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน”
ทุกทริปการเดินทางด้วยรถสองล้อคู่ใจมักมีแต่ความประทับใจเสมอ แต่ทริปที่ไปมาแล้วทำให้ไบเกอร์หนุ่มเล่าได้อย่างไม่รู้ลืมคือ จังหวัดเพชรบูรณ์
“ส่วนใหญ่เวลาออกทริปเราก็จะไปจังหวัดใกล้ๆ เช้าไปเย็นกลับ อย่าง บางแสน พัทยา ชลบุรี เป็นต้น แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งพวกเราขี่รถไปออกทริปที่เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นทริปที่ประทับใจมาก เพราะนอกจากจะเป็นทริปที่ได้ขี่รถไกลและนานที่สุดแล้ว ตลอดทั้งทริปยังเต็มไปด้วยความโหด เพราะเราไปช่วงหน้าหนาวพอดี แต่ระหว่างขาไปฝนตกหนักมากแทบมองไม่เห็นทาง ต้องขี่รถลุยโคลน ขึ้นเขา แต่พอฝนหยุดตกและเราไปถึงที่หมายคือ อำเภอเขาค้อ มันเหมือนสวรรค์เลย เป็นหุบเขาที่อยู่ในทะเลหมอกมีความงดงามมากเลยครับ ที่สำคัญถนนขึ้นเขาก็มีความสวยงาม ถนนเรียบกว่าทุกสายของการขึ้นเขาเลยครับ”
ส่วนไบเกอร์สาวร่างเล็กคุณแม่ลูก 3 หุ่นยังเป๊ะ โอ๋-อภิชญา ไกรฤกษ์ สาวสวยที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายให้กับบริษัทเอกชน ใครเลยจะเชื่อว่าผู้หญิงหน้าหวานอย่างเธอนั้นจะตกหลุมรักความทะมัดทะแมงและความเร็วของบิ๊กไบค์เข้าอย่างจัง จนถึงขั้นไปเรียนขับรถบิ๊กไบค์และสอบใบขับขี่จนผ่าน
“โอ๋เป็นคนชอบความเร็วมากตั้งแต่เด็กแล้ว หลงเสน่ห์ในความเท่ของบิ๊กไบค์ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ลองสัมผัสสักที กระทั่งแต่งงานกับสามี (มด-เพิ่มศักดิ์ ไกรฤกษ์) และสามีอยากได้รถบิ๊กไบค์เราจึงสนับสนุนเต็มที่ ดังนั้น เราจึงไปซื้อรถบิ๊กไบค์มาขี่เมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้เอง และตัวโอ๋เองก็ไปเรียนขี่รถบิ๊กไบค์จนสอบได้ใบขับขี่มาเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้เรายังไม่กล้าขี่ออกถนนใหญ่สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะขี่อยู่ในสนามแข่งรถ หรือไม่ก็ที่โรงเรียนสอนขับรถมากกว่า”
ถึงแม้จะออกตัวว่าตั้งแต่ซื้อรถมายังไม่เคยขี่ออกถนนใหญ่เป็นจริงเป็นจังสักที แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ลองเปลี่ยนบทบาทจากผู้ขับขี่ในสนามแข่งรถ มาเป็นผู้ซ้อนท้ายสามีไปไกลถึงสนามการแข่งขัน Moto GP 2018 ที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อชมการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก
“ตั้งแต่ซื้อมอเตอร์ไซค์มาถือว่าการนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์สามีไปชมการแข่งขัน Moto GP2018 ที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นทริปแรกของเราทั้งสองคนเลยค่ะ ทริปนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะเป็นการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ไกลที่สุด แถมนั่งไปด้วยความเร็ว ที่นั่งด้านหลังคนขี่ก็แคบ เราต้องพยายามจับให้แน่นๆ เข้าไว้ แต่ก็สนุกและประทับใจมากค่ะ”
ด้วยหน้าที่การงานเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย ในแต่ละวันต้องเจอเรื่องเครียดมากมาย แต่เมื่อได้จับสองล้อคู่ใจแล้วความเครียดทั้งหมดก็หายเป็นปลิดทิ้ง
“การขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เหมือนการขับรถยนต์ คือเวลาขับรถยนต์เราสามารถมองอะไรโน่นนี่นั่น หรือรับสายโทรศัพท์ก็ได้ แต่การขี่รถมอเตอร์ไซค์เราต้องมีสติและสมาธิอยู่ตรงด้านหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือตอนจะแซง เราต้องมองไปข้างหน้าและมีสมาธิ และเมื่อเรามีสมาธิโฟกัสอยู่ที่ตรงนั้น มันก็ทำให้เราผ่อนคลายลืมความเครียดต่างๆ ไปได้ชั่วขณะ”
นอกจากนี้ ไบเกอร์สาวไฮโซยังมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่หลงใหลในความเร็วของบิ๊กไบค์ด้วยว่า สิ่งสำคัญสูงสุดในการขับรถคือ เรื่องความปลอดภัย เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
“การขี่รถมอเตอร์ไซค์นอกจากจะไปเรียนให้มีความชำนาญและรู้กฎจราจรแล้ว สิ่งสำคัญมากที่สุดคือ เรื่องความปลอดภัย เราต้องจัดเต็มอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มที่ ทั้งหมวกกันน็อก เสื้อ กางเกง ที่ป้องกันการกระแทก รองเท้า ถุงมือ เพราะอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเวลา และต้องมีสติทุกวินาทีในการขับรถ เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเราเองและผู้ใช้รถใช้ถนน”
นอกจากนี้ ยังมี นัท-อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ที่นอกจากจะเป็นนักฟาดแข้งตัวยงแล้ว เขายังตกหลุมรักเจ้าบิ๊กไบค์บนท้องถนนในวันหยุดอีกด้วย โดยทุกวันหยุดถ้ามีโอกาสเขาจะชักชวนเดอะแก๊งคนสนิทไปขี่รถบิ๊กไบค์ยังสถานที่ต่างๆ ทั้งร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โดยเขาเคยขี่ไปไกลสุดถึง 400 กิโลเมตร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาได้อยู่กับตัวเองและเป็นอิสระมากที่สุด
นักธุรกิจหนุ่มตี๋หน้าหยกคุณพ่อลูกสอง สาระ ล่ำซำ ก็เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ตกหลุมรักรถบิ๊กไบค์มาแสนนาน โดยเจ้าตัวบอกว่า ประทับใจในความเท่โฉบเฉี่ยวของบิ๊กไบค์มานานแล้ว และทุกวันหยุดเขาก็จะขี่สองล้อคู่ใจไปเที่ยวกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดเกือบทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งเจ้าตัวเคยขี่ไปไกลสุดถึงประเทศเวียดนามมาแล้ว และบางครั้งภรรยาคนสวย (น้ำ-สลิล) หรือลูกสาวคนสวยทั้งสองอย่าง หนูนิ่ม-สาริศา และ หนูนุ่น-สุพิชญา ก็จะเป็นผู้ซ้อนท้ายไปเที่ยวร่วมทริปเดียวกันอยู่เป็นประจำ
ปิดท้ายที่ไบเกอร์หนุ่มคนดัง ดอม เหตระกูล ที่ตกหลุมรักเจ้าสองล้อคันงามจนหมดใจ ถึงขั้นเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถบิ๊กไบค์แบรนด์ “ไทรอัมพ์” จากเกาะอังกฤษ แถมทุกวันหยุดหรือวันว่างของหนุ่มดอม นอกจากจะทำหน้าที่สามีที่ดีแล้ว ยังนัดรวมพลเพื่อนไบเกอร์คนสนิทออกทริปขี่รถไปเที่ยวจังหวัดต่างๆ อยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการใช้ชีวิตแล้ว ยังช่วยฝึกสมาธิได้อีกทางหนึ่งด้วย
