ไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ที่ “เจินนี่-กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ" นิวเจเนอเรชันของแบรนด์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ของใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงบริการเรื่องบ้านครบวงจรอันดับต้นๆ ของเมืองไทยต้องดูแลเท่านั้น แต่ในเรื่องของแฟชั่นพูดเลยว่าเธอก็มิกซ์แอนด์แมตช์ไอเท็มต่างๆ จนมาเป็นสไตล์ของตัวเอง ไม่ต่างกับการหยิบเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งบ้าน
เจินนี่เติบโตมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ในโรงงานของครอบครัวที่ก่อตั้งโดยคุณพ่อและคุณแม่ (พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ กับขันทอง อุดมมหันติสุข) ทำให้ซึมซับกับเฟอร์นิเจอร์หลากชิ้นได้อย่างไม่ยาก และเธอก็มีความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว เธอจึงมุ่งตรงที่จะเรียนบริหารธุรกิจ สาขาการบริหารจัดการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เพื่อจะนำความรู้ความสามารถมาบริหารงานในอินเด็กซ์ฯ เริ่มจากงานด้าน Export อยู่พักใหญ่ และด้วยความที่เป็นคนชอบที่จะเรียนรู้และศึกษาสิ่งต่างๆ ไม่รู้จบ จึงตัดสินใจศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ด้านการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ
“ธุรกิจนี้เป็นสิ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก รู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งก็ต้องกลับมาทำงานที่บ้าน หลังจากเรียนจบด้านการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ได้ไปลองหาประสบการณ์การทำงานเป็นสาวออฟฟิศอยู่พักหนึ่ง ประเดิมงานที่ บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่ง Trade Marketing คุณพ่อก็มักจะชวนให้เข้ามาทำงานของครอบครัวเสมอ แต่เรายังสนุก อยากลองใช้ชีวิตสาวออฟฟิศ เป็นเพียงพนักงานคนหนึ่ง ความจริงอยากทำงานที่อื่นๆ ก่อน แต่ด้วยความที่เราเป็นลูกคนโต คุณพ่อก็จะคาดหวังให้เราเข้ามาทำงาน จึงกลับมาบริหารงาน บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ โดยปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการค่ะ”
ครั้งนี้เธอได้นำความรู้ความสามารถที่มีทุ่มให้กับงานอย่างเต็มที่ ทำให้อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ เป็นที่รู้จักในเวลาไม่นาน เพราะเธอยึดถือทัศนคติแบบคนรุ่นใหม่ คือ “คิดและทำทุกวันให้ดีและเต็มที่ในทุกๆ วัน รวมถึงรับฟังปัญหาและรับทราบความเคลื่อนไหวของการทำงานของทีม (พนักงานในบริษัท) ซึ่งสิ่งนี้จะนำพาให้องค์กรพัฒนาอย่างรวดเร็ว”
“เราเป็นกรรมการผู้จัดการ ต้องดูแลทุกอย่างเพราะมีหลายแบรนด์มาก แม้จะมีผู้บริหารที่ช่วยแต่ละส่วน แต่เราก็ต้องดูกลยุทธ์ นโยบาย และเป็นคนตัดสินใจว่าจะไปในทิศทางไหน ซึ่งทั้งหมดเป็นฟีลของลีฟวิ่งหมดเลย ขายเฟอร์นิเจอร์เป็นเรื่องยากนะ แต่เราคลุกคลีมา 16 ปีนานจนรู้เรื่องการบริหารตลาดเฟอร์นิเจอร์ โดยส่วนตัวเราชอบเรื่องความสวยงามอยู่แล้ว
เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบแฟชั่น พอเริ่มโตก็เข้าใจสไตล์ของตัวเองและแฟชั่นมากขึ้น รู้ว่าเราเหมาะกับอะไร เริ่มค้นพบสไตล์ของตัวเองเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เป็นคนแต่งได้หลายสไตล์ ไม่ได้ยึดติดกับแนวเดียว หวานๆ ก็ได้ เรียบหรูก็ได้ เท่ๆ ก็ได้ หรือสตรีทก็ได้ แต่ช่วงนี้อินกับสไตล์มัสคิวลิน เท่ๆ หน่อย อาจเพราะเราเป็นผู้บริหารก็ต้องดูแลภาพลักษณ์ให้ดี”
เมื่อคุยถึงเรื่องแฟชั่นซึ่งเป็นเรื่องที่เธอสนใจก็ดูว่าจะมีเรื่องสนุกๆ ให้คุยกันเยอะ สิ่งหนึ่งที่เราค้นพบจากการถ่ายภาพแฟชั่นสไตล์การแต่งตัวของเธอในครั้งนี้ คือเธอไม่ใช่แค่สาวแฟชั่นนิสต้า แต่เธอยังเป็นเจ้าแม่วินเทจตัวจริงที่มีของเก๋ๆ ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครอีกด้วย
“หลายชิ้นที่เอามาวันนี้เป็นสไตล์วินเทจ ทั้งกระเป๋าและเครื่องประดับ ส่วนใหญ่จะไปซื้อที่ญี่ปุ่นเพราะเป็นแหล่งใหญ่ เนื่องจากคนญี่ปุ่นใช้ของแบรนด์เนมก่อนคนไทย แต่ถ้าเมืองไทยก็จะซื้อที่ร้านเดอะวินเทจ สโตร์ มีทุกอย่างทั้งเครื่องประะดับ กระเป๋า เสื้อผ้า
ที่ชอบของวินเทจเพราะสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับสไตล์การแต่งตัวของเราได้ อย่างต่างหูชาแนลใครๆ ก็ใส่กัน แต่ถ้าเราใส่ของวินเทจเวลาเราใส่ไปไหนคนก็ชม เพราะไม่มีขายแล้ว ของเหล่านี้ต้องใช้เวลาสะสม บางทีต้องรอนานมากกว่าจะมีของสวยๆ แปลกๆ เข้ามา เริ่มสะสมมา 6-7 ปีแล้วค่ะ นำมามิกซ์กับสไตล์ของเราก็สนุกดี”
ส่วนชิ้นหายากที่เธอภูมิใจที่สุดก็คือ กระเป๋ารุ่นมินิเคลลีของแบรนด์ Hermes ซึ่งเธอบอกว่าใบนี้หายากที่สุด แม้จะเลิกผลิตไปนานแล้วแต่คนก็ยังนิยม แม้จะต้องใช้เวลาตามหาใบที่สภาพดีๆ อยู่นาน ในที่สุดก็ได้มาครอบครอง และอีกนิสัยหนึ่งของเธอก็คือ การเป็นคนรักษาของ ทำให้หลายๆ ครั้งเมื่อแฟชั่นวนกลับมา เธอก็มีไอเท็มที่อินเทรนด์อยู่เสมอ
“เป็นคนรักษาของ เก็บอย่างดีในกล่อง จดไว้ด้วยว่าซื้อมาจากที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นคนที่เป็นระเบียบ กระเป๋าก็ใส่ถุงผ้าเก็บในตู้ สมัยก่อนเราซื้อกระเป๋าเยอะมาก ซื้อจนเบื่อ จนเลิกซื้อไปแล้ว (หัวเราะ) ปรากฏว่าทุกวันนี้กระเป๋าทรงถังของ หลุยส์ วิตตอง กลับมาฮิตอีก เราก็หยิบออกมาถืออีกครั้ง ยุคนั้นเรามีอยู่หลายใบทั้งทรงขนมจีบ กุชชี่แบมบู เพราะเราดูแลดี ทุกวันนี้ก็เอาออกมาใช้ได้ กระเป๋าใหม่ๆ ใครก็มีได้ แต่อย่างน้อยเรามีไม่ซ้ำคนอื่น”
เห็นสวยเป๊ะปังขนาดนี้ ดูแทบไม่ออกเลยว่าเธอเพิ่งจะเป็นคุณแม่หมาดๆ แต่ก็ยังไม่ทิ้งเรื่องความสวยความงาม แฟชั่นและการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
“แบรนด์ที่ชอบเป็นพิเศษส่วนใหญ่จะเป็นแอร์เมส ชาแนล เพราะใช้ได้นาน ส่วนเสื้อผ้าซื้อได้หมด ชอบแบรนด์ไทยอย่าง วิค ธีร์รัฐ ช่วงนี้เพิ่งคลอดลูกไม่ค่อยมีเวลาชอปปิ้ง ฉะนั้นก็จะชอปออนไลน์บ่อยหน่อย สาเหตุที่รูปร่างกลับมาเป๊ะเร็วเพราะเราเลี้ยงลูกเอง ให้นมลูกด้วยน้ำหนักจึงลดลง ส่วนเรื่องผิวพรรณก็ไปนวดบ้าง ดูแลตัวเองเรื่องสกินแคร์ไม่มีขาด แต่เป็นคนผิวแพ้ง่ายจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิกเป็นหลักค่ะ” แล้วก็ได้เวลาไปชมสไตล์วินเทจที่นำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์อย่างลงตัวกันแล้ว
:: ขอขอบคุณสถานที่ ร้าน Momentous ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โทร. 0-2610-9684
