xs
xsm
sm
md
lg

4 เซเลบเผยวิธีรับมือ! ปัญหาจุกจิกกวนใจเรื่องงาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

>>ทุกวันนี้ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมแบบไหนก็ล้วนแต่มีปัญหาทั้งสิ้น โดยเฉพาะ เรื่องงาน อย่างบรรดาเซเลบเมืองไทยหลายคนที่มีชีวิตเลิศหรูสุขสบาย มีหน้ามีตาในสังคม หากแต่ในมุมหนึ่งของชีวิตการทำงานก็ล้วนแล้วแต่เคยประสบปัญหาด้วยกันทั้งสิ้น บางคนถึงขั้นอยากไปให้พ้นจากงานที่ทำอยู่ แต่ด้วยพลังใจอันแน่วแน่ต่อสู้กับทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามา ทุกอย่างจึงผ่านไปได้ด้วยดี และเขาจะมีวิธีในการเผชิญหน้าและหาทางออกให้กับปัญหาได้อย่างไร ตามมาดูกันเลยค่ะ

เริ่มที่ ว่าที่คุณพ่อมือใหม่ แมทธิว-พลวัต ณ นคร CEO ใหญ่แห่งโครงการท่าเรือยอชต์ Port Takola ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกระบี่ แต่กว่าที่อภิมหาโปรเจกต์นี้จะประสบความสำเร็จได้ เขาต้องเผชิญกับปัญหานับร้อยที่ถาโถมเข้ามา ซึ่งชวนให้ท้อบ้างแต่เขาไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ ด้วยเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาและครอบครัวมีกำลังใจที่จะทำต่อ เพราะเชื่อว่าหากประสบความสำเร็จโครงการนี้จะช่วยพัฒนากระบี่ให้ดีขึ้น เพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว สร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ ไม่เฉพาะอาชีพบริการแต่ยังรวมถึงช่างฝีมือที่สามารถซ่อมเรือได้

“ระหว่างที่ผมกำลังทำโครงการ Port Takola มีปัญหาเยอะมากครับ ทั้งระบบวิศวกรรม ที่ประเทศไทยหาบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความชำนาญด้านนี้ยากมาก และก็มีปัญหาอีกหลายอย่างที่ผมต้องค่อยๆ คิดหาทางออก สำหรับผมเมื่อเจอปัญหา อันดับแรกต้องตั้งสติ วิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดจากอะไร และลงมือแก้ไข หาทางออกที่ดีที่สุดให้กับปัญหา มีหลายครั้งที่รู้สึกท้อ แต่ในเมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราทำเพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ มันมีประโยชน์ในระยะยาว ผมจึงตั้งสติและดำเนินการตามเป้าหมายของตัวเอง แม้มันจะยากลำบากทำให้เราถึงเป้าหมายช้ากว่าที่ตั้งไว้ แต่เพื่อประโยชน์ระยะยาวของคนส่วนใหญ่ผมก็สู้ไม่ถอยครับ” แมทธิวเล่าด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
พร้อมบอกต่อว่า ทุกครั้งที่เกิดปัญหาอาจมีท้อบ้าง แต่เพราะมีกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง ก็ทำให้ฮึดสู้ได้ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของชายหนุ่มที่ทำให้เขาชนะทุกปัญหาในการทำงาน ก็เพราะยึดคติประจำใจที่ว่า “ถ้าสิ่งที่เราทำจะมีปัญหา แต่ถ้าเรารู้ว่าทำเพื่ออะไร ถ้าเราทำสิ่งที่มีประโยชน์ก็ทำไปเถอะ ถึงแม้เจออุปสรรคบ้าง ก็ไม่มีสิ่งใดมาขวางได้ แม้จะถึงเป้าหมายช้าหน่อย” ซีอีโอคนเก่งแห่ง Port Takola เผยแรงบันดาลใจในการชนะอุปสรรค

ขณะที่ น้ำหวาน-ภาวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา สาวเก่งแห่ง D Prompt Communication ที่ต้องทำหน้าที่เป็น PR Agency ในแต่ละวันต้องพบปะลูกค้าหลากหลาย เธอยอมรับว่าการทำงานเป็นมือประสานสิบทิศนั้นต้องเจอปัญหารายวันเลยก็ว่าได้ แต่เพราะการพยายามปรับตัว และคิดว่าทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาคือบททดสอบที่ท้าทาย ซึ่งเธอต้องแก้ไขให้ผ่านไปด้วยดีให้ได้

“หวานว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในการทำงาน และทุกคนน่าจะต้องเจอกับปัญหานะคะ ซึ่งคงต้องพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด หาทางไกล่เกลี่ยให้ลงตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางทีเราควรมองว่ามันเป็นแค่ challenge เป็นบททดสอบที่ท้าทายมากกว่าในการทำงาน และเราอาจจะต้องเข้าใจว่าแต่ละท่านแต่ละแบรนด์ก็มีความต้องการไม่เหมือนกัน และแน่นอนว่าทุกท่านก็อยากได้ประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร ซึ่งเขาอาจจะมีมุมมองหรือความเข้าใจที่ไม่ตรงกับเราในแง่ของคนทำงาน หรือวิธีการทำงาน หรือข้อจำกัดในการทำงานต่างๆ ที่เราหลีกเลี่ยงหรือคอนโทรลไม่ได้ อาจจะต้องพยายามอธิบายทำความเข้าใจกันว่า ทำไมอันนี้ถึงทำได้ อันนี้ถึงไม่ได้

นอกจากนั้น เนื่องด้วยหวานทำงานกับแบรนด์ต่างชาติค่อนข้างเยอะ และหลายแบรนด์ต้องทำงานขึ้นตรงกับเมืองนอก ขั้นตอนและระบบการทำงาน มุมมอง ความเข้าใจลักษณะการทำงาน มันอาจจะต่างกันอยู่มากในบางครั้ง บางทีเมืองนอกเขาก็จะมีไกด์ไลน์ กฎระเบียบ ข้อปฏิบัติค่อนข้างเยอะ ที่เราต้องทำความเข้าใจ ปรับตัว และหาทางทำงานร่วมกันให้ลงตัว และประสบผลสำเร็จสูงสุดตามที่ตั้งไว้ค่ะ”

น้ำหวานยังบอกเคล็ดลับที่ทำให้เธอฝ่าฟันกับทุกปัญหามาได้ว่า “อย่างแรกเมื่อมีปัญหาอาจจะต้องทำสมาธิ ตั้งสติให้นิ่งก่อนค่ะ เพื่อที่จะได้คิดไตร่ตรองให้ถูกต้องถึงปัญหา และหาทางออกทางแก้ไขที่ดีที่สุด โดยการนำประสบการณ์ต่างๆ บทเรียนที่ผ่านมามาปรับใช้และแก้ไข ส่วนตัวเป็นคนชอบทำบุญ จะไปไหว้พระ ไปวัด ไปปล่อยปลาค่อนข้างบ่อย เพราะช่วยให้เราสงบ ผ่อนคลายได้มากค่ะ สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะประสบปัญหาอะไรในการทำงาน หวานจะคิดเสมอว่า ลูกค้าเลือกเราเพราะมั่นใจในตัวเราว่า จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีเสมอสำหรับหวานที่ทุกท่านให้ความไว้วางใจค่ะ”

ส่วน “พลอย มหาดำรงค์กุล” เซเลบสาวที่ทำงานหลายหน้าที่ ทั้งที่ บจก.สตูดิโอ พีแอลพี และ บจก.อาร์คิคัลเจอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป ในแต่ละวันต้องติดต่อกับลูกค้าก็ย่อมมีปัญหา แต่เธอก็มองในแง่บวกว่า ทุกปัญหาล้วนเป็นบททดสอบที่จะทำให้พัฒนาทักษะการทำงานให้ดีขึ้น

“ปัญหาในการทำงานมีทุกวันค่ะ เพราะเราทำงานออกแบบที่ไม่มีกฎหรือตรรกะตายตัวใดๆ เรา based on 3 คำนี้ค่ะ positive | live | passion เราเป็นนักออกแบบไม่ใช่ศิลปิน จึงทำแต่งานที่ตัวเองชอบไม่ได้ ต้องดีลกับความชอบ ความรู้สึกของลูกค้า และไอเดียของลูกทีม งานออกแบบไม่มีผิด ไม่มีถูก และความสวยของเรากับความสวยของลูกค้าก็อาจจะไม่เหมือนกัน การทำให้ลูกค้าถูกใจจึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย อีกทั้งต้องทำให้เร็ว ทันเวลาอีกด้วย
ยิ่งตอนนี้มี Pinterest เวลาลูกค้าเดินมาหาเราก็จะมีรูปมาแล้วบอกว่าอยากได้แบบนี้ ส่วนดีไซเนอร์ก็อยากจะนำเสนอความต่าง ไม่อยากตาม reference มาก ก็จะต้องหาวิธีนำเสนอ หาข้อมูลให้ลูกค้า ทำให้งานดีไซน์เราต่างออกไป นี่ก็เป็นปัญหาที่เจอทุกๆ วัน แต่เรามองว่ามันเป็นเรื่องที่ challenge มากๆ เพราะเราจะได้พัฒนา skill ของเราขึ้นไปอีก ยิ่งยากยิ่งสนุก ปีๆ หนึ่งเราได้เจอลูกค้าหลากหลาย ธุรกิจก็หลากหลาย เราได้ความรู้จากลูกค้าตลอดเวลา”

สาวเก่งเล่าต่อว่า ปัญหาอีกอย่างที่เจอทุกๆ วันคือ เวลาลูกทีมมานำเสนองาน เราจะทำอย่างไรให้เขาได้พัฒนางานของเขาต่อไปให้ถูก direction ไม่เคยปัดตกไอเดียของลูกทีม แต่จะแนะนำให้เขาพัฒนาจากจุดที่เขาคิดจริงๆ เป็นนักออกแบบจริงๆ ไม่ใช่ศิลปินที่จะแค่ดีไซน์ในสิ่งที่ตัวเองชอบ และเราก็ภูมิใจกับนักออกแบบในทีมทุกคน ซึ่งมีพัฒนาการเร็วและโตขึ้นตามสถานการณ์ดีมากๆ

“ปัญหาเป็นครู ปัญหาใหญ่ๆ ที่ตั้งใจให้เกิดคือออฟฟิศเราจะสอนลูกทีมแบบที่ให้เขามีโอกาสได้ทำผิด และเขาจะเรียนรู้เองจากความผิดนั้นๆ เราจะไม่เตือนเพราะอยากให้เขาเผชิญเอง แต่จะมองๆ และหาแผนสำรองเอาไว้ และพร้อมจะเป็นแบ็กอัพคอยแก้ปัญหาให้เสมอ แน่นอนว่าความเสียหายที่จะให้บทเรียนนั้นมันราคาแพงมากๆ แต่เราก็โอเคในจุดนี้ เราเสียเงินให้ลูกทีมเก่ง เรียนรู้ และโตขึ้น สำหรับงานที่มีปัญหาก็จะกลับมาคุยกับพาร์ตเนอร์และลูกทีมทันทีเพื่อหาทางแก้ไข แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเปลี่ยนวิธีทำใหม่ให้ดีขึ้น พวกเรารับฟัง คิดตามและจะปรับตัวทันที ยิ่งเจอปัญหายิ่งทำให้โตขึ้น พัฒนาขึ้นค่ะ” สาวพลอยแนะวิธีรับมือกับปัญหา

ปิดท้ายที่เซเลบสาวมากความสามารถ “มายด์-กุณฑีรา ปัจฉิมสวัสดิ์” เจ้าของแบรนด์หมวก “mind millinery” ที่ทุกวันนี้เธอใช้ชีวิตอยู่กับสามีที่สหรัฐอเมริกามานานกว่า 2 ปีแล้ว เป็นอีกหนึ่งสาวที่มีพร้อมทุกอย่าง หากแต่อีกมุมหนึ่งเธอก็เคยประสบปัญหาในการทำแบรนด์หมวกที่เธอรักเช่นกัน

“ด้วยความที่เราเป็นคนชอบออกแบบชอบงานประดิษฐ์ จึงทำหมวกขึ้นมาใส่เล่น ไม่ได้คิดจะทำเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง เพราะว่าหมวกไม่ใช่สินค้าจำเป็นสำหรับทุกคน มันต้องเฉพาะกลุ่ม แต่พอเราทำหมวกมาใส่เล่นกลับมีคนถูกใจ และสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนต้องทำเป็นแบรนด์เปิดขายในห้าง แต่พอมาทำธุรกิจตัวนี้จริงๆ กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะเราเก่งเฉพาะงานออกแบบ แต่ไม่มีความรู้ด้านธุรกิจ แรกๆ มีปัญหากับชิปปิ้งตลอด คือได้สินค้าไม่ครบ ของที่สั่งล่าช้ากว่ากำหนด หรือบางครั้งก็ส่งของให้ลูกค้าไม่ตรงเวลา ตอนนั้นยอมรับว่าท้อมาก จนคิดอยากจะปิดการทำแบรนด์ตัวนี้ไปเสียให้สิ้นเรื่อง”

หญิงสาวยอมรับว่าช่วงนั้นเหนื่อยสุดๆ แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น สิ่งแรกที่เธอทำคือตั้งสติควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพราะคนที่รู้วิธีการควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ จะเป็นผู้ที่ได้เปรียบในการใช้ชีวิต

“ตอนนั้นอยากจะเลิกทำไปเลยนะคะ เพราะมีปัญหารอบด้าน แต่เมื่อมีเวลาได้อยู่กับตัวเอง ต้องตั้งสติและหาวิธีควบคุมอารมณ์ให้ได้ มายด์ใช้วิธีนั่งสมาธิ อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพชีวิตของมนุษย์ และจดบันทึกระบายความรู้สึกลงไปในไดอารี จึงทำให้จิตใจสงบนิ่ง และหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับปัญหาได้ อีกทั้งเพราะกำลังใจจากคนรอบข้าง ประกอบกับโอกาสดีๆ ที่มีผู้เมตตาหยิบยื่นให้เสมอ จึงทำให้เธอลุกขึ้นมาสู้ จนทำให้แบรนด์หมวกอยู่มาได้ถึง 6 ปีแล้ว ที่สำคัญ ในอนาคตอันใกล้นี้เราจะเปิดขายทางออนไลน์ด้วยค่ะ” มายด์ปิดท้ายด้วยน้ำเสียงสดใส


กำลังโหลดความคิดเห็น