xs
xsm
sm
md
lg

พัณณิตา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา จากสาวเนิร์ด สู่สาวเป๊ะปังเรื่องแฟชั่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ครั้งหนึ่งสาวสวยคนนี้เคยถูกมองว่าเป็น “เด็กเนิร์ด” ผู้คงแก่เรียน ก็แหม...จะไม่ให้คิดอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะคนที่เรากำลังคุยอยู่เธอเป็นเซเลบริตีสาวผู้คว้าปริญญามาแล้วถึง 3 ใบ “แพร-พัณณิตา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” ทายาทนักธุรกิจดำน้ำและรีสอร์ตหรูที่อินโดนีเซีย ลูกสาวสุดรักสุดหวงของ คุณพ่อกษิดิศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และคุณแม่ฐิติพร ณ.ส. สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

“เป็นคนชอบเรียนมากๆ เรียนจบมาเยอะ เริ่มจากปริญญาตรีใบแรกเรียนทางด้าน Biomedical Sciences ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง University College London (UCL) เพราะว่าตอนเด็กๆ เรารู้สึกว่าวิชาที่เราถนัดคือวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประกอบกับรู้สึกนิดๆ ว่าอยากเป็นหมอก็เลยเลือกเรียน แต่พอเรียนไปช่วงปี 2-3 เริ่มค้นพบว่าไม่ใช่ทางของเรา เพราะต้องมีการผ่าตัด ทดสอบผ่าร่างที่ไร้ชีวิต ซึ่งเราเป็นคนที่กลัวผีมากก็เลยเริ่มกลัว แต่ก็เรียนจนจบปริญญาตรี

จากนั้นก็เริ่มมองหาวิชาอื่นเรียนต่อที่น่าจะไปในสายเดิม แต่เลี่ยงๆ การผ่าตัดไปหน่อย ก็เลยไปเรียนปริญญาโทด้าน Biomedical Engineering ที่ Imperial College London ที่เลือกที่นี่เพราะเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิชาที่เรียนเป็นวิศวกรรมศาสตร์การแพทย์ เป็นวิชาใหม่ที่กำลังมาแรง เป็นการเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่องการรักษาเน้นไปทางวัสดุศาสตร์ เช่น สเต็มเซลล์ รู้สึกว่าน่าสนใจ เพราะแรงบันดาลใจครั้งหนึ่งของเราคือ อยากทำเครื่องสำอาง”

หลังจากคว้าปริญญาโทมาได้สำเร็จ เธอได้กลับมาช่วยงานทางบ้าน ซึ่งเป็นการจุดประกายเล็กๆ ว่าน่าจะลองศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้านบริหารธุรกิจดูบ้าง เพราะตลอดชีวิตนักศึกษาที่ผ่านมานั้นวนเวียนอยู่แต่กับตัวเลขและวิทยาศาสตร์ จึงขอทางบ้านสมัครเรียนปริญญาโทอีกหนึ่งใบในสาขา MBA บริหารธุรกิจ ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเพิ่งคว้าใบปริญญามาหมาดๆ

“พอได้เรียนด้านการบริหารธุรกิจ เราก็พบว่าสนุกและกลายเป็นว่าชอบด้านมาร์เกตติ้ง ชอบการจัดการ การคิดกลยุทธ์ทางการตลาด เป็นอะไรที่ได้คิดนอกกรอบ เพราะที่ผ่านมาเราอยู่กับทฤษฎีมาตลอด พอมาเจออย่างนี้รู้สึกเปิดโลกกว้าง ก็เลยเอนจอยมาก เมื่อเราอยากทำงานที่เมืองไทย การเรียนที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นเหมาะมาก เพราะเรายังได้คอนเนกชันมากมาย ได้ทดลองการเรียนจริง รู้สึกเป็นอะไรที่จับต้องได้ เข้าใจง่าย”

ด้วยความที่ชอบด้านการตลาด บวกกับเรื่องที่เข้าใจง่ายของผู้หญิงก็คือเรื่องของแฟชั่น ประกอบกับโอกาสที่ดี ทำให้คุณแพรได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ได้ฝึกให้เธอโตขึ้นอีกสเต็ป มีความรับผิดชอบมากขึ้นและซึมซับสิ่งต่างๆ เข้ามาโดยที่ไม่รู้ตัว จนทำให้วันนี้เธอเป็นแฟชั่นนิสต้าสาวผู้มีสไตล์เรียบ หรู ดูดี จนสปอตไลต์ต้องส่องมาที่เธอ

“เราสนใจแฟชั่นอยู่แล้ว สมัยเด็กๆ ชอบไปชอปปิ้งกับคุณแม่ แล้วก็โดนคุณแม่จับแต่งตัวเยอะมาก ย้อนไปดูภาพสมัยเด็กแต่งตัวแซบมาก ใส่รองเท้าบูต ใส่แว่นตา แต่ก็มีช่วงที่เริ่มโต อยากเป็นตัวของตัวเอง เลือกสไตล์เอง ซึ่งออกมาก็จะตลกๆ นิดหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นช่วงพลาด เคยตัดผมแล้วพลาดถึงขั้นต้องไปต่อผม (หัวเราะ) กระทั่งมาเริ่มปรับตัวเข้าใจแฟชั่นของตัวเองจริงๆ คือตอนไปเรียนที่อังกฤษ ด้วยความที่อังกฤษย่านชอปปิ้งเยอะ ขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่นอยู่แล้ว เราก็ดูไปจนเป็นสไตล์ของเรา

สไตล์ของเราไม่ชอบใส่อะไรเยอะ เป็นคนเรียบหรู ไม่เน้นลวดลาย เสื้อผ้าสีพื้นๆ ไม่ต้องมีแอ็กเซสซอรีอะไรมากมาย เป็นคนซื้อได้ทุกอย่าง ถูกก็ได้ แพงก็ได้ แล้วนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กัน ชอบแต่งตัวสวยๆ ไปทำงาน ไม่ค่อยปล่อยตัวเองให้โทรม เลือกที่ชอบ เลือกที่เหมาะกับเรา เหมาะสมกับโอกาส แค่นี้ก็คิดว่าโอเคแล้ว แบรนด์ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือ ชาแนล (Chanel) เป็นแบรนด์ที่มีความคลาสสิก เรียบหรู สีไม่ได้จัดจ้าน ดีไซน์ไม่มีทางเอาต์ ใส่ได้ตลอดกาล”

วนเวียนอยู่กับแบรนด์ดังแฟชั่นหรู แต่สาวคนนี้ก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยอย่างที่ใครคิด เพราะเธอยังมี “สติ” ในการจัดการกับการเงิน แม้บางครั้งจะเผลอชอปปิ้งหนักไปหน่อย!

“เสียเงินกับกระเป๋าและนาฬิกาง่ายที่สุด ใบโปรดล่าสุดก็คือแบรนด์ Goyard นอกจากนี้ยังเป็นคนที่บ้ารองเท้ามาก ไปทุกทริปต้องมีรองเท้ากลับมา ไม่ใส่ก็ขอให้ได้ซื้อ แต่เราก็ต้องมีการบริหารการเงินให้ดี รู้จักเพลาๆ บ้าง (หัวเราะ) ถ้าเดือนนี้ชอปหนักเดือนถัดไปก็ต้องระวัง ต้องมีการจัดสรรปันส่วนแบ่งเก็บไว้รอซื้อของที่เราอยากได้บ้าง เก็บไว้สำหรับใช้ในอนาคตบ้างค่ะ บางชิ้นที่เราซื้อไปก็จะเก็บรักษาอย่างดี เพราะวันหนึ่งแฟชั่นก็อาจจะวนกลับมาอีก เราก็สามารถนำของที่มีออกมาใช้ได้อีกครั้งตามวัฏจักรของแฟชั่นค่ะ” สาวแพรกล่าวทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดี


กำลังโหลดความคิดเห็น