xs
xsm
sm
md
lg

รพ.วัฒนา-อุดรธานีจับมือเซฟฮาร์ท เปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือดทันสมัยที่สุดในอีสานตอนบน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชูจุดเด่นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจพร้อมรักษาตลอด 24 ชั่วโมง มุ่งเป้าพัฒนาเพื่อคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ เพิ่มโอกาสในการรักษาต่อเนื่องโดยไม่ต้องเดินทาง เพิ่มโอกาสในการรักษากรณีฉุกเฉิน ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ จับมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด “เซฟฮาร์ท การแพทย์” บริการตรวจ คัดกรอง รักษา โรคหัวใจและหลอดเลือด เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายของโรคหัวใจที่เป็นภัยคร่าชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย พร้อมเปิดตัว Mobile CCU รุ่นใหม่ สามารถส่งตัวเพื่อรักษาฉุกเฉินจากเวียงจันทน์ถึงศูนย์ฯ ภายใน 2 ชั่วโมง

ดร.ณัฐธิรา ตั้งสืบกุล ผู้บริหารโรงพยาบาลวัฒนา-อุดรธานี โรงพยาบาลแห่งแรกของเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่ผ่านการรับรองคุณภาพการรักษาและการให้บริการแก่ผู้ป่วย HA (Hospital Accreditation) เปิดเผยว่า จากสถิติผู้ป่วยโรคหัวใจในเขตจังหวัดอุดรธานี และภาคอีสานตอนบนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายของโรงพยาบาลในการรองรับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ โรงพยาบาลวัฒนา-อุดรธานีจึงได้ผนึกกำลังกับ บริษัท เซฟฮาร์ท การแพทย์ จำกัด ก่อตั้งศูนย์หัวใจและหลอดเลือดเซฟฮาร์ท-วัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต และโอกาสในการรอดชีวิตให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ทั้งในแง่ของการป้องกัน การรักษาต่อเนื่อง การรักษาฉุกเฉินได้ทันท่วงที รวมไปถึงการรับส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจากพื้นที่ภาคอีสานตอนบน และ สปป.ลาว

“การเปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือดเซฟฮาร์ท-วัฒนานั้น นอกจากการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่คนในพื้นที่แล้ว ยังรวมถึงการรองรับความต้องการทางการแพทย์ของพื้นที่ภาคอีสานตอนบน และประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยที่ผ่านมาโรงพยาบาลเครือข่ายของเราอย่างโรงพยาบาลวัฒนา-หนองคาย และ Alliance International Medical Centre (สปป.ลาว) มีความต้องการในการส่งตัวผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบฉุกเฉินมากขึ้นทุกปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นกรณีฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ล่าสุดเราจึงได้จับมือกันเพิ่ม Mobile CCU ซึ่งเป็นรถกู้ชีพฉุกเฉินที่ทันสมัย มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถเพิ่มอุปกณ์ช่วยชีวิตได้มากขึ้น สามารถทำการรักษาชีวิต และดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินอาการหนักระหว่างการส่งต่อมายังโรงพยาบาลวัฒนา-อุดรธานีในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง และที่สำคัญเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที” ดร.ณัฐธิรากล่าว

นายแพทย์ ไพศาล กอบเกื้อชัยพงษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด กล่าวระหว่างการเสวนา "รู้เท่าทัน โรคหัวใจ อันตรายใกล้ตัว" เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ และรู้เท่าทันโรคหัวใจให้กับผู้สนใจในจังหวัดอุดรธานีว่า อุบัติการณ์โรคหัวใจของจังหวัดอุดรธานีในปี 2560 พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงถึง 373 คน โดยเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 3.64 ส่วนมากเป็นประชากรในช่วงอายุระหว่าง 40-60 ปี นับเป็นอันดับต้นๆ ของเขตภาคอีสานตอนบน ส่วนใหญ่เป็นอาการแบบเฉียบพลัน ซึ่งคาดว่าเกิดจากการที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงและไม่เคยเข้ารับการตรวจรักษา หรือการตรวจคัดกรองใดๆ และยังคงใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่ได้ระมัดระวังหรือป้องกันแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังมีปัญหาเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที และการรักษาแบบต่อเนื่องอีกด้วย

นายแพทย์ ไพศาลเปิดเผยว่า การเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และหลอดเลือดของคนไทยโดยเฉลี่ยสูงถึง 150 คนต่อวัน นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของไทย รองจากโรคมะเร็ง และอุบัติเหตุ สาเหตุของโรคหัวใจที่คนไทยเป็นมากที่สุดเกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งมักเกิดจากการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดจนเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย จึงมีอัตราการเสียชีวิตสูง ในอดีตมักเกิดแก่ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่ในปัจจุบันจากพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม อาหารไขมันสูง ไปจนถึงการรับประทานบุฟเฟต์หรือปิ้งย่างเป็นประจำ ประกอบกับการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ มีความเครียดสูง ทำให้กลุ่มผู้อายุต่ำกว่า 40 ปีมีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น จึงควรดูแลตัวเองให้ดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค และการใช้ชีวิตให้เหมาะสม รวมถึงควรตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อป้องกันก่อนจะสายเกินไป

“ตามการคาดการณ์ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 โดยประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะส่วนของการให้บริการทางการแพทย์ จำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อกลุ่มโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่มักมีอุบัติการณ์ในกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้น ซึ่งโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นโรคที่มักพบบ่อยในผู้ป่วยช่วงวัยกลางคนถึงสูงอายุ นอกจากนั้นการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีความซับซ้อน และยุ่งยากมากกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีโรคร่วมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัมพาต ไตวาย การรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ในสถานที่ที่มีอุปกรณ์เพียบพร้อม ได้อย่างต่อเนื่อง และทันท่วงที โดยสามารถลดความยุ่งยากและระยะเวลาในการเดินทาง ทำให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาในที่ที่มีความคุ้นเคย หรือใกล้บ้านได้ ย่อมส่งผลดีทั้งในแง่สุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้ป่วยอีกด้วย โดยศูนย์หัวใจและหลอดเลือดเซฟฮาร์ท-วัฒนา ได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัย เครื่องสวนหัวใจรุ่นใหม่ล่าสุด มาใช้ในการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ป่วยสามารถสอบถามข้อมูลการให้บริการ และจองคิวนัดตรวจพบแพทย์และเข้ารับบริการในระบบผ่าน Website และ Application ของทางศูนย์หัวใจและหลอดเลือดเซฟฮาร์ท-วัฒนา โดยจะได้รับการตอบกลับภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที ซึ่งเรามีความมั่นใจว่าการเปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือดเซฟฮาร์ท-วัฒนา ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจประจำ 24 ชั่วโมงในครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่คนในพื้นที่ ลดอัตราการสูญเสียได้อย่างแน่นอน” นายแพทย์ ไพศาลกล่าว

ทั้งนี้ โรงพยาบาลวัฒนา-อุดรธานีได้ให้บริการแก่ผู้คนในจังหวัดอุดรธานี และเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 และได้ปรับโฉมใหม่ รวมถึงยกระดับคุณภาพการให้บริการ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ขึ้นมาอีกระดับ โดยเพิ่มบริการทางการแพทย์ที่หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน ขยายศักยภาพในการรองรับผู้ใช้บริการ และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น