จากสาวอาร์ตผู้หลงใหลในการออกแบบ แม้ชีวิตจะพาให้หลงทางจากเส้นทางที่ฝันไปบ้าง แต่สุดท้ายโชคชะตาก็พาให้ “พลอย มหาดำรงค์กุล” ผู้ร่วมก่อตั้ง “สตูดิโอ พอยต์ ไลน์ เพลน” (Studio Point Line Plane) กลับมายืนที่เดิม และสร้างอาณาจักรนี้ให้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิ
“5 ปีแล้วค่ะที่เริ่มต้นทำธุรกิจนี้ จากตอนแรกรับทำอินทีเรียอย่างเดียว วันนี้เราขยายธุรกิจให้ครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเชิงธุรกิจที่หลายครั้งอยากเริ่มต้นธุรกิจแต่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน ยกตัวอย่าง ลูกค้าที่เป็นเชฟมาตลอดชีวิตอยากเปิดร้านอาหารแต่ไม่รู้วิธีทำธุรกิจ ทำให้เรากลับมาคิดว่าถ้าอย่างนั้นเราน่าจะขยายบริการให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพิ่มในส่วนการทำแบรนดิ้ง มาร์เกตติ้งทั้งออฟไลน์และออนไลน์เข้ามา นอกจากนี้ พลอยยังมีอีกบริษัทที่รับทำเฉพาะงานสถาปนิก ออกแบบโครงสร้างภายนอกอย่างเดียวด้วย”
จากวันแรกถึงวันนี้ พลอยบอกเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า “ได้เจออะไรใหม่ๆ ตลอด เพราะเราเริ่มจากธุรกิจที่ไม่ครบ แล้วค่อยๆ ขยายสร้างทีมจนตอนนี้ครบวงจรแล้ว หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราเลือกฟอร์มทีมเองแทนที่จะใช้เอาต์ซอร์สเพราะเรามองว่าเราไม่สามารถควบคุมคุณภาพงานจากเอาต์ซอร์สทั้งหมดได้ สุดท้ายนอกจากเราเองก็เหนื่อยลูกค้าก็ไม่ได้งานที่ 100% สู้เราสร้างทีมของเราเองดีกว่า พลอยคิดว่าพลอยโชคดีที่ได้ทีมงานดี หลายคนอาจจะมองว่าเด็กยุคใหม่ไม่อดทน แต่ทีมพลอยทุกคนอดทนมาก ที่สำคัญมีแพสชันในการทำงานดีไซน์สุดๆ เพราะถ้าไม่มีพวกเขาบริษัทเราคงจะไม่โตขนาดนี้”
ผู้บริหารสาวเก่งย้ำว่า ดีเอ็นเอของทุกคนที่นี่คือเรียนรู้ พัฒนา และก้าวไปข้างหน้า เพื่อนำการดีไซน์ไปช่วยเหลือให้ธุรกิจของลูกค้าดีขึ้น ก้าวหน้าขึ้น
“เรื่องการออกแบบกับฮวงจุ้ยมีแน่นอน ลูกค้าบางคนจ้างซินแสมาดู เราก็ต้องทำงานร่วมกับซินแสซึ่งก็มีหลายรูปแบบ เช่น แทนที่จะกำหนดขนาดพื้นที่หน้ากว้างหน้ายาวเป็นเลขกลมๆ ก็อาจจะต้องลงท้ายด้วยเลข 9 ถามว่าทำให้ทำงานยากขึ้นไหม ก็มีส่วน แต่พลอยมองว่าเป็นความสนุก ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะถ้ามัวอยู่ในคอมฟอร์ตโซนเราก็จะไม่ได้เรียนรู้และต่อยอด”
จากความมุ่งมั่นและแพสชันในการทำงานนี้เอง ทำให้ธุรกิจที่พลอยนิยามว่าเริ่มต้นจากความ “บังเอิญ” กลายเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสและก้าวกระโดดมาถึงจุดที่น่าพอใจได้อย่าง “ไม่บังเอิญ”
“เราเริ่มจากพนักงาน 2 คน แต่ก่อนรับงานได้แค่งานเดียว แถมพนักงาน 1 คนต้องเป็นทุกอย่าง ตั้งแต่หาข้อมูล ออกแบบ เขียนแบบ ไปดูไซต์งาน ยิ่งงานของเราเป็นงานในห้างสรรพสินค้า กว่าจะเข้าไปดูหน้างานได้ต้องรอหลัง 4 ทุ่ม เท่ากับว่าพนักงาน 1 คนต้องทำงานตั้งแต่เช้าจดค่ำ พอเห็นแบบนั้นเราก็ต้องยอมเพิ่มคนเพื่อให้พนักงานที่มีอยู่ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ทำงานได้เร็วขึ้น สามารถรับลูกค้าใหม่ได้ วันนี้เรามีทีมดีไซเนอร์ทั้งหมด 12 คน และยังมีทีมงานด้านอื่นๆ เป็นกำลังเสริม” พลอยเล่าไปขำไปถึงช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ก่อนจะเผยต่อว่า
“เราเริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์ ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธุรกิจนี้ยาก-ง่ายขนาดไหน ตอนที่เรียนจบดีไซน์ก็ไม่ได้ทำงานตรงสาย จนพอจบ ป.โทกลับมา เริ่มกลับมาถามตัวเองว่าอยากทำอะไรจริงๆ จนได้มาเจอกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นสถาปนิก เลยคิดว่าจะทำธุรกิจด้านนี้ พอคิดปุ๊บตามสไตล์พลอยก็คือทำเลย ไม่รอช้า จนตอนที่เปิดบริษัทเรียบร้อย พาร์ตเนอร์ยังตกใจ (หัวเราะ) ช่วงแรกๆ ที่ทำธุรกิจอาศัยลองผิดลองถูก โชคดีเราสองคนเป็นแนวกล้าลงทุน โดยเฉพาะกับคน ซึ่งพลอยว่าเป็นข้อดีนะ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นบริษัทเราคงไม่โตเร็วแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่า “ทำธุรกิจ” ทุกคนย่อมหวังกำไร เมื่อผลประกอบการไม่เป็นดั่งใจก็ถึงเวลาต้องทบทวน
“2 ปีแรกที่เริ่มต้นธุรกิจยอมรับว่าขาดทุน เพราะนอกจากเราจะจ้างคนเยอะ ใช้เงินในการอำนวยความสะดวกให้ลูกน้อง อย่างเวลาไปไหนก็ให้เบิกได้ อยากให้ลูกน้องสบายก็พาไปเอาติ้งฝรั่งเศส เรายังขาดการวางแผนทางบัญชีที่ดี แต่พอตอนหลังเริ่มวางแผนอย่างเป็นระบบ ทุกอย่างดีขึ้น พอปีที่ 3 บริษัทก็เริ่มขยายไปรับงานจากต่างประเทศ จากงานหลักแสนก็เพิ่มสเกลเป็นงานหลักสิบล้าน”
ถามว่าอะไรคือสิ่งที่ยากสำหรับการทำธุรกิจ พลอยตอบอย่างฉะฉานว่า ความเข้าใจ “ความเข้าใจในที่นี้ไม่ใช่แค่เข้าใจลูกค้า แต่ต้องเข้าใจลูกค้าของลูกค้า ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากมาก อย่างที่บอกว่าธุรกิจของพลอยลูกค้าเราเป็นเจ้าของร้านอาหาร เราต้องคิดเผื่อว่าจะออกแบบอย่างไรให้ลูกค้าของลูกค้าเข้ามากินอาหารแล้วประทับใจ ทำแบรนดิ้ง ทำการตลาดอย่างไร”
ก้าวต่อไปของธุรกิจดีไซน์ภายใต้การนำของสายอาร์ต เธอกล่าวอย่างติดตลกว่า “คงต้องเริ่มเข้าหาลูกค้าบ้าง จากที่ผ่านมา 5 ปีลูกค้าเป็นฝ่ายเข้ามาหาเพราะได้รับการแนะนำจากปากต่อปาก แต่ตอนนี้คู่แข่งเพิ่มขึ้นเราต้องวางแผนหาลูกค้า เพราะไม่รู้ลูกค้าจะหยุดเข้ามาหาเราเมื่อไหร่ (หัวเราะ) เดี๋ยวนี้มีบริษัทดีไซน์เกิดขึ้นทุกวัน แถมน้องรุ่นใหม่ๆ ก็ยังมีฝีมือ ถ้าเรามัวอยู่แต่ในคอมฟอร์ตโซน น้องๆ ก็อาจแย่งลูกค้าเราไปหมด”
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ พลอยแนะนำว่าอย่าลังเลที่จะเริ่มต้น เพียงแต่ก่อนทำต้องทำการบ้านให้ดี ศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจให้รอบด้าน วางแผนให้รอบคอบ ที่สำคัญต้องปรับตัวให้ไวกับโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา