“แม่” เป็นคำสั้นๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง แม่คือผู้หญิงคนหนึ่งที่รักลูกแบบปราศจากเงื่อนไขใดๆ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมนี้ Celeb Online ขอตามติดชีวิตคุณแม่เซเลบป้ายแดงที่เพิ่งให้กำเนิดลูกคนแรก และก็มีอีกหลายคนที่กำลังตั้งครรภ์และจะเป็นคุณแม่มือใหม่ในไม่ช้า ลองตามมาอัปเดตกันเลย
เริ่มที่คุณแม่นักธุรกิจ “จ๋า-อลิสา พันธุศักดิ์” ที่เพิ่งให้กำเนิด “เบบี๋พอล” ลูกชายคนแรกวัย 3 เดือน ที่มีแฟนคลับติดตามความน่ารักเป็นจำนวนมาก ผ่านทั้งยูทูป และไอจีของแม่จ๋า และพ่ออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน โดยจ๋าบอกว่า วินาทีแรกที่รู้ว่าตั้งครรภ์และจะมีน้องนั้นทั้งตื่นเต้นระคนดีใจ เพราะตั้งใจจะมีลูกมานานแล้ว ซึ่งก็ได้ฝากไข่ไว้ที่โรงพยาบาลหลายปี ถึงแม้ช่วงที่ตั้งครรภ์จะมีอาการแพ้ท้องเหมือนคุณแม่คนอื่นๆ แต่ด้วยความรักลูกอยากให้เขาได้รับสารอาหารที่ดีตั้งแต่อยู่ในท้อง ถึงแม้จะแพ้ท้องเหม็นอาหารไปเสียทุกอย่าง แต่เพื่อลูกก็ต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
“ช่วงแรกๆ มีอาการแพ้ท้องตลอด ไม่ได้ถึงกับอาเจียน แต่เหม็นอาหารทุกอย่างที่มีกลิ่นฉุน ช่วงนั้นกินอะไรแทบไม่ได้เลย แต่ถ้าเราไม่กินลูกในท้องก็จะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ เราจึงเลือกกินแต่อาหารประเภทโปรตีน อย่างพวกเนื้อสัตว์ และต้องนำเนื้อสัตว์เหล่านั้นมาทำเป็นชิ้นพอดีคำด้วย เพราะถ้าชิ้นใหญ่จะรู้สึกว่ามันน่ากลัว ทำให้มีอาการคลื่นไส้ตลอดเวลา”
ตอนตั้งครรภ์ว่าทรมานกับการแพ้ท้องแล้ว ตอนคลอดนั้นทรมานและเจ็บปวดมากกว่า ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติเพราะอยากคลอดลูกแล้วสามารถไปทำงานได้เลย
“ตอนอยู่ในห้องคลอดเต็มไปด้วยความลุ้นความกังวลกลัวลูกจะเป็นอะไร เพราะตอนแรกตั้งใจจะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ แต่สุดท้ายรอข้ามวันข้ามคืนปากมดลูกเปิดเพียง 8 เซน ในขณะที่ศีรษะน้องใหญ่ถึง 10 เซน และน้ำคร่ำก็เริ่มแห้งแล้ว ที่สำคัญน้องไม่ได้นอนคว่ำเหมือนเด็กทารกในครรภ์ แต่กลับนอนหงาย ดังนั้น ถ้าขืนรอต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อตัวเด็กได้ คณะแพทย์จึงตัดสินใจผ่าคลอด ตอนที่ผ่านั้นหมอได้บล็อกหลังบริเวณด้านล่างตั้งแต่เอวลงไปไม่รู้สึกอะไร แต่ตั้งแต่เหนือเอวขึ้นมาเรารู้สึกทุกอย่าง และด้วยความที่น้องนอนหงายหมอจึงไม่สามารถคีบตัวน้องออกมาได้ ต้องใช้วิธีดันตัวเด็กออกมาจากบริเวณหน้าท้อง ซึ่งช่วงที่หมอกดหน้าท้องเพื่อดันตัวเด็กออกมานั้นเจ็บและอึดอัดมากที่สุดในชีวิต และไม่คิดว่าการคลอดลูกจะลำบากถึงเพียงนี้
และเมื่อลูกคลอดออกมาแล้วคำถามแรกที่ถามคือลูกปลอดภัยไหม เพราะระหว่างที่น้องพอลคลอดออกมาแล้วเราไม่ได้ยินเสียงน้องร้องไห้เลย ที่สำคัญอั๋นที่อยู่ในห้องคลอดด้วยกันก็เงียบไม่พูดอะไร ความรู้สึกตอนนั้นเต็มไปด้วยความกังวล และพอได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกและคำพูดของหมอว่า เด็กปลอดภัยแข็งแรงดี เท่านั้นล่ะ โลกทั้งโลกเต็มไปด้วยความสดใส ความเจ็บปวดเมื่อสักครู่นี้หายเป็นปลิดทิ้งเลย” จ๋าเล่าวินาทีที่อยู่ในห้องคลอดด้วยน้ำเสียงตื้นตัน
จ๋าบอกว่าตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าเป็นแม่คน จนถึงวันที่ต้องเฝ้าถนอมเลี้ยงดูลูกรักให้เติบใหญ่เป็นคนที่มีความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีเวลาให้ลูกให้มากที่สุด เพราะเด็กวัยนี้ต้องการแม่มากที่สุด
“ตั้งแต่มีลูกยอมรับเลยว่านิสัยเราเปลี่ยนไปเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน เมื่อก่อนเป็นคนตรงต่อเวลามากและไม่ค่อยชอบคนที่ไม่ตรงเวลา แต่เมื่อเรามีลูกแล้วเรารู้สึกว่าเราทำอะไรช้าขึ้น บางทีการประชุมก็จะบอกลูกน้องว่าขอไปช้าสัก 10-15 นาทีเพราะต้องให้นมลูก อาบน้ำให้ลูก บางทีเรารับรู้ได้ทันทีว่าเขายังต้องการเราอยู่ ดังนั้น ทุกวันนี้ถ้าไปทำงานหรือไปไหนมาไหนก็จะพาน้องพอลไปด้วยทุกครั้ง เพราะเราอยากให้ลูกได้เรียนรู้ตั้งแต่เด็กว่าแม่ทำงานอะไรบ้าง และรักเขามากแค่ไหน สิ่งที่แม่ปรารถนาก็คืออยากให้ลูกเป็นคนเก่งและคนดีของสังคม” คุณแม่มือใหม่เผยความในใจ
ส่วน “บุ๋ม-น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ” ที่เพิ่งให้กำเนิด “น้องอัณยา” วัย 3 เดือน เล่าถึงวินาทีแรกที่รู้ตัวว่ากำลังจะได้เป็นคุณแม่ว่า ตอนนั้นไปงานแต่งงานเพื่อนที่อิสราเอล ความรู้สึกเราคือทริปนี้มันเหนื่อยมาก ทั้งร้อนแล้วก็เพิ่งเสร็จงานแต่งงานของตัวเองด้วย ก็รู้สึกแปลกๆ ยังพูดกันเล่นๆ ว่าท้องแน่เลยๆ แต่คิดว่าไม่น่าจะติด สุดท้ายก็เลยลองไปซื้อที่ตรวจมา พอตรวจตอนนั้นประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในใจเราก็คิดว่าใช่ เพราะว่าจริงๆ ร่างกายมันก็มีสัญญาณมา อย่างเจ็บหน้าอก เข้าห้องน้ำบ่อย พอตอนผลออกมาเราก็แบบเออจริงด้วย แต่ยังไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ หลังจากนั้นพอเริ่มบอกครอบครัวก็เริ่มตื่นเต้น แล้วก็รอจนผ่านสามเดือนไปก็เริ่มบอกคนอื่นๆ
“ตอนแรกแพ้ท้องมาก อาเจียน ไปไหนต้องพกพวกถุงไว้ตลอด เวลานั่งรถนี่ไม่ได้เลย ถ้าถึงที่หมายลงปุ๊บก็คืออาเจียน สุดท้ายเลยตัดสินใจว่าไม่ออกไปไหนดีกว่า ก็เลยอยู่บ้านซะส่วนใหญ่ประมาณหนึ่งเดือนได้ ถึงจะรับประทานของเปรี้ยวแต่ก็ไม่ค่อยช่วยอะไร เพราะตอนนั้นมันก็ออกมาหมดเลย แต่พอผ่าน 5 เดือนแรกไปทุกอย่างก็ดีขึ้น” บุ๋มเล่าถึงอาการแพ้ท้องช่วงแรก
ระหว่างช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ที่ถือว่าแม่บุ๋มมีความสุขที่สุดแล้ว แต่เมื่อถึงวินาทีที่อยู่ในห้องคลอดนั้นตื่นเต้นและดีใจมากที่จะได้เจอหน้าคนที่เฝ้ารอมาตลอด 9 เดือนเต็ม เพราะในวันคลอดนอกจากสามีจะอยู่เป็นกำลังใจให้ไม่ห่างแล้ว ยังมีคุณพ่อมาให้กำลังใจอยู่ด้านนอกนับเป็นช่วงวินาทีที่มีคุณค่ามากที่สุด และเมื่อรู้ว่าลูกที่เกิดมามีร่ายกายแข็งแรงปลอดภัย น้ำตาแห่งความปลื้มใจก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับบอกตัวเองว่าเราจะดูแลเขาให้ดีตลอดไป
“ตอนนี้เวลาที่ให้ตัวเองน้อยลงมาก เพราะลูกเป็นส่วนใหญ่ของชีวิตเลย วิธีการเลี้ยงลูกของเราคือ ต้องพยายามเลี้ยงด้วยตัวเอง รวมถึงให้เวลาและมอบความรักความผูกพันให้ลูกมากที่สุด ไม่ว่าจะอาบน้ำ ป้อนข้าว เดินเล่น อ่านหนังสือให้ฟัง ซึ่งเราทำมาตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง แต่บุ๋มคิดไว้เมื่อไม่นานมาแล้วว่าไม่อยากเป็นคุณแม่ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกแล้วอยู่แต่กับลูก แต่เราจะพาลูกออกไปใช้ชีวิตกับโลกภายนอกด้วยกัน เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์” บุ๋มบอกวิธีเลี้ยงลูกสไตล์ของตัวเอง
ขณะที่คุณแม่ป้ายแดง “เข็ม-ธีราภา (พร้อมพันธุ์) ลิ่มอติบูลย์” เล่าถึงโมเมนต์สำคัญกว่าที่เธอจะให้กำเนิด “น้องด้าย” ลูกสาวคนแรกวัย 5 เดือน ที่ตอนนี้เป็นขวัญใจพี่ป้าน้าอาคุณตาคุณยายคุณย่าว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าที่เธอจะตั้งครรภ์ เพราะไข่ของเธอไม่ค่อยแข็งแรง แต่เมื่อรู้ว่าพร้อมจะมีลูกจึงต้องใช้วิธีเก็บไข่ แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เพราะวันที่ไปพบคุณหมอเธอกลับตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติสมใจ
“พอรู้ว่าพร้อมจะมีลูกก็ไปเช็กร่างกาย กลับกลายว่าไข่ของเข็มไม่ค่อยมีคุณภาพ หมอบอกว่าถ้าคิดจะมีลูกก็ต้องรีบมี แต่จะใช้วิธีธรรมชาติคงยากจึงปรึกษาหมออยู่เป็นเดือน และนัดวันเตรียมตัวไปพบหมอเพื่อเก็บไข่ พอถึงวันนัดปรากฏว่าตั้งท้องแล้ว เลยได้ท้องตามธรรมชาติสมใจ วินาทีแรกเข็มดีใจมาก แต่ก็แอบกลัวลูกไม่แข็งแรง เพราะคำว่าไข่ไม่มีคุณภาพ คุณหมอแนะนำให้เข็มทำกิจกรรมทุกอย่างปกติ ให้คิดแง่ดีว่าเด็กจะต้องแข็งแรง และเมื่อถึงกำหนดคลอดความรู้สึกทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยความกังวล กลัวว่าลูกจะไม่แข็งแรง แต่เรามีสามีและครอบครัวคอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง จึงทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี วินาทีแรกที่ได้ยินเสียงลูกร้องไห้หัวใจมันพองโตพูดไม่ออก และคิดว่านี่แหละเขาคือของขวัญและทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่สุดในชีวิตของเรา” เข็มเล่าย้อนถึงโมเมนต์สำคัญในชีวิต
คุณแม่มือใหม่เล่าถึงวิธีเลี้ยงลูกในแบบฉบับของตัวเองว่า สิ่งเดียวที่วาดหวังคือขอให้ลูกสุขภาพแข็งแรงและจิตใจแจ่มใส เติบโตขึ้นเป็นคนดีของสังคม หลักใหญ่ๆ ในการเลี้ยงลูกคือ ให้เขามีประสบการณ์ชีวิตเยอะๆ สอนให้คิดเป็น จะไม่สปอยลูกอยากให้เขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เชื่อว่ายิ่งเรารักเขามากเท่าไหร่ ก็จะเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตที่ดีมากเท่านั้น
ปิดท้ายที่คุณแม่สุดแซบ “แตงกวา-จุฑาวรรณ (ไกรฤกษ์) สุวรรณมาศ” ที่ให้กำเนิดลูกชายคนแรก “น้องเอวา” วัย 1 ขวบไปเมื่อปีที่แล้ว เล่าว่า วินาทีที่รู้ว่ากำลังจะมีน้องนั้นตกใจมาก เพราะยังไม่ได้วางแผนว่าจะมีทายาทและยังอยากทำงานอยู่ แต่ระหว่าง 9 เดือนที่น้องอยู่ในครรภ์ในแต่ละช่วงเดือนก็จะมีการศึกษาพัฒนาการของลูกว่าไปถึงไหนแล้ว ตรวจอัลตราซาวนด์ดูความเจริญเติบโตมาโดยตลอดจนถึงกำหนดวันคลอด
“ตอนอยู่ในห้องคลอดนั้นตื่นเต้นมาก คิดว่าขอให้เขาลืมตามาดูโลกด้วยร่างกายที่แข็งแรง และวินาทีแรกที่ได้ยินเสียงลูกร้องไห้หัวใจเรามันเต็มไปด้วยความสุข ตื้นตันใจ และคิดว่าเขาคือผลผลิตแห่งความรักของเราสองคน เป็นโซ่ทองคล้องใจให้ครอบครัวมีความสมบูรณ์มากขึ้น คือมีพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันนั่นเอง” คุณแม่ยังสาวเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส
แตงกวาเล่าถึงวิธีเลี้ยงลูกในแบบฉบับของเธอว่า ชอบเลี้ยงแบบเอาต์ดอร์ คือให้เขาได้เรียนรู้ธรรมชาติต่างๆ รอบตัวด้วยตัวเอง จะไม่ตามใจจนเกินงาม เพราะกลัวเขาจะเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเองและเป็นเด็กใจร้อน เพราะตัวเราเองเป็นคนใจร้อนเกรงว่าลูกจะมีนิสัยเหมือนเรา ตั้งแต่มีลูกก็พยายามใจเย็นลง เพราะการเลี้ยงเด็ก โดยเฉพาะลูกเราต้องมีความละเอียดอ่อน และมีความใจเย็นสูงมาก ถ้าเกิดใจร้อนเมื่อไหร่ลูกก็จะซึมซับพฤติกรรมนั้นไปโดยไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ ในวงการเซเลบปีนี้ยังมีว่าที่คุณแม่ป้ายแดงและคุณแม่มือใหม่อีกหลายคนที่เพิ่งคลอดลูกมาหมาดๆ อย่างทายาทธุรกิจหมื่นล้านตระกูลเซ็นทรัล “โบ-จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์” รู้ซึ้งถึงหัวอกคนเป็นแม่ หลังให้กำเนิดลูกชายคนแรก “น้องดวิน” ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับ “มุ่ย-สลิลาพร กองทองมณีโรจน์” เจ้าแม่สมุนไพรของเมืองไทย ก็ให้กำเนิดลูกชายคนแรก “น้องมีบุญ” เมื่อปลายปีที่แล้ว หญิงแกร่งแห่งแบรนด์เครื่องหนังคุณภาพสัญชาติเยอรมนี อย่างแบรนด์ MCM “ปอเปี๊ยะ-สลิล สุญาณเศรษฐกร” ก็เพิ่งเป็นคุณแม่มือใหม่หมาดๆ เพราะเพิ่งคลอดลูกชาย “น้องคาเวียร์” ไปเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา
แต่ที่ถือเป็นข่าวดีรับวันแม่แห่งชาติ ก็คงเป็นครอบครัวจึงกานต์กุล เพราะ “กระตั้ว-ดร.เพ็ญประภา เกื้อชาติ” ภริยาของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่ง จาร์ตัน กรุ๊ป “วิ่ง-ธีธัช จึงกานต์กุล” ได้ฤกษ์ดีคลอดลูกชายฝาแฝด “น้องสิงห์ส่องแสง” และ “น้องแสงส่องสิงห์” ไปเมื่อบ่ายวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นของขวัญล้ำค่าในวันแม่แห่งชาติให้กับสองสามีภรรยาคนเก่ง ส่วน “หลิว-สิณัฐปกรณ์ เพิ่มพูนพัฒนา” ภรรยาคนสวยของไฮโซหนุ่มหล่อเจ้าของท่าจอดเรือยอชต์ อย่าง “แมทธิว-พลวัต ณ นคร” ก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกท่ามกลางความยินดีของครอบครัว
รักอื่นหมื่นแสนในโลกใบนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ความรักที่แม่มีให้ลูกนั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง