สาวเก่งสุดแอ็กทีฟที่เราเริ่มคุ้นหน้าเธอตั้งแต่เรียนจบทางด้านศิลปะและแฟชั่น ทั้งปริญญาตรีและโทจากอิตาลี “กิฟต์-สรัญทร เตชะไพบูลย์” เมื่อก่อนเรามักเห็นเธอเดินตามคุณแม่ “จิตรามณฑน์ เตชะไพบูลย์” ออกงานสังคมอยู่เนืองๆ แต่ระยะหลังเธอทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานและครอบครัวมากกว่า แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป๊ะในทุกครั้งที่เราพบเธอตามงานสังคมที่นานๆ จะพบเจอกับเธอสักที
คุ้นเคยกันมานาน เห็นทำงานอยู่ในแวดวงแฟชั่นมาก็เยอะ แต่ยังไม่มีโอกาสได้มานั่งพูดคุยเรื่องแฟชั่นแบบส่วนตั๊วส่วนตัวของเธอ ปัจจุบันนี้กิฟต์เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ “ดิออร์” ประเทศไทย ยังคงคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงแฟชั่น แต่สไตล์ของเธอที่เราเห็นตามงานอยู่บ่อยๆ ก็เป็นแนวเรียบแต่เก๋มากกว่า
“กิฟต์ชอบแฟชั่นและเรียนมาทางด้านนี้ ที่ผ่านมาก็เคยร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นหลายๆ แบรนด์ จนทำให้เราเริ่มเข้าใจแฟชั่นมีไปมีมา เดี๋ยวก็กลับมาใหม่ ปกติแล้วชอบเรื่องการแต่งตัว โดยส่วนตัวไม่ได้แต่งตัวตามเทรนด์ กิฟต์จะใช้วิธีมิกซ์แอนด์แมตช์ให้เป็นสไตล์ของตัวเองมากกว่า เพราะเทรนด์บางอย่างก็ไม่ได้เหมาะกับรูปร่างเรา บางทีเสื้อผ้าคุณแม่ยังเอากลับมาใช้ได้”
ถ้าพูดถึงแฟชั่นเธอบอกกับเราว่าแทบจะอยู่ในสายเลือด เพราะซึมซับและถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยคุณทวด มาคุณยาย ถึงคุณแม่ จนกระทั่งมาถึงตัวเธอ นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกเรียนด้านแฟชั่น และทำงานอยู่กับแฟชั่นของสวยๆ งามๆ
“คุณแม่ (จิตรามณฑน์) เป็นคนชอบแฟชั่น ทุกคนก็จะเห็นได้ว่าเวลาคุณแม่ไปงานมักจะแต่งตัวจัดเต็ม งานธีมอะไรคุณแม่ก็แต่งตัวเข้าธีมเป๊ะๆ คุณแม่บอกว่าควรให้เกียรติเจ้าภาพ ถ้าเขามีธีมก็ควรจะไปตามธีม ถือเป็นการให้เกียรติเจ้าของงานอย่างหนึ่ง ซึ่งกิฟต์โตมาในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ ซึมซับมาเรื่อยๆ ก็เลยชอบแฟชั่น
กิฟต์กับคุณแม่แบ่งเสื้อผ้ากันใช้บ้างบางชิ้น หรืออย่างแอ็กเซสซอรีก็ใช้ด้วยกัน คุณแม่เขาจะมีพวกเครื่องเพชรเป็นชุดๆ ซึ่งจะพูดแซวกันตลอดว่านี่ชิ้นเล็กที่สุดแล้ว เพราะรู้สึกว่าเล็กแล้วก็ใหญ่สำหรับเรา (หัวเราะ) เพราะกิฟต์จะชอบใส่พวกคอสตูมจิวเวลรีชิ้นเล็กๆ ก็ดีไปอย่างเพราะบางทีก็ผลัดกันใส่ เช่นถ้าคุณแม่จะไปงานปาร์ตี้สนุกๆ ก็จะมายืมของกิฟต์ใส่ หรือถ้ากิฟต์ต้องไปงานก็จะใส่เครื่องเพชรของคุณแม่ เราคุยกันเรื่องแฟชั่นและแบ่งของกันใช้ แต่ที่ไม่ได้อย่างเดียวคือรองเท้าเพราะใส่คนละไซส์กัน”
ส่วนในเรื่องสไตล์ของสาวเป๊ะอย่างกิฟต์นั้น เธอไม่มีสไตล์ที่ตายตัว เพราะเธอสนุกมิกซ์สนุกแมตช์เสื้อผ้าไปตามอารมณ์ในแต่ละวันมากกว่า
“สไตล์ปกติไม่ตายตัว แล้วแต่อารมณ์ว่าวันนั้นจะไปไหน ทำอะไร อย่างหนึ่งเลยคือแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะ ส่วนใหญ่จะใส่แจ็กเกต หรือเบลเซอร์เพราะไปได้หลายโอกาส ถ้าอากาศร้อนก็ถอดได้ หรือถ้าเข้าในตึกในห้างที่อากาศเย็นก็ใส่คลุมได้ บางทีไปงานก็ดูธีมงานด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเลือกชุดที่สามารถใส่ชุดเดียวแล้วไปได้ทั้งวัน”
ต้องทำงานที่พบเจอแฟชั่นสวยๆ งามๆ อยู่ตลอดเวลา บางครั้งเธอก็สารภาพว่ามีกิเลสเกิดขึ้นบ้างเหมือนกัน ก็แหมแบบว่า “ของมันต้องมี!”
“ทำงานแฟชั่นก็มีเกิดกิเลสบ้าง เห็นบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าสวยดีนะ (หัวเราะ) เวลาเลือกซื้อเสื้อผ้ามักเลือกแบบเรียบๆ สีพื้นๆ สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย แต่ชิ้นที่เสียเงินง่ายที่สุดคือเครื่องประดับ เพื่อนๆ เวลาไปชอปปิ้งด้วยกันจะรู้เลย เดี๋ยวนี้โตขึ้นเวลาซื้อของก็เบรกตัวเองมากขึ้น คิดว่าถ้าซื้อไปแล้วไม่ได้ใช้ก็ตัดใจ ถ้าถามถึงแบรนด์โปรดส่วนตัวเราชอบดิออร์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะว่ามีหลายสไตล์ ซื้อมาตั้งแต่สมัยคุณแม่แล้วค่ะ” นี่สิสาวดิออร์รู้จักมิกซ์แอนด์แมตช์ สนุกกับการแต่งตัวของจริง