>>ถึงกับต้องร้อง ฮู้หู!! กับเสื้อผ้าที่แฟชั่นนิสต้าตัวพ่อของแวดวงสังคมคนนี้ขนมาเพื่อถ่ายภาพกับ Celeb Online ในครั้งนี้ เพราะถ้ากดเครื่องคิดเลขรวมมูลค่าแล้วแทบจะซื้อรถญี่ปุ่นได้คันนึงเลยทีเดียว!! หลายคนอาจคุ้นหน้าเขาในฐานะหนุ่มแต่งตัวจัด แถมยังเป็นท็อปสเปนเดอร์ลักษ์ซูรี่แบรนด์หลายๆ แบรนด์ “บาส-นิติ สว่างวัฒนไพบูลย์” ที่ปรึกษาทางการตลาดเกี่ยวกับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งคนดัง แต่ครั้งนี้เขาจะมาเปิดสไตล์ของเขาให้เราชมกันเพลินๆ
“โลกตอนนี้เปลี่ยนไป การบริโภคของผู้อ่านเปลี่ยนไป ชีวิตเราทุกวันนี้ 80% เป็นการอยู่กับมือถือ เราสามารถทำงานไปพร้อมๆ กับการเดินทางเปิดโลก เพราะงานของเราต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอด” นิยามในการทำงานสั้นๆ ของ “นิติ สว่างวัฒนไพบูลย์” ผู้บริหารหนุ่ม ที่มองเรื่องของงานคือส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของเขา ซึ่งไม่ใช่เครื่องเรื่องของงานเท่านั้นที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรค์ ในแต่ละวันเขายังต้องใช้ไอเดียเพื่อที่จะมิกซ์แอนด์แมทช์สนุกกับแฟชั่น เพื่อให้ทุกวันของเขามีสีสันและสมบูรณ์แบบที่สุด
“การได้ทำงานกับแบรนด์ลักษ์ซูรี่ต่างๆ เราต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเราต้องหาไอเดียมาใส่ เราต้องเข้าใจโปรดักส์ ซึ่งผมเป็นคนชอบลักษ์ซูรี่อยู่แล้วก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น เราก็ปรับปรุงแต่งเติมให้เรื่องงานกับความชอบส่วนตัวอย่างแฟชั่น การเดินทาง การท่องเที่ยวดูกลมกล่อมมากขึ้น
จุดที่เริ่มชอบลักษ์ซูรี่แบรนด์ เพราะผมเป็นคนเนี๊ยบตั้งแต่เด็ก ชอบแต่งตัว ชอบศิลปะ ช่วงที่ไปเรียนไฮสคูลที่สหรัฐอเมริกาเคยได้รางวัลศิลปะวิทยาดีเด่นด้วย ทำให้เราค้นพบตัวเองว่าเราชอบแฟชั่น ชอบงานดีไซน์ สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ ความรู้สึกยิ่งชัดเจนเมื่อได้ศึกษาถึงประวัติและสตอรี่ของแบรนด์หรือคอลเลกชั่นนั้นๆ
สมัยก่อนตอนเด็กๆ ชอบแต่งตัวมีสีสันสดใส แต่เมื่อต้องทำงานก็จะสร้างลุ๊คตัวเองให้เป็นบิสิเนสลุ๊ค เพราะจะทำให้เราดูสมาร์ท ดูภูมิฐาน แบรนด์โปรดของผมตอนนี้คือ คริสเตียนดิออร์ เพราะว่าเรากำลังเปลี่ยนลุ๊คให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ในลุ๊คนั้นก็ยังมีความเป็นแฟชั่นแฝงอยู่ด้วยให้ไม่น่าเบื่อ นอกจากนั้นก็จะมีแบรนด์แซงค์โรรองส์ และจีวองชี่ ที่ชอบซื้อเป็นประจำ”
เขาเองยังเป็นท็อปสเปนเดอร์ที่หลายๆ แบรนด์ต้องส่งเทียบเชิญให้ไปนั่งฟร้อนท์โรลชมรันเวย์ก่อนใครอีกด้วย! “ผมมีบัดดี้ช้อปปิ้งคือคุณออ-อดิศัย กุญชร ณ อยุธยา เราสองคนจะชอบแฟชั่นเหมือนกัน ชอบเลือกซื้อของเดินกันได้ยาว ไม่มีใครห้ามใคร พอเราซื้อบ่อยๆ แบรนด์ก็เชิญเราไปร่วมกิจกรรมของเขา ไปดูแฟชั่นโชว์ที่ต่างประเทศบ้าง การไปนั่งชมแฟชั่นโชว์ทำให้เราได้ประสบการณ์ดีๆ ได้พบเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน แลกเปลี่ยนความรู้กัน ได้เพื่อน ได้สังคม ได้เข้าไปเสพอาร์ท ได้เจอคนดังๆ ยิ่งทำให้เราหลงใหลกับแฟชั่น ผมว่าเป็นเหมือนอาร์ทอย่างหนึ่ง
วิธีในการเลือกซื้อของเราจะเลือกจากสิ่งที่เราชอบก่อน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์หรือไม่แบรนด์ แต่เราต้องรู้ว่าทำไมถึงแพง คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมั๊ย ถ้าใส่แล้วดูดี มั่นใจ ก็แฮปปี้ แหล่งช้อปปิ้งหลักๆ อยู่ที่เมืองไทย เราไม่ได้แคร์ว่าราคาจะต่างกัน แต่เราต้องการการบริการที่ดีเพราะบ้านเราอยู่ที่นี่ บางครั้งอยากได้อะไรช้อปที่เมืองไทยก็จะหาให้ น้อยครั้งที่จะไปซื้อต่างประเทศนอกจากจะเป็นชิ้นที่ไม่มีที่เมืองไทยจริงๆ”
และในตอนท้ายเขาก็กล่าวยอมรับว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ติดแบรนด์เนม แต่นั่นเพราะมีเหตุผลดีๆ ที่เราต้องรับฟังว่า “ผมยอมรับนะว่าติดแบรนด์เนม เพราะผมว่าของแบรนด์เนมมีคุณภาพดี บางทีซื้อมาใส่ซ้ำแล้วซ้ำอีก 20 รอบก็ยังดูดีอยู่เลย!!”