แม้จะเป็นอดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป สไปซ์เกิร์ล ที่ดูมีเส้นทางชัดเจนที่สุด แต่ก็ใช่ว่าชีวิตของ วิกตอเรีย เบคแฮม จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ การหันหน้าเข้าสู่เส้นทางสายแฟชั่นด้วยการเป็นทั้งดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ภายใต้ชื่อตัวเองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
และมันยิ่งหนักหนาสาหัสเข้าไปเมื่อตัวเลขผลประกอบการฟ้องออกมาว่า บริษัทแฟชั่นของ พอช สไปซ์ นั้นขาดทุนไปเกือบ 400 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าศักดิ์ศรีภาพลักษณ์แฟชั่นนิสต้าระดับเอลิสต์มันค้ำคอ งานนี้จึงเกิดอาการ "ฉิบหายไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้" วิกตอเรีย เบคแฮม จึงลงทุนจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามากอบกู้แบรนด์แฟชั่นของเธอโดยด่วน และสิ่งแรกที่เหล่าที่ปรึกษาให้เธอทำนั่นก็คือ โละพนักงานกว่า 70% ออกเพื่อลดต้นทุน ตัดรายจ่ายโดยเร็วที่สุด
งานนี้มันอาจจะช่วยลดรายจ่ายและดึงตัวเลขผลประกอบการของบริษัทให้ดูดีขึ้นก็จริง แต่หายนะที่กำลังก่อตัวขึ้นนั่นก็คือ ความไม่พอใจของบรรดาพนักงานที่กลายเป็นคนตกงานแบบไม่ทันรู้ตัว แม้พวกเขาจะได้เงินชดเชยแต่การที่ต้องตกงานโดยรู้ว่า วิกตอเรีย เบคแฮมนั้น ยังคงรายจ่ายที่ว่าด้วยเงินเดือนของตนเองที่ 700,000 ปอนด์ไม่เปลี่ยนแปลง งานนี้ก็ไม่รู้ว่าที่ปรึกษาที่จ้างมาจะทำให้วิกตอเรียเผชิญกับคำว่าหายนะยิ่งกว่าเดิมหรือเปล่า?