xs
xsm
sm
md
lg

“เลิศวริศ เลิศวรปรีชา” นักธุรกิจหน้าใหม่ไอเดียนอกกรอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


>>ลำพังลุคขรึมๆ ดูสุภาพของหนุ่มหล่อหน้าใส “โชแปง-เลิศวริศ เลิศวรปรีชา” ทายาทคนโตของนักธุรกิจหญิง “สิริน ฉัตรวิชัย” เจ้าของ “Degree Lighting Store” ผู้ดำเนินธุรกิจโคมไฟและอุปกรณ์ส่องสว่างอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ก็ชวนให้สาวๆ ใจละลายแล้ว แต่หากได้ทำความรู้จักกับนักธุรกิจหนุ่ม เชื่อว่าสาวๆ ต้องตกหลุมรักในเสน่ห์ของหนุ่มพูดน้อยแต่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวมากมายให้ค้นหาคนนี้

หนุ่มหน้าใสวัย 24 ปี พาย้อนวันวานหลังจากเก็บกระเป๋าจากเมืองไทยไปเข้าโรงเรียนประจำที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เขาใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษจบกระทั่งคว้าปริญญาตรีด้านโปรดักต์ดีไซน์ จาก Central Saint Martin College of Art&Design ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาครอง จากนั้นเขาไม่ลังเลที่จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อตั้งหลักชีวิตการทำงานและศึกษาต่อ

“สำหรับด้านการทำงาน ผมซึมซับธุรกิจของครอบครัวมา ตั้งแต่จำความได้ผมก็อยู่กับอิเล็กทรอนิกส์โคมไฟ อุปกรณ์ส่องสว่าง พอโตหน่อยเมื่อใดที่ปิดเทอมคุณแม่จะพาผมไปติดต่องานต่างประเทศด้วยเสมอ จนปัจจุบันผมนำเอาความสนใจด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้าโดยเน้นการประหยัดพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าสินค้า อย่างที่ทราบกันดีว่า ธุรกิจนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมดูแลด้าน Productivity โดยตรง”

อย่างไรก็ตาม แม้การเข้ามาช่วยและดูแลธุรกิจของครอบครัว ที่ทำธุรกิจอุปกรณ์ส่องสว่างและบริหารโครงการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์แล้ว จากนี้ไปโชแปงกำลังเผชิญหน้ากับโลกธุรกิจที่แท้จริง เพราะเขากำลังจะเปิดตัวธุรกิจแรกในชีวิต ที่เขาและหุ้นส่วนร่วมกันปลุกปั้นจนกำลังจะเป็นรูปเป็นร่าง

“ตอนนี้ผมเปิดบริษัทกับเพื่อน ชื่อ “Wrapvertise” เป็นบริษัทรับทำโฆษณาบนรถยนต์ ไอเดียเริ่มต้นมาจากผมและเพื่อนเป็นคนชอบรถมาก เลยมาปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการใช้รถมากกว่าแค่ขับไปทำงาน ขับไปทำธุระ เลยเกิดเป็นไอเดียว่า ถ้าอย่างนั้นเราน่าจะทำธุรกิจที่เปิดโอกาสให้คนใช้รถมีรายได้เสริมเป็นค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา จากการใช้พื้นที่ของรถเป็นพื้นที่สำหรับโฆษณา” โชแปงค่อยๆ ถ่ายทอดไอเดียธุรกิจในหัว ก่อนจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพโมเดลธุรกิจตามง่ายๆ ว่า
“เปรียบเหมือนบริษัทผมเป็นโมเดลลิง ทำหน้าที่แคสต์เจ้าของรถที่มีคุณสมบัติตรงตามที่เรามองหาเข้ามา อีกด้านเราก็ประสานงานกับแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่มองหาการโฆษณารูปแบบใหม่ ที่จะทำให้แบรนด์โดดเด่นมาเจอกัน โดยเจ้าของรถที่สนใจมาร่วมงานกับเรา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เราดูแลหมดตั้งแต่การแรปโฆษณาบนตัวรถ รวมทั้งการลอกออกเมื่อจบแคมเปญ เพียงแต่ผู้ขับขี่ต้องทำตามเงื่อนไขที่ตกลงว่าต้องขับขี่ให้ได้ระยะเท่าไหร่ ในระยะเวลากี่วัน ไปในโลเกชั่นไหนบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เราจะคัดกรองมาตั้งแต่ตอนลงทะเบียนแล้วว่าชีวิตประจำวันของผู้ขับขี่ขับไปในโลเกชั่นไหน

เราจะมีการติดตามผลผ่านแอปพลิเคชันที่เราพัฒนาขึ้นเอง ซึ่งเจ้าของรถทุกคนต้องโหลดไว้ติดเครื่อง ความพิเศษคือ จะบันทึกระยะทางต่อเมื่อผู้ขับขี่ใช้รถคันที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการของเรามั่นใจว่า โฆษณาที่แรปบนรถไปแล้วนั้นมีการนำไปขับจริง และในอนาคตเรายังมีแผนจะนำหลักการตลาดเข้ามาเสริมการให้บริการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าวัดผลการโฆษณาได้ เช่น ให้มีการสแกน QR Code หรือ ถ่ายภาพแรปโฆษณาเพื่อมารับของพรีเมียม เป็นต้น”

ในส่วนของค่าตอบแทน ผู้บริหารหนุ่มอธิบายว่า จะประเมินจากระยะเวลาในการโฆษณา ระยะทางและเส้นทางของผู้ขับขี่ว่าเป็นไปตามข้อตกลงหรือไม่

“ตอนที่คิดโมเดลธุรกิจนี้ผมและเพื่อนเห็นตรงกันว่า เพื่อช่วยคุมต้นทุน เราน่าจะสร้างอีกหนึ่งธุรกิจขึ้นมาควบคู่กัน นั่นคือ WRAP Garage ศูนย์ติดตั้งฟิล์มเปลี่ยนสีรถยนต์ แรปรถ ติดตั้งฟิล์มใสกันรอย ซึ่งนอกจากจะรับลูกค้าทั่วไปที่อยากพารถมาเข้าซาลอน เปลี่ยนสีรถ สีล้อ ยังสามารถรองรับธุรกิจใหม่ที่ผมพูดถึงไปในตัว ตอนนี้ธุรกิจ WRAP Garage เปิดมาหลายเดือนแล้ว ส่วนตัว “Wrapvertise” เพิ่งเปิดตัว เพราะเราต้องใช้เวลาพัฒนาแอปพลิเคชันให้พร้อมรองรับการใช้งาน”

สำหรับความคาดหวังที่มีต่อธุรกิจที่ตั้งใจปลุกปั้นด้วยสองมือ โชแปงบอกว่าเขาไม่ได้วาดฝันไกลถึงขั้นจะพลิกโฉมถนนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นพื้นที่โฆษณา แค่อยากนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ในการสร้างความโดดเด่นให้สินค้า จนถึงวันนี้เขาไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นสตาร์ทอัพ รู้เพียงว่าอยากทำตามฝันที่จะได้เริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงให้ตัวเอง

คุยเรื่องหนักมาพอสมควร เลยถือโอกาสชวนคุยเรื่องเบาๆ ถึงไลฟ์สไตล์วันว่างที่ตัดคำว่างานและธุรกิจออกจากหัวสักหน่อย เรื่องนี้โชแปงไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน เพราะความสุขของเขาคือ การออกไปกินข้าว พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ถ้ามีเวลาก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศกับเพื่อนๆ

“ก่อนหน้านี้ผมชอบขับรถสปอร์ต ชอบขี่บิ๊กไบค์ แต่ตอนนี้เพลาๆ ลงแล้ว เพราะคุณแม่ท่านไม่ค่อยชอบ (อมยิ้ม) ตอนนี้หันมาดูแลสุขภาพด้วยการเข้ายิมไปออกกำลังกายแทบทุกวัน อีกกิจกรรมที่ผมชอบ คือการอยู่ในโลกส่วนตัว อยู่กับตัวเอง ชอบดูหนัง ดูซีรีส์แนวตื่นเต้น แต่ไม่ใช่แนวสยองขวัญนะครับ” โชแปงเล่าถึงวันว่างด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ก่อนจะเจอคำถามที่ทำให้หนุ่มหล่อถึงกับอึ้ง นั่นคือคำถามปราบเซียนของหนุ่มๆ เมื่อเจอถามตรงๆ เกี่ยวกับสเปกสาวที่ชอบ

“ผมไม่มีสเปกผู้หญิงว่าต้องหน้าตาแบบไหนถึงจะเดินเข้าไปจีบ รู้แต่ว่าชอบก็จีบ (ยิ้ม) ผมชอบคนที่เข้าใจผม เข้าใจในสิ่งที่เป็น ผมไม่ใช่ผู้ชายที่หวงความโสด ผมมีภาพครอบครัวอยู่ในหัวตลอดเวลา แต่ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องแต่งงานเมื่อไหร่ เพราะใจผมอยากตั้งตัวให้ได้ก่อน อยากสร้างฐานะให้มั่นคงก่อนเป็นอันดับแรก”

โชแปง ยังทิ้งท้ายด้วยแววตามุ่งมั่น ถึงอีกหนึ่งฝันที่เขาอยากทำให้เป็นจริงว่า “ถ้าถามผมตอนเด็กๆ ว่าความฝันอยากทำอะไรให้เป็นจริง ความสุขของผมคือการขับรถ ผมจะตอบว่าผมอยากลงสนามแข่งรถ แต่ถ้าตอนนี้จากความสุขในการขับรถ ต่อยอดมาถึงธุรกิจที่ผมทำ ผมกำลังลงสนามแข่งอยู่เช่นกัน ผมก็อยากทำให้ธุรกิจที่ผมตั้งใจทำประสบความสำเร็จ”


กำลังโหลดความคิดเห็น