xs
xsm
sm
md
lg

13 ปีแห่งรักแท้ “อธิดุลย์-วิภาวี” ชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ต้อนรับเดือนแห่งความรักด้วยเรื่องราวแสนหวานของคู่รักคนดัง อย่าง อามร์-อธิดุลย์ คอมันตร์ เอ็มดีหนุ่มแห่งบริษัทไทยสตาร์แอร์ และเจ้าของธุรกิจ ภูวนาลี รีสอร์ต เขาใหญ่ กับ โมนา-วิภาวี คอมันตร์ เจ้าของศูนย์การเรียน บี บูเลอวาร์ด เอดูเคชัน พาร์ค หลังพิสูจน์รักแท้มาถึง 13 ปี จนมีลูกแฝดชาย-หญิง น้องธิ-เอกวิทย์ กับน้องดา-วรดา ถึงวันนี้ความรักยังคงไม่จืดจาง และทั้งคู่ยังขอบคุณโชคชะตา ที่นำพาให้มาเจอกันจนเกิดเป็นรักแรกพบ

เธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ

เรื่องราวความรักของทั้งคู่ราวกับซีรีย์เกาหลี “จริงๆ ก็นานมาแล้วนะคะ” โมนาเขินเล็กน้อยพร้อมเล่าว่า “ด้วยความที่ชอบเล่นดนตรี พอดีสถานทูตอิสราเอลมีนักเปียโนมาแสดง คุณพ่อของเพื่อนได้รับเชิญให้ร่วมงาน เพื่อนจึงชวนโมนาไปด้วย ขณะที่ ชมการแสดงมีผู้ชายคนหนึ่งผิวเข้ม หน้าไทยๆ นั่งมองจนผิดสังเกต ตอนนั้นแม้จะรู้สึกเแปลกๆ แต่ก็ถูกสเปก จนกระทั่งจบงานเขาก็ไม่ได้มาคุยอะไร

หลังจากนั้นสถานทูตอิสราเอลได้ติดต่อให้ไปร่วมคอนเสิร์ตอีก รู้สึกแปลกใจมาก เพราะวันนั้นแค่ตามเพื่อนไป จึงสอบถามเพื่อนปรากฏว่าเขาไม่ได้รับเชิญ ก็ยิ่งแปลกใจจึงปฏิเสธไป แต่ก็ถูกคะยั้นคะยอ จำได้ว่างานนั้นจัดที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต ซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้าน ด้วยความเกรงใจจึงตอบรับไป

พอไปถึงงานก็ได้รับการดูแลดีมาก อยู่สักพักก็ขอตัวกลับ จากงานนั้นผ่านไปอีกร่วมเดือนก็มีผู้หญิงฟิลิปปินส์โทร.มาหาบอกว่าอยากให้มาร่วมเล่นเปียโนในกิจกรรมหนึ่ง ตอนแรกปฏิเสธเพราะเล่นเปียโนไม่ได้ดีมาก แต่พี่เขาบอกว่ารู้จักกับคุณย่าซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ เลยถูกคอกัน สุดท้ายจึงตกลงไปเจอกับพี่เขา”

ในวันนัดก็ต้องเซอร์ไพรส์เมื่อได้เจอชายในสเปกอีกครั้ง “ระหว่างที่นั่งคุยกัน จู่ๆ พี่คนนั้นก็โทร.นัดเพื่อนให้มาเจอ ปรากฏว่าเพื่อนที่พี่เขานัดมาไม่ใช่ใครแต่เป็นเขา ตอนแรกจำไม่ได้ว่าเป็นผู้ชายที่เคยเจอที่คอนเสิร์ต แค่คิดว่าคนนี้สเปกเลย(ยิ้ม) จนพอนั่งคุยไปสักพักถึงนึกออก จึงบอกไปว่าโลกกลมมากเราเคยเจอกันที่คอนเสิร์ตนะ ตอนนั้นเขาดูเฉยๆ วันนั้นเราแค่แลกนามบัตรและเริ่มส่งอีเมลคุยกัน จนนัดกันออกไปทานข้าว ทำความรู้สึกกันมากขึ้น”

ด้านฝ่ายชายที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ ก่อนจะเฉลยว่า “พอเริ่มคบกันซักระยะผมถึงบอกว่าเรื่องทั้งหมดผมเซ็ตอัปขึ้น เพราะชอบเขาตั้งแต่แรกเจอ จนไปแอบถามคนจัดงานว่าเป็นใคร แต่ตอนนั้นเขาไปงานกับเพื่อนไม่มีชื่อ ผมคิดว่าเป็นลูกสาวของอีกบ้าน จึงไปดักรอสักพักก็ไม่เจอ จึงแอบโทร.ถามที่บ้านนั้นว่ามีลูกสาวกี่คน เขาบอกมีคนเดียว ผมถึงรู้ว่าเข้าใจผิดมาตลอด (หัวเราะ) จากนั้นผมจึงให้พี่ที่สถานทูตเชิญเขามาร่วมงานคอนเสิร์ต แต่วันนั้นดันติดธุระเลยไปช้าเขากลับไปแล้ว สุดท้ายผมเลยไปขอให้พี่ที่รู้จักอีกคนช่วยนัดเขาออกมา” อามร์เล่าอย่างอารมณ์ดี พร้อมบอกว่าปกติถ้าชอบใครจะรุกเต็มที่ แต่ไม่มีคนไหนที่ทุ่มเทให้เหมือนสาวโมนา ถึงขนาดปฏิญาณว่า ถ้าจีบติดจะแต่งงานกับเธอ

หลังคบหาดูใจกันสองปีก็แต่งงานกัน สิ่งที่บ่มเพาะให้ต้นรักของทั้งคู่เติบโต เพราะความเข้าใจและไม่คาดหวังในตัวอีกฝ่ายจนเกินไป

“ไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่เพอร์เฟกต์ ถ้าเราคิดแบบนั้นเราจะไม่คาดหวัง คนสองคนเมื่อมาชีวิตด้วยกันต้องเข้าใจว่าเรามาจากต่างครอบครัว ย่อมมีความคิดความเห็นไม่ตรงกันบ้าง ต้องปรับจูนกันตลอด เราไม่ได้ชอบอะไรเหมือนกัน 100% เราจะคาดหวังให้อีกคนเหมือนกันไม่ได้ หน้าที่ของเราคือทำความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้ดีที่สุด”

5 ปีที่รอคอยจิกซอว์ส่วนที่หายไป

เมื่อเริ่มต้นครอบครัวทั้งคู่เห็นพ้องกันว่าอยากมีลูก “โมนาแต่งงานตอนอายุ 30 ปี และคุยกันว่าอยากมีลูกเลย ตอนแรกก็ปล่อยตามธรรมชาติ ผ่านไป 6 เดือนจึงไปปรึกษาหมอ คุณหมอให้พยายามไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่มีวี่แวว จึงเปลี่ยนหมอมาหลายคนเริ่มจะถอดใจ จนมาถึงคุณหมอท่านสุดท้ายยืนยันว่าขอลองวิธีเดิมอีกครั้ง เพราะตรวจแล้วก็ไม่พบความผิดปกติ จำได้ว่าพอฉีดเชื้อเสร็จก็ไปเที่ยวหลวงพระบาง เป็นทริปที่สมบุกสมบันมาก คิดว่าถ้าครั้งนี้สำเร็จก็คงหลุด แต่ผิดคาดครั้งนี้ติด แถมคุณหมอบอกว่าน่าจะมีลูกแฝด” โมนาเล่าอย่างมีความสุข

หลังจากนั้นโมนาดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด “ตอนที่คุณหมอบอกข่าวดีคือเซอร์ไพรส์มากๆ เขามาโดยที่เราไม่คาดหวัง ยิ่งหลังจากตรวจเลือด ทั้งดีใจ ทั้งกลัว ตอนนั้นทิ้งทุกอย่าง หยุดทำงาน อยู่แต่บ้าน ไม่ทำอะไรเสี่ยงๆ กลัวล้ม หาหนังสือมาอ่านเพื่อเตรียมตัว” ในที่สุดการรอคอยลูกน้อยถึง 5 ปี ก็ประสบผลสำเร็จ

13 ปี รักเราไม่เก่าเลย

นอกจากจะมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจแล้ว เคล็ดลับในการครองรักให้ยาวนานทั้งคู่ตอบว่า “เราไม่ใช่คู่หวานโรแมนติก สมัยจีบกันใหม่ๆ อาจจะมีบ้าง แต่พออยู่กันมานานๆ ก็ไม่ค่อย อยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อนมากกว่า ไม่ใช่คู่ที่ต้องไปดินเนอร์ทุกวันวาเลนไทน์ แต่ให้ความสำคัญกับวันครบรอบ วันเกิดของอีกฝ่าย”

กฎเหล็กที่ทำให้ชีวิตรักยืนยาวคือ “ให้เกียรติกัน” โมนาเผย “ด้วยงานของเขาต้องกลับดึก บางครั้งไม่ได้คุยกันหลายวัน บางทีเราหลับก่อน ตื่นเช้ามาก็ออกไปส่งลูก แต่ก็ไม่หยิบมาเป็นปัญหา เพราะไลน์คุยกันตลอด เราให้เกียรติอีกฝ่ายเสมอ ต่างฝ่ายต่างเชื่อใจกัน”

สำหรับวิธีเติมความหวานไม่ให้จืดจาง ทุกปีครอบครัวเธอจะจัดทริปปีละ 4 ครั้ง นานๆ จะมีทริปที่ทั้งคู่หนีลูกไปเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์กับเพื่อนๆ สักที “ตั้งแต่เจอเขาจนถึงวันนี้ 13 ปีแล้ว ก็ยังรักเขาเหมือนเดิม เขาเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่คนโรแมนติกหรือเอาใจเก่ง แต่เราก็รู้สีกดีที่เขาเป็นตัวของตัวเอง โมนาฝันมาตลอดว่าอยากได้คู่ชีวิตที่เป็นได้ทั้งพ่อ เพื่อน และพี่ชาย อาจเพราะมีแต่น้องเลยอยากได้คู่ชีวิตที่พร้อมรับฟัง สามารถให้คำปรึกษา และความคิดเห็น เหมือนเป็นเพื่อนคู่คิด ซึ่งเขาก็เป็นทุกอย่าง อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น รู้สึกว่าเลือกไม่ผิดเลย”

หวานขนาดนี้ทำเอาฝ่ายชายเขินพร้อมบอกว่า “ผมว่า 13 ปีผ่านไปเขายังสวยไม่เปลี่ยน ผมประทับใจที่เขาเป็นคนจิตใจดี เข้มแข็ง ดูแลและสอนลูกดี เป็นแม่ที่ดีของลูก เป็นผู้หญิงที่อดทน เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ ผมดีใจที่เขายังอยู่เคียงข้างผมเสมอ และผมปรารถนาให้เขามีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน สำหรับผมเขาเหมือนน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่ง”

เจอคู่รักที่ออกตัวว่าไม่หวาน สะท้อนความในใจทิ้งท้ายซึ้งๆ แบบนี้ ทำให้โลกเป็นสีชมพูเลยทีเดียว







กำลังโหลดความคิดเห็น