>>ด้วยนามสกุล “นาคาศัย” ที่ใครๆ คุ้นหู บวกกับลุคนิ่งๆ ของ “เบอร์ดี้-ปาวา นาคาศัย” ลูกสาวคนสวยของ “อนุชา นาคาศัย” อดีต ส.ส.หลายสมัย กับ “พรทิวา นาคาศัย” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงทำให้หลายคนติดภาพว่าเธอคงไม่ต่างจากลูกคุณหนูในละครที่เย่อหยิ่ง เอาแต่ใจ ใช้เงินแบบไม่ต้องคิดมาก หากสิ่งที่เห็นนั้นตรงข้ามกับสิ่งที่คิดอย่างสิ้นเชิง เพราะถึงจะมีชีวิตแบบลูกคุณหนู แต่เธอก็ไม่ได้ถูกสปอยล์จนเสียเด็ก หลังจากเรียนจบ เธอใช้เงินเก็บที่มีสร้างธุรกิจของตัวเอง และไม่เคยต้องรบกวนเงินทองจากคุณพ่อคุณแม่อีกเลย
สาวน้อยคนนี้มีความฝันว่า อยากจะสร้าง “ปาวา คอลเลกชัน” ธุรกิจที่เริ่มต้นด้วยสองมือ ให้กลายเป็นอาณาจักรส่วนตัวที่ไม่ได้จำกัดกรอบอยู่แค่แฟชั่น แต่เป็นแบรนด์ที่สามารถสะท้อนตัวตนของเธอในหลากหลายมิติ และหากเปรียบเทียบชีวิตเบอร์ดี้เป็นเหมือนการเดินทาง วันนี้เธอยอมรับว่ากำลังมีความสุขและเพลิดเพลินกับเส้นทางที่เลือกเดิน และยังพร้อมที่จะก้าวต่อไปเพื่อค้นหาความหมายของชีวิต
เรียนตามใจแม่ แต่วันนี้ขอตามใจตัวเอง
“เบอร์ดี้ชอบวาดรูป ชอบแฟชั่น ความจริงอยากเรียนดีไซน์ แต่คุณแม่อยากให้เรียนเศรษฐศาสตร์เบอร์ดี้จึงตามใจคุณแม่ ถึงจะไม่ชอบเลขแต่ใช้ความพยายาม อาศัยพรแสวงมากกว่าพรสวรรค์ (หัวเราะ) เบอร์ดี้ไม่เคยวาดภาพตัวเองว่าจบมาจะมาทำงานในสายที่เรียนเลย แต่เรียนเพื่อให้มีความรู้ติดตัว” เธอเปิดฉากเล่าถึงเส้นทางชีวิตที่คุณแม่เป็นโค้ชอย่างอารมณ์ดี
หลังจากเรียนจบเศรษฐศาสตร์ (ภาคภาษาอังกฤษ) จุฬาฯ สาวเก่งแห่งยุคเจนฯ วาย ไม่รอช้า เธอเลือกออกแบบเส้นทางของตัวเอง ด้วยการทำในสิ่งที่ใจรัก นำเงินเก็บที่มีมาสร้างแบรนด์ โดยใช้ชื่อว่า ปาวา คอลเลกชัน (Parva Collection)
“พอเรียนจบ คุณแม่ท่านให้อิสระเต็มที่ ตอนแรกๆ อาจจะมีกระตุ้นว่าให้เตรียมตัวไปเรียนต่อ แต่เบอร์ดี้ขอคุณแม่ว่าอยากเรียนรู้ตัวเองก่อน ไม่อยากเสียเวลาไปเรียนในสิ่งที่ไม่ใช่ ระหว่างที่ค่อยๆ ค้นหาตัวเอง เบอร์ดี้เริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเอง แต่ก็วางแผนไว้ว่าภายใน 1-2 ปี จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ น่าจะเป็นสายบริหาร อาจจะเป็นบริหารแฟชั่นก็ได้ค่ะ” เบอร์ดี้ฉายภาพแผนในอนาคตก่อนจะแย้มถึงบทบาทการเป็นเจ้าของแบรนด์ที่กำลังมาแรงไม่น้อยในโลกแฟชั่น
“เบอร์ดี้อยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเองมาตั้งนานแล้ว เพราะเวลาเราแต่งตัว หรือใส่แอกเซสซอรี ก็มักมีคนถามตลอดว่าใส่แบรนด์อะไร ซื้อที่ไหน ซึ่งบางครั้งยังรู้สึกว่าสิ่งที่เราใส่ก็ยังไม่ใช่สไตล์หรือตัวตนของเราซะทีเดียว เลยเกิดไอเดียว่าถ้าอย่างนั้นเราน่าจะออกแบบแอกเซสซอรีที่เป็นสไตล์ของเราเองซะเลย พอเรียนจบเลยเปิดแบรนด์ ประเดิมด้วยการทำเคสลายหินอ่อนขาย เพราะช่วงนั้นเคสลายหินอ่อนฮิตมากในต่างประเทศ เบอร์ดี้อยากได้มาก แต่ในเมืองไทยไม่มีต้องรอสั่งจากเมืองนอก จึงลองทำขาย”
จากจุดเริ่มต้นของเคสหินอ่อน กลายเป็นที่มาของแอกเซสซอรียอดฮิตภายใต้ ปาวา คอลเลกชัน อีกมากมาย อาทิ หมวก เครื่องประดับ สร้อย และล่าสุด กับการชิมลางร่วมออกแบบเสื้อผ้ากับ Peace by Silsupa ซึ่งตลอด 3 ปีกับการเฝ้าฟูมฟักธุรกิจนี้มา ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลย เพราะเริ่มต้นแค่ด่านแรก คุณแม่ยังออกอาการไม่มั่นใจว่าจะรอดหรือรุ่ง แต่เธอเชื่อว่าถ้าคนเราเริ่มต้นด้วยความมั่นใจ ทุกอย่างก็เป็นจริงได้ “ธุรกิจก็ไปได้ดีนะคะ ผลงานทุกชิ้นมาจากไอเดียของเบอร์ดี้ นั่งเลือกวัสดุเอง ทุกชิ้นต้องผ่านตา เพื่อให้มั่นใจในความเนี้ยบและคุณภาพ ก่อนส่งให้ลูกค้า เราไม่มีหน้าร้าน ขายผ่านออนไลน์ มีเบอร์ดี้และแอดมินอีกคนคอยสื่อสารกับลูกค้าเองทั้งหมด”
“เบอร์ดี้ค่อยๆ จับตลาด เน้นราคาไม่สูง ใช้ไอจีของตัวเองเป็นพื้นที่โปรโมต บางครั้งเพื่อนชอบเราก็ส่งให้ ไม่ได้บังคับว่าใส่แล้วต้องแท็กเราก็ได้ เพราะเรามั่นใจว่าดีไซน์แบบนี้มีแค่เรา เบอร์ดี้ไม่ได้มองว่า ปาวา คอลเลกชัน เป็นแค่แบรนด์แฟชั่นเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ เพราะเบอร์ดี้เองก็สนใจหลายอย่าง ทั้งดำน้ำ ขี่ม้า ออกกำลังกาย และท่องเที่ยว”
อินฟลูเอนเซอร์ตัวแม่บนโลกออนไลน์
ความสำเร็จของปาวา คอลเลกชัน ในวันนี้ ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งมาจากความตั้งใจเกินร้อย อีกส่วนต้องยกให้จิ๊กซอว์สำคัญที่มาช่วยสร้างแรงเสริม ฐานแฟนคลับบนโลกออนไลน์ เพราะลำพังแค่ยอดฟอลโลเวอร์บนอินสตาแกรมของเธอ ก็ไม่น้อยหน้าใคร แตะหลักแสนไปแบบสวยๆ
“เบอร์ดี้เล่นไอจีตั้งแต่สมัยเรียน แต่คนมาฟอลโลว์เยอะประมาณ 2 ปีที่แล้ว อาจเพราะว่ารูปที่เราโพสต์ค่อนข้างจะแตกต่าง เราใช้กล้องโปรรูปเลยออกมาสวย บวกกับไลฟ์สไตล์เราชอบเดินทาง เลยมีคนมาติดตาม สังคมออนไลน์ยุคนี้มีประโยชน์นะคะ แต่ต้องยอมรับว่าในข้อดีก็มีข้อเสีย เบอร์ดี้เคยเจอคอมเมนต์แย่ๆ แต่ก็ถือว่าน้อยมาก วิธีรับมือคือลบมันไป ไม่เก็บมาคิดมาก มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่เบอร์ดี้จะไม่โพสต์เรื่องที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ถ้าวันไหนรู้สึกแย่หรืออยากระบาย ถ้าไม่เล่าให้คนใกล้ตัวฟังก็จะพิมพ์ใส่โน้ตในโทรศัพท์ ระบายให้พอแล้วลบทิ้ง...จบ (ยิ้ม)”
เบอร์ดี้โลดแล่นอยู่ในโลกออนไลน์ ทั้งไอจี เฟซบุ๊กส่วนตัวสำหรับเพื่อนสนิท หน้าเพจเฟซบุ๊กสำหรับแฟนๆ ที่อยากติดตาม ช่องยูทิวบ์ และเว็บไซต์ Parva Collection ซึ่งเธอตั้งใจให้เป็นพื้นที่สำหรับถ่ายทอดมุมมองแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน
“เบอร์ดี้มีโปรเจกต์เยอะจนคุณแม่ยังแซว (หัวเราะ) ล่าสุด เพิ่งซื้อโดรนมาไว้เก็บภาพเวลาเดินทาง ทุกทริปเบอร์ดี้จะถ่ายภาพและวิดีโอกลับมาเพื่อนำมาตัดต่อลงยูทิวบ์ เก็บไว้เป็นไดอารีส่วนตัว และสำหรับคนที่สนใจ แต่ถึงจะดูเป็นคนติดโซเชียลก็อยู่ห่างจากโทรศัพท์เป็นอาทิตย์ได้สบายๆ นะคะ เพราะเวลาไปดำน้ำ ก็ไม่มีสัญญาณอยู่แล้ว อาศัยดูรูป ดูวิดีโอจากกล้องที่ถ่ายเอาไว้
สาวเฮลตี้ กิจกรรมแน่นทั้งบนบกและใต้น้ำ
นอกจากงานธุรกิจมากมายแล้ว สาวแอกทีฟคนนี้ยังใช้ทุกนาทีอย่างคุ้มค่า มีเวลาไปทำกิจกรรมโปรดอย่าง การดำน้ำ ขี่ม้า หรือชกมวย โดยเธอเล่าให้ฟังว่า
“ตั้งแต่เด็กก็เห็นว่าคุณพ่อดำน้ำมาตลอด ท่านดำน้ำมากว่า 40 ปีแล้ว เบอร์ดี้เองชอบทะเลแต่ไม่เคยคิดจะลองดำน้ำ ที่ผ่านมาได้แต่สนอร์กเกิล จนเมื่อ 2 ปีก่อนได้ลองดำน้ำ ครั้งแรกก็กลัวนะคะ ลงไปแล้วเคลียร์หูไม่ทัน พุ่งตัวขึ้นมา ซึ่งอันตรายมาก โชคดีที่ครั้งนั้นลงไปแค่ 3 เมตร เลยไม่เป็นไร คุณพ่อก็แนะนำให้ใจเย็นๆ แล้วลองใหม่ คราวนี้ลองดำลงไป 15 เมตร ได้เห็นกำแพงปะการัง โลกใต้น้ำที่สวยมากๆ พอกลับจากทริปนั้นก็ไปลงเรียนดำน้ำเลย ทั้งแบบที่มีอุปกรณ์ และแบบ Free Dive“
ใครที่คิดว่า เบอร์ดี้เรียนแค่ขำๆ บอกเลยว่าผิดถนัด เพราะเธอไม่ได้มาเล่นๆ แต่เรียนมาจนถึงระดับ rescue และตั้งใจจะต่อให้ถึงระดับมาสเตอร์ที่สามารถสอนและจัดทริปดำน้ำได้
ส่วนขี่ม้านั้นเธอเริ่มขี่อย่างจริงจังมากว่า 4 ปี เริ่มจากการเที่ยวทะเลบ่อยๆ ได้ลองขี่ม้าตามชายหาดแล้วติดใจ เลยเรียนอย่างจริงจัง จนตอนนี้เรียนถึงขั้นขี่กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ตั้งใจว่าอยากจะลองลงแข่งสักครั้งให้ได้
“เบอร์ดี้ชอบขี่ม้ามาก ขนาดเคยตกม้า 3-4 รอบ เจ็บจนเดินไม่ได้เกือบอาทิตย์ก็มี แรกๆ ก็มีเสียขวัญนะ แต่สุดท้ายพอหายก็กลับไปขี่ต่ออีก เพราะเป็นกิจกรรมที่สนุก ผ่อนคลายสำหรับเบอร์ดี้ค่ะ ตอนนี้ตั้งใจว่าภายในปีสองปีนี้จะเก็บเงินซื้อม้าให้ได้ค่ะ” นอกจากการดำน้ำและขี่ม้าแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับของหุ่นๆ ดี ฟิตแอนด์เฟิร์มของเบอร์ดี้มาจากการชกมวย ที่อย่างน้อยเธอต้องไปออกหมัดเรียกเหงื่อสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ควบคู่กับการคุมอาหาร
นิยามรักในแบบเบอร์ดี้
พอถามเรื่องความรัก เบอร์ดี้ยิ้มร่าเริงก่อนเผยถึงสเตตัสหัวใจว่า “สบายๆ คุณแม่เองก็ไม่ได้กดดัน ถึงไม่อยากแต่งคุณแม่ก็ไม่ว่า เบอร์ดี้ไม่ซีเรียสเพราะมีเป้าหมายในชีวิตเยอะ”
ถามว่าสเปกชายหนุ่มแบบไหนถึงคว้าหัวใจเบอร์ดี้มาครองได้ เธอตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดว่า “เป็นคนดี ขยัน ทำงานเก่ง เข้าใจเรา ถ้าชอบดำน้ำ ขี่ม้า จะได้คะแนนพิเศษ...
เบอร์ดี้คิดว่าต้องอายุเกิน 30 ค่อยแต่ง เพราะอยากอยู่ได้ด้วยตัวเองก่อน ชีวิตนี้เราไม่ได้ตัวคนเดียว มีครอบครัว มีน้องหมา มีเพื่อน เป้าหมายสูงสุดคืออยากประสบความสำเร็จก่อน ถึงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่คิดว่าต้องไปถึงเป้าหมายแน่นอน ทุกวันนี้มีความสุขกับจุดที่ยืน เครียดบ้างเป็นบางครั้ง แต่แค่ได้ทำงานที่รักและมีความสุข เหนื่อยแค่ไหนก็สบายๆ” สาวสวยกล่าวทิ้งท้าย
