xs
xsm
sm
md
lg

โรดทริปสุดหรรษา สไตล์ “อัมระนันทน์แฟมิลี่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางแบบใหม่ อย่าพลาดลองไปสัมผัสรสชาติใหม่ของการเดินทางด้วยการออกโรดทริป (Road Trip) เก๋ๆ สักทริป สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยหรือไม่กล้าออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ลองตามสามแม่ลูกแห่งครอบครัวอัมระนันทน์ ไปโรดทริปสนุกๆ ที่ออสเตรเลียกัน

แนน-นันทินี อัมระนันทน์ ลูกสาวสุดเลิฟที่ถอดแบบความสวยของผู้เป็นแม่ “ฮอลลี่ อัมระนันทน์” มาไว้อย่างไม่มีตกหล่น บอกเล่าถึงโรดทริปสุดประทับใจที่เกี่ยวก้อยคุณแม่และพี่ชาย (นนท์ อัมระนันทน์) ไปออสเตรเลียด้วยกันเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาอย่างออกรสว่า “เราวางแผนว่าจะไปเยี่ยมคุณยายที่ Wagga Wagga ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างเมลเบิร์นและซิดนีย์ ทริปนี้ตอนแรกเราวางแผนนั่งเครื่องไปลงที่เมลเบิร์น แล้วขับรถไปหาคุณยาย และไปเที่ยวซิดนีย์ต่อแล้วค่อยกลับมาหาคุณยายอีกครั้ง จากนั้นขับรถกลับมาเมลเบิร์นเพื่อนั่งเครื่องกลับ แต่สุดท้ายเวลาไม่พอเพราะเราไปแวะเที่ยวอีก 2 เมืองเลยไม่ได้ไปซิดนีย์”

สาวสวยบอกว่าความจริงแล้วจากเมลเบิร์นสามารถเปลี่ยนมาขึ้นเครื่องบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางต่อมาที่ Wagga Wagga ได้เลย แต่เพราะอยากเที่ยวแบบชิลๆ เลยตัดสินใจเช่ารถขับเอง

“จากเมลเบิร์นมา Wagga Wagga ประมาณ 200-300 กม.ค่ะ ส่วนใหญ่คุณแม่จะรับหน้าที่เป็นสารถีประจำทริป เพราะคุณแม่ชอบขับรถและรู้สึกมั่นใจกว่าถ้าเป็นคนขับเอง ที่สำคัญคุณแม่ค่อนข้างมีเซนส์เรื่องถนนหนทาง บางครั้งไปตามแผนที่แล้วผิดทางคุณแม่จะเป็นคนที่รู้ก่อนว่าน่าจะมาผิดทาง ส่วนแนนและพี่นนท์จะทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ข้างกายคุณแม่ จะสลับกันนั่งหน้าประกบคุณแม่ ถ้าช่วงไหนใครหลับก็ไปนั่งข้างหลัง”

ความสนุกในการเดินทางโรดทริปคือไม่ต้องเร่งรีบ ได้ใช้เวลาค่อยๆ ชื่นชมกับความงดงามของวิวทิวทัศน์ตรงหน้า อยากแวะพักจิบกาแฟ เข้าห้องน้ำ ลงไปถ่ายรูปก็ทำได้ตามใจ จะมีหลงทางบ้างก็เป็นรสชาติของการเดินทาง

“พี่นนท์เคยไปเรียนที่ออสเตรเลียก็จริงค่ะ แต่ตอนนั้นสาขาที่พี่นนท์เลือกต้องไปเรียนอีกแคมปัสหนึ่ง ซึ่งต้องไปเรียนอีกเมืองกับที่คุณยายอยู่ เพราะฉะนั้น พี่นนท์ก็ไม่คุ้นเส้นทางอยู่ดี ต้องพึ่งแมพเป็นหลัก ก่อนเดินทางทุกครั้งคุณแม่จะจัดเต็มเตรียมเสบียงรองท้องระหว่างทางไม่ให้ขาด โชคดีที่ถนนหนทางที่โน่นขับไม่ยาก ไม่คดเคี้ยว ยิ่งถ้าวิ่งข้ามเมือง สบายเลย จะมีมาหลงๆ บ้างก็เวลาที่เข้ามาในตัวเมืองแล้ว ต้องอาศัยถามคนในพื้นที่เอา”

แนนยังบอกเล่าอย่างออกรสถึงทริปนี้ว่า “ครอบครัวเราชอบเที่ยวแบบไม่วางแผนอะไรเยอะ ไม่จองโรงแรมล่วงหน้า เลยเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ง่าย อย่างทริปนี้ระหว่างที่จะไปซิดนีย์เรานึกอยากเปลี่ยนแผนไปเที่ยวเมืองเล็กๆ ที่เป็นทางผ่านก่อน ก็ตัดสินใจจองโรงแรมเช้าก่อนไปแล้วขับรถไปเลย ไปนอนค้างเมืองละคืน นั่งจิบไวน์ในไร่องุ่น เดินเล่นชมทุ่งนามีความสุขมาก”

นอกจากความยืดหยุ่นเรื่องเวลาในการเดินทาง และความคล่องตัวแล้ว อีกหนึ่งความสุขที่สัมผัสได้ในการขับรถเที่ยวคือ การได้นั่งชมวิวสวยสองข้างทาง ถ่ายรูปผ่านกระจก หรือบางครั้งก็แวะจอดรถข้างทางเพื่อลงไปเก็บภาพ

“เราไม่ได้มีเดสติเนชั่นที่แน่นอนว่า ต้องลงไปเก็บภาพตรงไหน แต่ด้วยความที่คุณแม่ชอบบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่ขับรถไปแล้วเจอพระอาทิตย์จะตก ต้องแวะลงไปถ่ายรูป เป็นอีกโมเมนต์ที่ประทับใจมากๆ เพราะนอกจากจะอยู่ใต้ท้องฟ้าสวยๆ ยังอากาศดีมากๆ”

ส่วนเรื่องความอุ่นใจจากการขับรถเที่ยวในต่างบ้านต่างเมือง แนนบอกว่าไม่ค่อยห่วงเพราะยังไม่เคยเจอเรื่องหวาดเสียวหรืออุบัติเหตุให้ตกใจ จะมีบ้างที่ต้องคอยช่วยคุณแม่ดูว่า พื้นที่ไหนจำกัดความเร็ว พร้อมขับขี่อย่างระมัดระวังว่าอาจจะมีจิงโจ้กระโดดออกมาบนถนน

“ตั้งแต่ไปมา ยังไม่เคยเจอจิงโจ้กระโดดออกมาตัดหน้ารถให้หวาดเสียวนะ มีแต่กระโดดอยู่ตามสองข้างทาง แต่ที่น่ากลัวหน่อยคือ บางครั้งขับรถไปจะเจอซากจิงโจ้ที่โดนรถชน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่อยากเห็นเลย”

ในฐานะที่มีโอกาสไปโรดทริปทั้งกับครอบครัว และครอบครัวแฟนหนุ่มมาแล้ว ถามว่าไม่อยากลองเปลี่ยนที่นั่งจากผู้โดยสารมาเป็นคนขับบ้างหรือ สาวสวยตอบอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดนานว่า “ไม่ค่ะ เพราะว่าอยู่เมืองไทยแนนก็ชินกับการใช้รถไฟฟ้าอยู่แล้ว เวลาไปเที่ยวแนนว่าคนนั่งน่าจะสบายกว่าคนขับ ได้ชมวิว เก็บภาพสวยๆด้วย” แนนกล่าวทิ้งท้าย

ไกด์ไลน์สำหรับมือใหม่หัดโรดทริป

1. เช่ารถให้พร้อมก่อนเดินทาง “ปกติแนนจะจองรถให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง ส่วนใหญ่จะเลือกบริษัทที่เป็นที่รู้จัก โดยปกติรถเช่าจะมีให้เลือกทั้งรับรถที่สนามบิน หรือนั่งรถออกไปจากสนามบินประมาณ1-2 กม. ซึ่งแนนเคยใช้ทั้งสองอย่าง ข้อดีของแบบรับรถที่สนามบินคือ สะดวก แต่ราคาจะสูงกว่าแบบออกจากสนามบินไปรับรถพอสมควร ส่วนใหญ่คุณแม่จะเลือกรับรถที่สนามบิน เพราะสะดวกกว่าไม่ต้องต่อรถ ขนกระเป๋าหลายรอบ ทั้งนี้บางครั้งต้องเผื่อใจว่า สเปกรถที่เราเลือกไปบางครั้งอาจไม่ได้ตามนั้น เพราะรถแบบที่เราจองไปอาจจะหมด ทางบริษัทก็จะเลือกรถสเปกอื่นแทน ซึ่งมีโอกาสที่จะได้สเปกที่ดีขึ้นและแย่ลง”

2. ซื้อประกันรถให้พร้อม “นอกจากจะซื้อประกันส่วนตัวระหว่างเดินทางแล้ว ถ้าจะขับรถเที่ยว ประกันรถก็สำคัญในกรณีรถหายหรือถูกโจรกรรม ปกติสามารถซื้อจากเมืองไทยได้เลย หรือไปซื้อเพิ่มที่หลังก็ได้”

3. ตรวจรถให้ละเอียด “โชคดีที่คุณแม่มีความรู้เรื่องรถอยู่บ้าง เวลารับมอบรถมา คุณแม่จะตรวจดูรอบคัน ถ่ายภาพเก็บไว้ทุกด้าน ป้องกันปัญหาไม่ต้องมาเถียงกันทีหลังว่า เราไปทำรถเป็นรอยมีปัญหา ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ถึงไม่ได้เช็คละเอียด แต่คุณแม่ก็พอมีความรู้บ้างว่า ถ้าเสียงแบบไหนแสดงว่าเครื่องยนต์มีปัญหา”

4. ทำใบขับขี่สากลก่อนไป “เตรียมพร้อมเรื่องใบขับขี่ ไปขออนุญาตใบขับขี่สากลก่อนไปให้เรียบร้อย เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้เวลาขับรถและเช่ารถ แล้วก็อย่าลืมเตรียมความพร้อม ด้วยการลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎจราจรของประเทศที่จะไปด้วยค่ะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น