xs
xsm
sm
md
lg

ทริปพม่าสุดมันจำไม่ลืมของสองเพื่อนซี้ “จุ๋ย-หมิง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ซี้ขนาดไหนไม่ต้องบรรยายสำหรับสองเพื่อนสาววัยใส จุ๋ย-จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา และ หมิง-สุวรา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เพราะยามอยู่เมืองไทยก็จะควงกันออกงานสังคมแบบแพคคู่ไม่ขาดสาย ถ้ามีเวลาว่างตรงกันก็จะชวนกันเก็บกระเป๋าออกไปเปิดโลกกว้าง อย่างทริปล่าสุดที่เพิ่งชวนเดอะแก๊งไปปักหมุดกันมาหมาดๆ คือทริปพม่า 3 วัน 2 คืน ตะลุยย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์แบบโหด มัน ฮา แถมยังอิ่มบุญสุดๆ เพราะตระเวนขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทริปเดียวถึง12 วัด

“ทริปนี้คุยกันไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะว่าอยากไป แต่มาลงตัวที่ปลายปี พอดีเพื่อนของคุณแม่น้องอ้อมแอ้ม-ศรัณย์ภัค เพ็ญชาติ ทำทัวร์อยู่ที่พม่า เลยแนะนำว่าถ้าอยากไปสัมผัสบรรยากาศชิลๆ อากาศสบายๆ ให้รอปลายปี ซึ่งก็พอดีกับที่สมาชิกทั้งสี่ คือ จุ๋ย หมิง อ้อมแอ้ม และเพื่อนอ้อมแอ็มอีกคนหาเวลาว่างได้ตรงกัน กว่าจะได้ก็ยากเหมือนกัน ต้องไล่กันทีละอาทิตย์ว่าอาทิตย์ไหนใครได้” เซเลบสาวไซส์มินิ เปิดฉากเล่าถึงที่มาของทริปพม่าสุดฮาเฮอย่างออกรส

“สำหรับโปรแกรมการเดินทาง โชคดีได้เพื่อนของคุณแม่น้องแอ้มช่วยวางแผน หาไกด์ท้องถิ่นให้ โปรแกรมที่เราไปค่อนข้างแน่นนิดนึง เพราะมีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืน ใจจริงอยากไปมากกว่าอีก 1 คืน แต่พอดีหมิงเพิ่งเปลี่ยนงานเลยลาได้แค่วันเดียว ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยนะคะแต่สนุก ไปแล้วประทับใจ ได้ไปที่ที่เราอยากไปเกือบทั้งหมด”

หลายคนอาจคิดว่า นี่คือทริปรวมตัวคุณหนูวัยใสที่ต้องเน้นกินหรู อยู่ดี ไม่มีลำบาก แต่งานนี้จุ๋ยขอชี้แจงตรงนี้เลยว่า “เราจะเน้นเลือกโรงแรมที่อยู่แล้วสบายประมาณนึง แต่ถึงเวลาเที่ยวพวกเราไม่คุณหนูเลย พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ไปถึงก็ไปเช่ารถ ครั้งนี้โชคดีที่เรามีพี่วิไล ไกด์ท้องถิ่นคอยดูแล แนะนำประวัติความเป็นมาของสถานที่แต่ละแห่งให้ เสียดายที่ทริปนี้ยังไม่ค่อยได้ชิมอาหารท้องถิ่นเท่าไหร่ เพราะมีคนเตือนมาเยอะว่าให้ระวังเรื่องความสะอาด เราไม่อยากเสี่ยงเลยเลือกเข้าร้านที่เป็นภัตตาคาร อาหารแทบทุกมื้อเลยหนักไปทางซีฟู้ด แต่จนจบทริป สวัสดิภาพท้องของทุกคนก็อยู่ดี” (หัวเราะ)

จุ๋ยเล่าด้วยน้ำเสียงที่ยังแฝงความประทับใจไม่จางหายว่า “ทริปนี้ไม่ลำบากอย่างที่คิด คนพม่าน่ารักมากค่ะ ให้การต้อนรับอย่างดี เวลาไปวัดก็จะมีคนเฒ่าคนแก่มาเล่าประวัติความเป็นมาให้ฟัง เขาเล่าเป็นพม่า แล้วพี่ไกด์ซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ช่วยแปลให้”

นอกจากประทับใจทุกเรื่องราวในพม่าแล้ว เพื่อนร่วมทริปก็เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่เติมเต็มทริปนี้ “สำหรับน้องแอ้มเป็นครั้งแรกที่ไปด้วยกัน แต่ก็ประทับใจน้องมาก ส่วนหมิงไปด้วยกันมาหลายทริปก็ยังประทับใจทุกทริป โดยเฉพาะ เทคนิคการจัดกระเป๋าของหมิง ที่แม้กระเป๋าจะไซส์กะทัดรัดกว่าใครแต่มีของจำเป็นครบทุกอย่างจนแปลกใจ”(หัวเราะ)

ด้านเพื่อนซี้อย่างหมิง ที่แม้จะไม่ได้เตี๊ยมกับจุ๋ยไว้ล่วงหน้า แต่ก็ใจตรงกันยกให้ทริปพม่าเป็นอีกทริปที่ประทับใจ ถึงหลายคนอาจจะแซวว่าเป็นทริปไหว้พระแต่หมิงไม่แคร์ เพราะเป็นความตั้งใจของสาวๆ ที่อยากไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว

“มีวัดหนึ่งที่ไปไกด์บอกว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ใครมาขอคู่อีกไม่นานก็ได้แต่งงาน แต่หมิงไม่ได้ขอเรื่องความรักนะคะ(หัวเราะ) เพราเขาให้ขอข้อเดียว หมิงเลยขอเรื่องงานเพราะหมิงเพิ่งมาเริ่มงานใหม่ อยากให้หน้าที่การงานไปได้ดี ทริปพม่าครั้งที่ 2 สำหรับหมิงฟินมาก เพราะครั้งที่แล้วมาแบบไม่มีข้อมูล เข้าวัดก็ไม่รู้ประวัติหรือธรรมเนียมของแต่ละวัด ที่สำคัญทริปนี้ยังได้มากับเพื่อนรัก อย่างจุ๋ยนี่เดินทางด้วยกันบ่อย ปีที่แล้วไปญี่ปุ่นด้วยกันประทับใจเขามาก อาจเพราะเราเป็นสายชิล ยังไงก็ได้เหมือนกัน อยู่ด้วยกันแล้วเลยไม่อึดอัด สบายๆ ส่วนน้องแอ้มไปด้วยกันเป็นทริปแรกก็จริง แต่กลับมาแล้วรู้สึกได้เลยว่าเราสนิทกันมากขึ้น”

หมิงยังบอกเล่าถึงรสชาติของการเดินทางในทริปอันแสนครบรสนี้ว่า “ตื่นเช้าทุกวันเลยค่ะ ตั้งแต่วันที่บินไปจนวันกลับ เพราะเราตั้งใจไปดูพิธีล้างพระพักตร์พระมหามุนี ซึ่งพิธีจะเริ่มตั้งแต่ตี 4 หมายความว่าเราต้องออกจากโรงแรมตั้งแต่ตี 3 แถมวันกลับก็ต้องยอมตื่นเช้า เพื่อให้เที่ยวได้มากขึ้น เพราะเราต้องบินกลับไฟล์ทบ่าย”

ระหว่างที่หมิงกำลังเล่าอย่างออกรส เราถือโอกาสนี้ยิงคำถามจากเพื่อนรักที่ฝากถามถึงเคล็ดลับการจัดกระเป๋าขั้นเทพ งานนี้เล่นเอาหมิงหลุดหัวเราะก่อนเฉลยว่า “ไม่ได้มีเทคนิคอะไรพิเศษ แต่อาจเพราะเราเที่ยวสไตล์แบคแพคอยู่แล้ว เลยทีทักษะเก็บเสื้อผ้าและของจำเป็นลงไปในกระเป๋าใบเล็กได้ครบ แต่ข้อเสียของกระเป๋าใบเล็กคือ เวลาโหลดแล้วมักได้กระเป๋าเป็นใบสุดท้าย ไม่รู้ว่าเพราะกระเป๋าเราเล็กเกินหรือเปล่า จากนี้เลยตั้งใจว่าจะไม่โหลดกระเป๋าเดินทางไว้ใต้เครื่องแล้ว”

ในฐานะเพื่อนซี้ เพื่อนเที่ยว จากนี้ทั้งคู่มีแผนจะชวนกันไปเที่ยวฮ่องกงหรือไม่ก็ไต้หวัน หมิงบอกว่าเวลาไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันไม่เคยมีปัญหาหรืองอนกัน เพราะทั้งคู่เลือกใช้วิธีเปิดอกเปิดใจคุยกันทุกเรื่อง

“หมิงว่าใครที่คิดจะไปเที่ยวกับเพื่อนให้สนุก ต้องเริ่มจากเปิดใจคุยกันแฟร์ๆ พบกันคนละครึ่งทาง” สอดคล้องกับมุมมองของจุ๋ยที่มองว่า “ถึงเวลาว่างที่ไม่ตรงกัน จะเป็นต้นเหตุให้ทริปล่มบ้าง แต่เราไม่เคยเก็บมางอนหรือโกรธกัน เพราะจุ๋ยมองว่าจะไปเที่ยวให้สนุก ต้องสบายๆ ไปได้ก็ไป ไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
กำลังโหลดความคิดเห็น