xs
xsm
sm
md
lg

ปรางค์ - อภินรา ศรีกาญจนา เส้นทางปลุกปั้น “U drink I drive” ตัวอย่างธุรกิจ Start – up แห่งยุคนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ถ้าให้ลิสต์ชื่อเซเลบริตี้รุ่นใหม่ที่เป็นผู้หญิงเก่งและเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติเชื่อได้ว่า ชื่อของ ปรางค์ - อภินรา ศรีกาญจนา ต้องอยู่ในนั่นอย่างแน่นอน ด้วยความเป็นผู้หญิงที่ทั้ง สวย เก่ง มีความสามารถครบ โดยเธอเป็นบุตรสาวคนโตของบ้านศรีกาญจนา ที่คุณพ่อจุลพยัพ เป็นผู้บริหารบริษัทเอเชียประกันภัย 1950 และคุณแม่มีทั้งธุรกิจนาฬิกา บริษัทเพนดูลัม และเจ้าของร้านอาหารนาราที่โด่งดัง

อภินรา จบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย วาเซดะ กรุงโตเกียว สาขา รัฐศาสตร์ การเมืองระหว่างประเทศ และจนปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย London School of Economic & Political Science สาขาMaster in Social Science หลังจากการศึกษาเธอเข้ามาช่วยกิจการประกันภัยของครอบครัว พร้อมกับก่อตั้งธุรกิจของตัวเองที่ถือเป็นดาวเด่นของ Start-up รุ่นใหม่อย่างธุรกิจ “U drink I drive” บริการส่งคนขับรถมืออาชีพไปทำหน้าที่สารถีรับส่งผู้ขับขี่ที่ไปดื่มสังสรรค์ในงานปาร์ตี้ หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ถึงบ้าน เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากสาเหตุเมาแล้วขับ ด้วยบริการที่ตอบสนองไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีนี้ ธุรกิจที่เธอร่วมก่อตั้งกับเพื่อนๆ นี้จึงเจริญเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

โดยสาวปรางค์แอบแชร์เคล็ดลับความสำเร็จให้เราฟังว่า “เราขายservice เราขายความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เพราะบริการของเราคือ คนขับรถของเรา กับ รถของคุณ เพราะฉะนั้น คุณภาพของทุกเที่ยวๆบริการที่ออกไป และ ความละเอียดในเนื้อบริการที่ลูกค้าได้รับจากพนักงานขับรถจากเราทุกคน ตั้งแต่แรกเห็นในสูทสีฟ้าเป็นทั้ง moving bill board และ proven experienced ของบริการที่แปลกใหม่และน่าเชื่อถือที่ทำให้เกิดการบอกต่ออย่างต่อเนื่อง และไม่ว่าลูกค้าจะเรียกพนักงานคนไหนของเรามาขับ ทุกๆคนจะต้องได้รับบริการที่มาจากมาตรฐานเดียวกันค่ะ”

การทำงานกับหุ้นส่วนในการเริ่มสร้างธุรกิจของเธอนี้เธอบอกว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างเราและหุ้นส่วนแทบจะเรียกได้ว่าเราเหมือนแต่งงานกัน และ บริษัทคือลูกของเรา ที่ถึงแม้มันจะมีวันร้ายๆ และ สะดุดบ้างและ พ่อ แม่ที่ดีจะไม่ทำร้าย และ ทิ้งลูก ปรางค์เชื้อว่าเราทั้ง 4 คนมีความเป็น Founder อยู่ค่ะ

โดยปรางค์เชื่ออย่างหนึ่งว่า อย่าลงทุนในบริษัท start-up ที่ Founder ต้องการมองหา life balance เพราะแปลว่าเค้าไม่พร้อมที่จะเสียสละชีวิตส่วนตัวของตัวเองเพื่ออะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า ปีแรกๆชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ปีต่อมาเราค่อยๆแยกแยะได้ เหมือนมีลูก... เลี้ยงไป โตไปด้วยกัน เค้าคือชีวิตของเรา และอีกหลายร้อยคนค่ะ”

ทุกงานที่ทำเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีปัญหาและอุปสรรค โดยเธอบอกว่าการมีหุ้นส่วนหรือพาร์ตเนอร์ดีๆ ช่วยเรื่องนี้ได้มาก “ปรางค์พยายามแก้ไขด้วยวิธีการคิดบวก พร้อมกับอุดจุดอ่อนของตัวเอง แต่ถ้าเมื่อไรที่เจออุปสรรคที่แก้ไขไม่ได้ก็จงไปสู่เพื่อนร่วมงานและ partner ที่แกร่ง และ เก่งกว่าเราในเรื่องนั้นๆค่ะ ทุกอุปสรรคทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น และ พัฒนาตัวเองและองค์กร ที่สำคัญคือเมื่อเรามีเพื่อนร่วมงานที่มี อุดมการณ์ และ ความฝันsize เท่ากัน หรือ บางทีใหญ่กว่าเราและสร้างสรรค์กว่าเรามาก ทำให้ปรางค์รู้สึกท้าทาย มีแรงจูงใจ สนุกกับการได้แลกเปลี่ยนและทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอค่ะ เพราะงานนี้คืองาน หินที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่จุดนี้ได้ และมาไกลถึงขนาดนี้ได้จริงๆค่ะ ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคน ที่เป็นอีกครอบครัวนึงที่สุดยอดมาก”

สำหรับสไตล์การแต่งตัวของเวิร์กกิ้งวูแมนคนเก่งคนนี้ เธอมี 2 ข้อหลักเท่านั้น คือ 1. ต้องดูดีมีกาลเทศะ ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ day to evening และ 2. ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของเราที่ต้องทำอะไรหลายอย่าง ยืนนานๆ หรือบางครั้งก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้า ดังนั้นทุกอย่างที่เลือก จึงต้อง สวย และพร้อมรับทุกสถานการณ์ค่ะ

ส่วนไลฟสไตล์หรือการผ่อนคลายของเธอนั่นสาวปรางค์บอกว่า “พยายามหาเวลาอาทิตย์ละ 2 ครั้งทำกิจกรรมที่ให้สมาธิกับตัวเอง อย่างเช่นโยคะค่ะ แล้วก็จะไปออกกำลังกายกับคุณแม่ในวันเสาร์-อาทิตย์ค่ะ

ก่อนจากกันเธอมีคำแนะนำทิ้งท้ายให้กับผู้ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ Start-up ด้วยเทคนิกหามองหาช่องทางการตลาดว่า “ลองมองหาจุดที่ “ทนไม่ได้” และคิดที่จะทำอะไรสักอย่างกับมัน คุณจะพบแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้คุณทำอะไรที่แตกต่าง และ อยากตื่นมาทำให้ได้ค่ะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น