>>จากเส้นทางสายแฟชั่นกว่า 7 ปีในบทบาทของดีไซเนอร์แบรนด์ "การ์เด้น ฟลายนาว ทรี" (Garden Flynow III) สู่การปลุกปั้นใส่เสน่ห์ให้จานชามเมลามีน สาวหน้าหวาน ร่างบาง นักสร้างสรรค์มากฝีมือ "โอ๋-ปิยะพร อังอุบลกุล" ขอเข้ามาแตกไลน์ธุรกิจของคุณพ่อสนั่น อังอุบลกุล แห่งศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ผู้ผลิตเมลามีนรายใหญ่ของโลก กับแบรนด์ "เดอะ พ็อตเตอร์" (The Potters) ที่พูดได้เลยว่า นี่เป็นมิติใหม่ของจานชามเมลามีนที่เราคุ้นเคย เพราะวันนี้ "เดอะพ็อตเตอร์" กำลังได้รับการขานรับจากทั้งตลาดฮ่องกงและในเมืองไทย
ย้อนไปตั้งแต่วัยเด็ก ความฝันเล็กๆ ของโอ๋คือการเป็นดีไซเนอร์ เธอจึงมุ่งไปทางสายแฟชั่น โดยเริ่มจากเลือกเรียนปริญญาตรีสาขาแฟชั่นดีไซน์ ที่มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมซิตี (Birmingham City University) ประเทศอังกฤษ ต่อด้วยปริญญาโทด้านแฟชั่นดีไซน์ที่สถาบันโมรอนโคนี (Instituto Marangoni) กรุงลอนดอน และกลับมาทำความฝันให้เป็นจริงกับการเข้าไปทำงานในฐานะดีไซเนอร์กับแบรนด์ไทยระดับตำนานอย่าง Flynow
“เป็นโอกาสที่ดีที่ตอนเรียนจบมาได้เข้าทำงานที่ฟลายนาว ส่วนของดีไซน์ เป็นช่วงที่คุณสมชัยกำลังจะเริ่มทำแบรนด์ใหม่ จึงได้เป็นทีมที่บุกเบิก เริ่มตั้งแต่คิดคอนเซ็ปต์ ออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบร้าน ซึ่งช่วงที่ทำงานเป็นดีไซเนอร์นั้นเราไม่ได้ทำแค่อย่างเดียว ยังได้ช่วยมาร์เก็ตติ้ง ดูหน้าร้าน ดูเรื่องการขาย ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เยอะมากและเป็นงานที่เราชอบ”
ในระยะหลังๆ ของการทำงานเป็นดีไซเนอร์ ก็เป็นจังหวะที่ธุรกิจของคุณพ่อกำลังเตรียมคิดจะทำโปรเจกต์ใหม่ๆ ซึ่งมีคู่ค้าจากฮ่องกง ทำให้โอ๋ต้องเข้ามาช่วยงานคุณพ่อในเรื่องดีไซน์ควบคู่ไปด้วย ก่อนที่จะขอวางมือในวงการแฟชั่นและมาปั้นเสน่ห์ใส่จานชามเมลามีนอย่างเต็มตัว โดยเธอเริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้นการทำงานตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างแบรนด์น้องใหม่อย่าง “เดอะพ็อตเตอร์” ว่า
“โปรเจกต์นี้เป็นโปรเจกต์ที่ทำกับฮ่องกง ซึ่งปกติโอ๋จะชอบตามคุณพ่อเวลาเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยพอดีมีคู่ค้าฮ่องกงที่รู้จักกันมานาน เขาเห็นว่าโอ๋ทำแฟชั่นก็เลยชอบและเชียร์ให้โอ๋มาทำ จึงลองช่วยคุณพ่อทำเป็นคอนเซ็ปต์ใหญ่ โดยกลุ่มเป้าหมายของเราก็คือกลุ่มแม่บ้านที่มีลูกอ่อน โดยเริ่มสร้างคอนเซ็ปต์ของ “เดอะพ็อตเตอร์” โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพวกเครื่องปั้นดินเผาของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นต้นตำรับของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ครัวเรือนในปัจจุบัน และต้องการตั้งชื่อให้เป็นคำภาษาอังกฤษเข้าใจง่าย จึงเป็นคำว่า “เดอะพ็อตเตอร์” ส่วนลวดลายการออกแบบนั้นผสมผสานระหว่างศิลปะแนวคลาสสิกทางฝั่งยุโรปกับบาโรค แฝงความร่วมสมัย ด้วยเส้นสายแพตเทิร์นให้ลงตัวกับการใช้งานในชีวิตพวกจำวัน และด้วยความที่เราก็อยากให้ “เดอะพ็อตเตอร์” มีเรื่องราวจึงสร้างคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนขึ้นมาให้ดูน่ารัก ซึ่งยังได้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนทำงานอีกด้วย”
จะว่าไปแล้วในส่วนของ “เดอะพ็อตเตอร์” นั้นมีกลิ่นอายของความเป็นแฟชั่นอยู่เยอะพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นการฉีกจากความเป็นศรีไทยซุปเปอร์แวร์ในแบบเดิมๆ แต่ก็ถือว่าเป็นงานใหม่ที่เธอบอกว่ายังต้องเรียนรู้อีกมาก
“เพราะเราซึมซับจากการทำงานด้านแฟชั่นมาเยอะ ฉะนั้น เมื่อเริ่มทำแบรนด์ขึ้นมาจึงออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน แต่ความจริงแล้วการทำจานชามยากกว่าเสื้อผ้าเยอะมากๆ เพราะเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ และด้วยความที่เป็นเมลามีน ด้วยฟังก์ชันของเครื่องมือในการผลิต ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะค่ะ ต้องเข้าใจระบบโรงงานที่บาลานซ์กับการดีไซน์ด้วย นอกจากนั้น เรายังพัฒนาวางขายในเมืองไทยด้วย ซึ่งการนำแบรนด์เข้าห้างก็มีรายละเอียดเยอะมาก ต้องปรับให้เข้ากับตลาดมากขึ้น ด้วยความที่คอนเซ็ปต์แบรนด์แบบนี้ยังมีน้อยก็ต้องเรียนรู้ตลาดกันไปค่ะ
ตอนแรกวางแผนว่าหนึ่งปีจะมีจานชามออกมา 2 คอลเลกชัน และมีพวกเซ็ตของขวัญต่างๆ ด้วย ทำงานเหมือนตอนทำเสื้อผ้าเลย ไฮเปอร์มาก (หัวเราะ) แต่โดยพฤติกรรมของผู้ซื้อแล้วไม่ต้องเปลี่ยนคอลเลกชันบ่อยก็ได้ เพราะกว่าลูกค้าจะเริ่มอินกับจานชามนั้นต้องใช้เวลา แต่ก็ไม่หยุดความไฮเปอร์นะคะ เพราะยังมีงานส่วนอื่นให้รันต่อ”
แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายนักกับความท้าทายครั้งใหม่ในงานเมลามีน แต่ด้วยชื่อเสียงและความเชื่อมั่น ประกอบกับแบคที่เป็นคุณพ่อคอยสนับสนุนก็ทำให้การทำงานของโอ๋สมูทขึ้น
“ความท้าทายของงานนี้อาจจะเป็นช่วงแรก ด้วยความที่เป็นโปรดักต์ที่เราไม่ถนัด ต้องเรียนรู้ใหม่ ทั้งเรื่องการผลิตกับโรงงาน ฟังก์ชันการใช้งาน โชคดีที่พี่ๆ มีการเก็บวิจัยอยู่เสมอๆ เพราะศรีไทยซุปเปอร์แวร์เป็นโรงงานที่ได้รับความเชื่อถือ ขนาดแบรนด์ต่างประเทศก็ยังมาจ้างเราผลิต เพราะเราเป็นเมลามีน 100% เป็นของพรีเมียม ราคาจึงอาจสูงนิดนึง ซึ่งเราอยากให้คนรู้จักและเข้าใจมากขึ้น
งานนี้คุณพ่อเปิดทางให้สุดๆ นะ เขาอยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำ ซึ่งความจริงเวลาทำงานกับคุณพ่อ คุณพ่อไม่ดุนะ เพราะท่านรู้ว่าเราเป็นคนซีเรียสกับงานอยู่แล้ว กลายเป็นว่าบางทีคุณพ่อต้องเบรกเราว่าอย่าซีเรียสมากนะลูก (หัวเราะ) ท่านก็จะปล่อยให้ทำ ล้มลุกคลุกคลานเองก่อน ถ้ามีปัญหาก็มาถาม ทุกวันนี้ทำงานสนุกค่ะ โอ๋อยากให้ “เดอะพ็อตเตอร์” เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่สร้างอิมเมจให้ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ด้วย เป็นตัวประเดิมสู่รีเทล ดึงดูดให้ทั้งคนไทยและต่างชาติรู้จักศรีไทยซุปเปอร์แวร์มากขึ้น”
ต้องใช้พลังความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น เรื่องแรงบันดาลใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ และสำหรับการเติมอาหารให้ต่อมความคิดสร้างสรรค์ของเธอนั้น เธออาศัยการเดินทางออกไปชมผลงานของศิลปินต่างๆ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้กับงาน
“บางครั้งที่รู้ว่าประเทศไหนมีงานนิทรรศการที่น่าสนใจก็จะไปดู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ชอบไปแกลอรี่ หรือไปดูของเก๋ๆ ใหม่ๆ ใครบอกว่าทำงานกับครอบครัวแล้วสบายๆ แต่โอ๋นี่ไม่ชิลนะ ต้องทำงานตลอด ขนาดไปเที่ยวยังต้องคิดเผื่องานเลย!” เธอตอบแบบยิ้มๆ ก่อนที่จะเตรียมลุยพาแบรนด์ “เดอะพ็อตเตอร์” ให้รู้จักในระดับเอเชีย