>>เผลอแป๊บเดียว “แพร-พิมพิศา จิราธิวัฒน์” สาวสังคมคนสวย ทายาทคนโตของ “ธีระยุทธ-ชนัดดา จิราธิวัฒน์” เจ้าสัวเครือเซ็นทรัล กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หลังพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยเธอทำตามความฝันที่อยากจะสร้างธุรกิจของตัวเอง ด้วยการเปิดแบรนด์ลิปสติกสุดเก๋อย่าง “บอยเฟรนด์” (Boyfriend) ต่อด้วยธุรกิจสปอร์ตแวร์อย่าง Girl’s Nation ก่อนจะเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว ด้วยการเข้ามาเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ให้กับ โพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย บริษัทชั้นนำในธุรกิจสิ่งพิมพ์นิตยสารต่างประเทศ ประกอบไปด้วยนิตยสารหัวนอกที่คุ้นหูชาวไทยเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Elle, Elle Decoration, Ellemen, Cleo, Science Illustrated ตลอดจน Forbes Thailand
“ตอนนี้แพรเข้ามาเป็น Business Development พัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ในเครือ เน้นดูเป็นโปรเจกต์ๆ ไป ก่อนหน้านี้ที่ทำไปแล้วคือ การเปิดตัวเว็บไซต์ Mumraisin ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราสร้างสื่อของเราเองไม่ได้ซื้อจากต่างประเทศ โฟกัสที่กลุ่มแม่และเด็ก ความท้าทายคือเราจะนำเสนอและเล่าเรื่องเกี่ยวกับแม่และเด็ก ที่หลายคนมองว่าน่าเบื่ออย่างไรให้น่าสนใจ ด้วยการปรับสไตล์การเขียน การใช้ภาพประกอบ ใช้อินโฟกราฟิกมาช่วยในการเล่าเรื่อง หลังจากนี้โปรเจกต์ของแพรจะเริ่มมาโฟกัสที่ Cleo และ Science Illustrated แต่จะเป็นอะไรขออุบไว้ก่อน”
เซเลบริตีสาวเจ้าของรอยยิ้มสดใสยังเสริมด้วยว่า “ตอนแรกแพรไม่ได้ตั้งใจว่าจะเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัว เพราะคุณปู่ (สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์) และคุณพ่อคุณแม่ก็ค่อนข้างให้อิสระ เปิดโอกาสให้ทำในสิ่งที่อยากทำ แต่พี่ป๊อก (ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์) อยากให้แพรเข้ามาช่วย ตอนแรกแพรก็ยังไม่อยากมา เพราะสนุกกับการสร้างธุรกิจของตัวเอง พยายามยื้ออยู่ 1 ปี สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้ามาช่วยเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์”
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตสื่อสิ่งพิมพ์ที่อาการกำลังร่อแร่ ในมุมมองผู้บริหารมือใหม่อย่างแพร เธอยอมรับตามตรงว่า “สื่อสิ่งพิมพ์ในยุคนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลงจริงๆ ค่ะ แต่แพรเชื่อว่ายังมีช่องว่างที่จะทำให้เราเติบโตในช่วงวิกฤติเช่นนี้ได้ถ้าปรับตัว และอย่าตีกรอบยึดติดกับคำจำกัดความว่าเราเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ หรือเป็นเว็บไซต์ แพรคิดว่าเราต้องมองว่าเราเป็นกึ่งๆ เอเยนซีที่มีสื่ออยู่ในมือ เพราะฉะนั้น เราจะทำอย่างไรเพื่อบูรณาการทุกอย่างที่เรามีเข้าด้วยกัน ทั้งคนเขียน สื่อที่เรามี เพื่อทำแคมเปญหรือทำอีเวนต์ให้ลูกค้า”
แพรบอกว่า หลากหลายบทบาทที่ทำควบคู่กันไป ทำให้เธอได้เรียนรู้และนำความรู้ที่มีมาต่อยอด เริ่มตั้งแต่ความรู้ด้านสถาปัตย์ ถึงจะไม่ได้ทำงานตรงสาย แต่เธอเชื่อว่าพื้นฐานด้านดีไซน์ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกงาน รวมทั้งงานด้านสื่อที่เธอกำลังทำอยู่
“นอกจากเรื่องไอเดียสดใหม่ที่ต้องนำมาใช้สร้างสรรค์โปรเจกต์ใหม่ๆ แล้ว ความรู้ด้านสถาปัตย์ยังสอนให้รู้จักระดับความคิด คิดอย่างเป็นระบบ ทุกวันนี้ถึงจะทำงาน 7 วัน วันธรรมดาเข้าออฟฟิศ เพื่อประชุมกับทีม พอเสาร์-อาทิตย์ก็ลุยธุรกิจส่วนตัว แต่แพรก็ไม่ทิ้งชีวิตส่วนตัว ยังหาเวลาเที่ยว ออกกำลังกาย แฮงก์เอาต์กับเพื่อน ทานข้าวกับครอบครัว...
เทคนิคในการบริหารเวลาของแพร มีตัวช่วยสำคัญคือ Post it ที่โน้ตบุ๊กของแพรจะมี Post it แปะอยู่เยอะมาก เพื่อเป็นตัวช่วยกันลืมว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง เวลาเห็น Post it ถูกขีดฆ่างานที่ทำออกไปแล้วจนหมดแผ่นจะรู้สึกฟินมากๆ ทุกวันนี้แพรจะวางตารางล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ๆ จะได้รู้ล่วงหน้าว่าต้องทำอะไรบ้าง”
ถามถึงความท้าทายและกดดันในฐานะคลื่นลูกใหม่ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว สาวแพรตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดนานว่า เรื่องงานไม่ใช่ปัญหาแต่เรื่องคนคือสิ่งที่ต้องทำใจ
“แพรถือคติทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่สนใจเรื่องดรามาที่หนีไม่พ้น เพราะแพรเชื่อว่าคนเราต่างคนก็ต่างความคิด เพราะฉะนั้น อย่าเอาตัวเองไปสนใจกับคอมเมนต์หรือเรื่องดรามา เพราะฟังไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น สิ่งที่แพรโฟกัสตอนนี้คือ ทำโปรเจ็กต์ที่ได้รับมอบหมายให้ดี หาเทคนิค ไอเดียใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการทำงาน”
จากนี้ไปผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงคนนี้ นอกจากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานแล้ว เธอยังแบ่งเวลาไปเตรียมตัวสอบ เพราะเธอตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าจะเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทยังต่างประเทศ ซึ่งกำลังเล็งๆ อยู่ว่าจะเป็นที่ไหนดี ส่วนหลังจากคว้าปริญญากลับมาแล้ว จะกลับมาช่วยกิจการในส่วนไหน ด้านใด เราคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต