xs
xsm
sm
md
lg

ภูวดี คุนผลิน ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกของ “พ่อหลวง ร.๙”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>แม้อากาศจะร้อนแผดเผา ฝนตกพระวรกายเปียกโชก หรือหนาวเหน็บแค่ไหน พระองค์ท่านก็มิทรงเคยย่อท้อ เสด็จพระราชดำเนินไปหาประชาชนของพระองค์ท่านทุกที่ ซึ่งภาพเหล่านี้ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของประชาชนทุกคน และเชื่อมั่นว่า “ในโลกนี้ไม่มีกษัตริย์พระองค์ไหน เป็นเหมือนกษัตริย์ภูมิพล”

“เอ๋-ภูวดี คุนผลิน” ผู้บริหารสาวแสนสวยแห่งเรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ (Chaophra Cruise) เป็นอีกหนึ่งประชาชนของพระราชา ที่พร้อมเดินตามรอยสิ่งที่พ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้ทรงคิดค้นและริเริ่ม

“ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่เหมือนกษัตริย์ พระองค์ทรงดูแลประชาชนของพระองค์ยิ่งกว่าลูกของพระองค์เอง ด้วยเหตุนี้ทำให้เรายิ่งมองย้อนกลับมาที่ตัวเองว่า เราประชาชนของพระราชามิได้เป็นลูกเป็นหลานที่สืบสายเลือดมาจากพระองค์ท่านเลยแม้แต่น้อย แต่ทำไมพระองค์ท่านถึงต้องทรงทุ่มเทพระวรกายทำเพื่อพวกเราขนาดนี้ ภาพที่พระองค์ท่านทรงงานหนักยังคงติดตา เพราะทุกที่ที่พระองค์ท่านเสด็จต้องมีปากกา สมุด ดินสอ แผนที่ และกล้องถ่ายรูปติดพระวรกายของพระองค์ท่านไปด้วยทุกหนแห่ง”

เชื่อได้เลยว่าปวงชนชาวไทยทุกคนของพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ คงไม่มีใครที่ไม่ยึดหลักคำสอนของพระองค์ท่าน เพราะคำสอนของพระองค์ถูกฝังลึกในจิตใจของทุกคนโดยไม่รู้ตัว รวมถึงเอ๋ด้วยเช่นกัน

คำสอนเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่ใกล้ตัวเองที่สุด เพราะหากให้พูดถึงพ่อหลวง แน่นอนทุกคนต้องพูดเกี่ยวกับคำสอนในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ทว่า เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ท่านทรงเน้นย้ำนี้กลับกลายเป็นเรื่องจริงและสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง

“คำว่าพอเพียงของพระองค์ท่าน ไม่ใช่ว่ามีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น จะบอกว่าไม่ใช่เลย เพราะถ้าเราศึกษาให้ลึกกว่านี้จะรับรู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่พระองค์ท่านสอนเรานั้นคือ เราต้องพึ่งตัวเองให้ได้ก่อน และเมื่อเราสามารถพึ่งตนเองได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำอย่างไรให้ตัวเรารู้จักคำว่าพอเพียงในสิ่งที่เรามีและสิ่งที่เราเป็น สุดท้ายแล้วเราจะต้องรู้จักคำว่าเก็บออมและแบ่งปัน รู้จักช่วยเหลือ เผื่อแผ่ให้ผู้อื่นที่อยู่รอบตัวเรา รวมถึงประเทศชาติด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ”

อีกเรื่องที่ฝังลึกโดยที่ทุกคนไม่รู้ตัว เอ๋บอกว่าคือเรื่องของ “ความเพียร” เธอมองว่าทุกคนที่ตั้งใจทำงานย่อมมีความเพียรอยู่ในตัวอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะมากน้อยแตกต่างกัน โดยคำสอนเหล่านี้ล้วนมาจากพ่อหลวงซึ่งปลูกฝังอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว

หลายครั้งที่เธอเหนื่อย เพียงได้นึกถึงภาพที่พระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำพระวรกายทรงงาน ยิ่งทำให้เธอต้องมองย้อนกลับมาที่ตัวเองว่า สิ่งที่เราทำแล้วรู้สึกเหนื่อยนั้นยังเทียบไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวที่พ่อหลวงของเราทรงทำมา ในเวลาที่ทำงานแล้วเหนื่อยเราสามารถพักได้ แต่สำหรับพระองค์ท่านไม่เคยพักหรือตรัสว่าเหนื่อยเลย

“ช่วงหนึ่งตัวเราเองก็เคยรู้สึกว่าทำไมช่วงนี้เหนื่อยจังเลย พอมานั่งนึกดูถ้าเพียงสิ่งที่เราทำได้สักครึ่งหนึ่งที่พ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงทำมาเราคงไปได้ไกลแล้ว ฉะนั้น หากทุกคนทำแบบนี้ได้ประเทศเราน่าจะก้าวหน้าและเจริญได้มากกว่านี้แน่ๆ”

ในทุกๆ ปีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เอ๋เฝ้ารอด้วยใจจดจ่อนั่นคือ “พระบรมราโชวาท” ของพ่อหลวงที่พระองค์ท่านตรัสในทุกๆ ปีเนื่องในโอกาสสำคัญๆ แม้ใครหลายคนอาจจะไม่ชอบฟัง แต่สำหรับตัวเธอนั้นเรียกได้ว่าเกาะติดหน้าจอโทรทัศน์ เพื่อรอฟังสิ่งที่ท่านจะทรงสอนสั่งปวงชนชาวไทยของพระองค์

“แม้ใครๆ อาจจะไม่ชอบฟังพระบรมราโชวาทเพราะมองว่าน่าเบื่อ แต่สำหรับเราชอบมาก รอทุกปีหน้าจอโทรทัศน์ว่าปีนี้ท่านจะตรัสเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง จะมีมุขขำๆ อะไรที่ทำให้เราขำตามไปกับสิ่งที่พระองค์ท่านตรัส เพราะแม้จะเป็นเรื่องสนุกชวนขำ แต่ทุกอย่างที่ท่านตรัสนั้นล้วนแต่แฝงไปด้วยคำสอนมากมาย”

ความภูมิใจสูงสุดในชีวิตของเอ๋เธอเล่าว่า คือการได้เกิดเป็นลูกของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ได้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ ปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด แม้ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบาย ทว่าอย่างน้อยชีวิตนี้ภูมิใจและสุขใจที่มีในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงปกครองประเทศและนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้ถึงทุกวันนี้

“พระองค์ท่านทรงสร้างรากแก้วให้ประเทศไทยหยั่งลึกลงไป วันนี้สิ่งที่เราทุกคนภาคภูมิใจเกี่ยวกับองค์พ่อหลวง ตัวเราเองก็อยากจะทำให้พระองค์ท่านทรงภูมิใจในตัวเราเช่นกัน ว่าครั้งหนึ่งในเมื่อเรามีโอกาสได้เกิดบนแผ่นดินของท่านแล้ว เราก็พร้อมใจสานต่อคำสอนของพระองค์ท่าน เพื่อนำพาประเทศชาติและคนรอบข้างให้ประเทศชาติของเราก้าวหน้าต่อไป และพร้อมที่จะนำคำสอนของพ่อเหล่านี้ส่งต่อแก่ลูกหลานต่อไป” และนี่คือสิ่งที่เอ๋ขอสานต่อสิ่งที่พ่อทำไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น