>>ด้วยลุคคุณแม่หนึ่ง-วาชินี ไกฤกษ์ สาวสังคมสุดมั่นที่ไม่เคยยอมให้กาลเวลามาทำลายความสวยและความมั่นใจแม้แต่น้อย เลยแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเธอควงลูกชายสุดที่รัก ทัช-กิตติทัช ไกรฤกษ์ ซึ่งกำลังเข้าสู่วัยแตกเนื้อหนุ่มมาเปิดตัว ด้วยความที่สูงยาวเข่าดีตามสไตล์นักกีฬา บวกกับใบหน้านิ่งๆ เมื่อแรกพบ ทำให้ยังจับทางไม่ได้ว่า หนุ่มหล่อตรงหน้าจะออกแนวเฮี้ยว ซ่า ได้ครึ่งของคุณแม่ หรือมาแนวสุขุม มีฟอร์ม ทว่าหลังจากเห็นลีลาการโพสท่าหล่อๆ ให้ช่างภาพเก็บภาพแล้วบอกเลยภายใต้ลุคนิ่งๆ นั้น มีความไม่ธรรมดา และมีหลายเรื่องให้ตามไปค้นหาและทำความรู้จัก
“ตอนนี้ผมอายุ 16 ครับ เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน” ทัช เริ่มแนะนำตัวแบบเขินอายนิดๆ ตามประสาเด็กหนุ่มพูดน้อย ก่อนจะขยายความว่า เพราะไม่ใช่สายเนิร์ด จึงไม่เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต หันมาเอาดีด้านภาษาด้วยการเลือกเรียนสายศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น
“ที่โรงเรียนมีให้เลือกแค่ 2 ภาษา คือ จีนและญี่ปุ่น ผมเลือกญี่ปุ่น เพราะเห็นว่าตัวอักษรดูแปลกตามากกว่าภาษาจีน (ยิ้ม)” ทัชค่อยๆ พาเราเข้าไปในโลกของเขามากขึ้น ก่อนจะเผยถึงเป้าหมายที่วางไว้ลางๆ ว่า “ผมไม่ได้มีอาชีพในฝัน หรือคณะในใจที่จะเรียนต่อในมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่สนใจงานในวงการบันเทิง บวกกับชอบดูหนังมาก โดยเฉพาะ หนังสงคราม เลยคิดว่าน่าจะเรียนต่อด้านนิเทศศาสตร์”
เด็กหนุ่มที่มีฝันเล่าด้วยแววตาเป็นประกายต่อว่า เขาไม่เกี่ยงว่าจะทำงานเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังในวงการบันเทิง เพราะไม่ว่าจะบทบาทนักแสดง พิธีกร หรือ ผู้กำกับก็ดี เขาก็สนใจ เพราะมองว่าเป็นการเรียนรู้งานคนละแบบ
“การทำงานเบื้องหน้าจะฝึกให้ผมกล้าแสดงออก ส่วนการทำงานเบื้องหลังจะเป็นเวทีให้ผมได้เรียนรู้งานด้านการผลิตอย่างแท้จริง ถามว่าถ้าวันหนึ่งได้สวมบทนักแสดงจริงจะเขินอายมั้ย ผมคิดแต่ว่า ถ้าโอกาสมาถึงก็ต้องเอาความกล้าเข้าสู้ ซึ่งถ้ามีโอกาสเข้ามาจริงผมก็อยากจะลอง” หนุ่มหล่อเล่าด้วยดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า เพราะมองว่าตอนนี้ตัวเองอาจยังไม่พร้อม ต้องฝึกตัวเองอีกหลายๆ เรื่อง เลยยังไม่เคยลองเปิดโอกาสให้ตัวเองไปแคสงาน ได้แต่ฝึกปรือให้ตัวเองกล้าแสดงออก กล้าพูดมากกว่าที่เป็นอยู่
สำหรับกิจกรรมวันว่างๆของทัช อาจไม่แตกต่างจากชีวิตนักเรียนม.ปลายทั่วไป คือ ทุ่มเทให้กับการเรียน ถึงจะออกตัวว่าไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง แต่ถ้าเป็นวิชาที่สนใจอย่างประวัติศาสตร์ ทัชบอกว่า ทุ่มสุดตัว
“อย่างที่บอกผมชอบดูหนังสงครามมาก แทบไม่พลาดซักเรื่อง ดูแล้วยังซื้อแผ่นเก็บด้วย เพราะผมมองว่าเป็นคุณค่าทางใจ โดยเฉพาะ หนังที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่ชอบที่สุด ผมชอบถึงขนาดตอนเด็กๆ เคยฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นทหารเลยนะ (ยิ้ม) แต่พอหลังจากมาเรียน รด. แล้วผมเริ่มเปลี่ยนใจ(หัวเราะ) แต่ยังชอบดูหนังอยู่นะครับ”
ทัชเล่าอย่างผ่อนคลายถึงงานอดิเรกที่รักต่อว่า “การดูหนังแนวนี้ทำให้ผมได้ซึมซับประวัติศาสตร์ไปในตัว ได้ศึกษาความคิดของคน การวางแผน ปกติเวลาผมดูหนังแล้ว ก็จะไปตามหาหนังสือที่เกี่ยวข้องมาอ่านด้วย จะได้รู้ข้อมูลลึกขึ้น ถามว่าชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษไม่มีนะครับ แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคือ หนังที่ได้เห็นการปะทะทางแนวคิด อำนาจ และชั้นเชิงของตัวเอก ฟังแล้วอาจจะดูเครียด แต่สำหรับผมคือการผ่อนคลายและทุกครั้งที่ดูจบเหมือนเราได้แง่คิดอะไรบางอย่างกลับมา”
งานนี้ดูเหมือนหนุ่มน้อยวัยว้าวุ่นจะรู้ทันว่าจะถูกถามต่อว่า มีชั้นเชิงหรือแนวคิดที่เก็บจากหนังมาใช้ เลยถือโอกาสออกตัวก่อนเลยว่า ยังไม่เคยได้เอาแนวคิดดีๆ ที่ได้จากหนังมาลองปรับใช้ แต่ทุกวันนี้เขาเลือกที่จะเรียนรู้จากคุณพ่อคุณแม่ ทั้งในเรื่องหลักการทำงาน การใช้ชีวิต แล้วนำมาปรับใช้ในสไตล์ของตัวเองอีกที
“ผมค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง จะมีก๊วนเพื่อนที่สนิทกัน 6 คน ที่คุยปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แต่บางโมเมนต์ผมก็ชอบอยู่คนเดียว วันว่างของผมถ้าไม่นัดเพื่อนไปเดินเล่นสยามด้วยกัน ดูหนัง ผมจะไปออกกำลังกาย ผมชอบว่ายน้ำและวิ่ง”
ถึงจะสะท้อนคาแรกเตอร์ของหนุ่มสุดติสต์ออกมาอย่างชัดเจน แต่พอลองชวนคุยถึงของสะสมที่รัก ถึงได้พบกับอีกด้านของหนุ่มมาดนิ่งที่หลงใหลในแฟชั่นไม่เบา
“ของที่ผมสะสมตอนนี้คือ เสื้อผ้าของแบรนด์ Hold’em สตรีทแวร์สัญชาติไทย ผมชอบสไตล์ของแบรนด์นี้มาก เรียกได้ว่าเปิดตู้เสื้อผ้าของผมตอนนี้แทบจะมีแต่แบรนด์นี้ ทุกวันผมต้องเลือกหยิบไอเท็มของแบรนด์นี้มามิกซ์แอนด์แมตช์ แต่อย่างวันนี้ผมโททัลลุคแบรนด์นี้มาเลย ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับการแต่งตัวนะครับ แต่ก่อนอาจจะใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ธรรมดา แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว สไตล์การแต่งตัวของผมเน้นแบบตามใจตัวเอง แต่จะคุมโทนอยู่แค่สองคู่สี คือ ดำ-ขาว และดำ-แดง ผมอาจจะต่างจากคนอื่นๆ ที่เลือกให้ความสำคัญกับการรองเท้า แต่ผมเน้นที่การเลือกเสื้อและกางเกง เพราะผมว่าเป็นไอเท็มที่เห็นชัดกว่า(หัวเราะ)”
ชวนคุยมาหลายเรื่อง จนรู้จักทัชในหลายมุม แต่อีกเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ เรื่องหัวใจ งานนี้ หนุ่มน้อยที่ตอนนี้หัวใจไม่ว้าวุ่นตามวัย เพราะอยู่ในช่วงโสด จึงพร้อมให้ล้วงลึกหัวใจอย่างอารมณ์ดี ทัชเริ่มจากเผยถึงสเปกสาวในฝันก่อนว่า “ผมชอบคนสูงครับ เฟรนด์ลี ไม่ต้องชอบดูหนังสงครามแบบผมก็ได้นะครับ (หัวเราะ) แต่ก่อนผมชอบผู้หญิงอายุมากกว่า แต่ตอนนี้ไม่ซีเรียสแล้วครับ ที่ชอบผู้หญิงอายุมากกว่า เพราะผมคิดว่าบางครั้งผู้ชายไม่ต้องเป็นผู้นำตลอดก็ได้ แต่เราสามารถเดินไปพร้อมกันได้“
นอกจากนี้ ทัชยอมรับแบบไม่กั๊กทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมามีทั้งเป็นฝ่ายไปจีบหญิงและมีผู้หญิงมาจีบ ส่วนตัวเขาชอบให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายมาจีบก่อน ไม่ใช่เพราะต้องการโชว์พราว แต่สำหรับเขาการที่ผู้หญิงกล้ามาจีบ เท่ากับผู้หญิงคนนั้นสอบผ่านในเรื่องความกล้า มีความมั่นใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของผู้หญิงที่เขาชอบนั่นเอง