>>จากธุรกิจที่ใครได้ยินก็ต้องอึ้ง เมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้ “การทำสปากระเป๋า” กลายเป็นอาชีพที่ต้องจับตามอง เพราะคนรักกระเป๋ามีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเทคนิคและวิธีการเสกกระเป๋าใบเก่าให้ใหม่ปิ๊งก็ทำได้ไม่ยาก มาฟัง 3 เจ้าแม่สปากระเป๋ากันว่า เทคนิคการดูแลกระเป๋าเขาล้ำหน้าไปถึงขั้นไหนกันแล้ว

เริ่มจากผู้ให้กำเนิดคำว่า “สปากระเป๋า” มิณ-สิรัชชา พัชรโสภาชัย เจ้าของธุรกิจสปากระเป๋า “โมโมโกะ” ที่ใครๆ ก็รู้จักมากว่า 9 ปี เธอยอมรับว่าต้องใช้เวลานับปีกว่าคนจะเข้าใจคำว่า การทำสปากระเป๋า คือการดูแลกระเป๋าใบโปรดของคุณอย่างทะนุถนอม และคืนสภาพให้สมบูรณ์แบบที่สุดเหมือนการทำสปา
“มิณเริ่มจากการหาซื้อกระเป๋าเก่าๆ จากร้านสยาม แบรนด์ ที่คนนิยมไปซื้อกระเป๋ามือสอง พอซื้อเสร็จก็นำมาหาวิธีทำความสะอาดให้ใหม่แล้วนำไปขายต่อ จากมีไม่กี่สิบใบ ตอนหลังเพื่อนๆ ก็ฝากให้ช่วยทำความสะอาด จนขยายเป็นร้อยๆ ใบ จากธุรกิจเล็กๆ ตอนนี้ขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และเปิดร้านในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย มาเลเซียแล้วค่ะ”
กว่า 9 ปีของธุรกิจทำสปากระเป๋า มิณเผยว่า ปัญหาของลูกค้าที่พบเจอยังคงไม่แตกต่าง โดยเฉพาะ เรื่องการเก็บรักษาที่ส่วนใหญ่เข้าใจว่าเก็บในกล่อง ซึ่งจริงๆ แล้วการเก็บรักษากระเป๋าที่ดีคือ แค่เก็บใส่ถุงให้อากาศถ่ายเทเท่านั้น

“เพราะลูกค้าเก็บรักษากระเป๋าไม่ถูกต้อง ปัญหาการเกิดเชื้อรา หนังเสื่อมสภาพ จึงพบเจอบ่อยๆ บางรายยังไม่ได้ใช้เลยแต่หนังเสื่อมแล้วก็เสียดายแทนค่ะ แม้ปัญหาและแนวทางการซ่อมแซมสภาพกระเป๋าจะไม่แตกต่างจากเดิม แต่เราก็ไม่หยุดพัฒนาการบริการ เรามีแผนก R&B ทำการรีเสิร์ชข้อมูลและเทคนิคใหม่ๆ ในการดูแลกระเป๋า โดยการส่งช่างไปเรียนยังต่างประเทศ และนำเทคนิคใหม่ๆ มาให้บริการคนรักกระเป๋าด้วย ล่าสุด เราเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่นำเทคนิคการเปลี่ยนสีกระเป๋าให้มี 2 สีในใบเดียวได้เมื่อถูกแสงแดด เช่นกระเป๋าสีชมพูจะกลายเป็นสีม่วง หรือสีส้มจะกลายเป็นสีเหลือง เป็นต้น”
เมื่อธุรกิจเติบโตเกินคาดหมาย เจ้าของสปากระเป๋าเมืองไทยเจ้าแรกคนนี้ยอมรับว่า “ถ้ารู้ว่าจะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศแบบนี้ คงไม่ตั้งชื่อว่า โมโมโกะ (หัวเราะ)” เธอกล่าวปิดท้ายด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจในการปั้นธุรกิจสปากระเป๋าจนสำเร็จ

ตามมาด้วย “เก๋-โสภิณ รองรัตน์” ผู้บริหารสาวแห่ง Leather Solute อาณาจักรของการทำสปาเครื่องหนังแบบครบวงจร ที่พัฒนาธุรกิจนี้จากการเป็นผู้นำธุรกิจการทำเครื่องหนังภายในรถยนต์ เครื่องบินและเรือยอชต์ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องหนังในยวดยานพาหนะ มาทำความสะอาดกระเป๋า รองเท้า และเครื่องหนัง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากอเมริกา
“เก๋เริ่มต้นธุรกิจนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะกระเป๋าชาแนลใบโปรดที่ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนเป็นรอยยาว เพราะถูกขูดกับรั้ว เอาไปให้ศูนย์ฯ ดู เขาก็บอกว่าซ่อมไม่ได้แล้ว แต่พอได้คุยกับแฟน (ภูมิพัฒน์ รองรัตน์) ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องหนังภายในยานพาหนะ เขาก็แนะนำให้เราไปคุยกับช่างดูเผื่อกระเป๋าหนังของเราจะแก้ไขได้ ก็เลยลองเอาไปให้ช่างทำ สุดท้ายมันสามารถซ่อมได้ 100% จึงเกิดปิ๊งไอเดีย ทำสปากระเป๋า รองเท้าและเครื่องหนังด้วยดีกว่า เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ที่มีปัญหากระเป๋าชำรุดแบบเราได้”

สำหรับที่ Leather solute นอกจากจะใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องหนังระดับสากล นำเข้าจากอเมริกา ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น BIO ซึ่งปลอดภัยไร้สารเคมีเจ้าเดียวในประเทศไทย และยังได้ใบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานมากกว่า 40 ฉบับจากทั่วโลก พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญเครื่องหนังจากประเทศอิตาลี มาให้ความรู้แก่ช่างทำสปาเครื่องหนังเป็นประจำ จนสามารถแก้ปัญหาเครื่องหนังต่างๆ ให้สมบูรณ์แบบเกือบ 100% ไม่ว่าจะเป็นปัญหากระเป๋าเกิดเชื้อรา หรือแม้แต่กระเป๋า exotic skin ที่ซ่อมแซมยาก ก็แก้ไขจนได้ลายที่เหมือนเดิม
แม้จะแก้ปัญหากระเป๋าที่อาการสาหัสในรูปแบบต่างๆ ได้ แต่สาวเก๋ก็แนะนำให้สาวๆ ที่มีกระเป๋าและรองเท้าหนังแก้วให้ดูแลเป็นพิเศษ “ในหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เราแก้ปัญหาไม่ได้คือหนังแก้ว เพราะเป็นกึ่งพลาสติกผสมหนัง เมื่อโดนความร้อนหรืออยู่ในที่ร้อนชื้นสีจะเปลี่ยน หรือหากโดนหมึกหรือรอยปากกา หมึกจะซึมเข้าผิวหนังแก้วเร็วมาก เราไม่สามารถทำความสะอาดรอยหมึกเหล่านั้นออกได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนหนังแก้วให้เป็นเนื้อหนังได้ ทำให้ความเป็นแก้วหายไป ดังนั้น คนที่มีกระเป๋าหรือรองเท้าหนังแก้ว ควรดูแลให้ดีนิดหนึ่ง อย่าวางไว้ในที่โดนแดดจัดๆ และอย่าเก็บในที่ร้อนชื้นเพราะสีจะเปลี่ยน” เจ้าแม่สปาเครื่องหนังแนะนำส่งท้าย

ปิดท้ายที่ Bag lover จิ๊บ-ปิยะนารถ สิงห์เขียวพงษ์ นักสะสมกระเป๋าแบรนด์เนมที่ผันตัวมารับทำสปากระเป๋า ด้วยเหตุผลอยากดูแลกระเป๋าของตัวเองเผยว่า ปัจจุบันนี้มีสาวๆ หันไปเรียนการทำความสะอาดและทำสปากระเป๋ากันมากขึ้น
“จิ๊บเข้าเรียนการทำสปากระเป๋าที่สถาบันแห่งหนึ่งแถวงามวงศ์วาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็พยายามทำความสะอาดกระเป๋าด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้ผล พอได้เรียนจึงทราบว่าหนังแต่ละประเภทต้องใช้น้ำยาให้ถูกชนิด พอเพื่อนๆ รู้ ก็นำกระเป๋ามาให้ทำความสะอาด จนเปิดแฟนเพจ “supercleanspabag สปากระเป๋า” ที่ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าจากต่างจังหวัดส่งกระเป๋าหรูราคาแพงมาให้ทำความสะอาดและลูกค้ารู้จักกันมากขึ้น”
พอได้เรียนแล้วจึงรู้ว่าการทำสปากระเป๋านั้นไม่ง่ายเลย เธอยอมรับว่า การทำความสะอาดกระเป๋าต้องใจเย็นมากๆ แต่ละใบต้องใช้เวลาทำไปเรื่อยๆ ใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ถึงจะเสร็จสมบูรณ์

“การทำความสะอาดกระเป๋าเป็นงานละเอียด ต้องไม่ให้พลาดแม้แต่จุดเดียว บางคนไม่รู้ว่ากระเป๋าตัวเองเป็นแบรดน์เนมปลอม เช่นกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง หนังคาวไฮ (หนังวัว) เมื่อทำความสะอาดแล้วหนังจะออกมาสวย แต่พอใบนี้เราทำสปาให้เสร็จเนื้อของหนังกลับดำขึ้น พอเราพลิกดูถึงรู้ว่าเป็นของปลอม โชคดีที่เจ้าของเป็นเพื่อนกันเลยบอกกันได้ว่าเป็นของปลอม”
นอกจากจะต้องดูแลทำความสะอาดกระเป๋าอย่างสม่ำเสมอ จิ๊บแนะนำว่า สำหรับสาวๆ ที่ชอบแต่งหน้า ลงรองพื้น หรือบีบีครีมเสร็จ ควรล้างมือก่อนจะหยิบกระเป๋าถือออกบ้าน เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้เป็นจอมแสบที่ทำร้ายเครื่องหนังให้สีเปลี่ยนหรือเป็นรอยดำได้ง่ายๆ
พัฒนากรรมวิธีการทำสปากระเป๋า และถึงขั้นไปเรียนเพื่อมาทำความสะอาดกระเป๋าเองได้แบบนี้ ไม่รู้ว่าอนาคตการทำสปากระเป๋าจะล้ำหน้าขึ้นไปอีกแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ แอกเซสซอรีอย่าง “กระเป๋า” สำคัญไม่แพ้รูปร่างหน้าตาของสาวๆ เลยทีเดียว
เริ่มจากผู้ให้กำเนิดคำว่า “สปากระเป๋า” มิณ-สิรัชชา พัชรโสภาชัย เจ้าของธุรกิจสปากระเป๋า “โมโมโกะ” ที่ใครๆ ก็รู้จักมากว่า 9 ปี เธอยอมรับว่าต้องใช้เวลานับปีกว่าคนจะเข้าใจคำว่า การทำสปากระเป๋า คือการดูแลกระเป๋าใบโปรดของคุณอย่างทะนุถนอม และคืนสภาพให้สมบูรณ์แบบที่สุดเหมือนการทำสปา
“มิณเริ่มจากการหาซื้อกระเป๋าเก่าๆ จากร้านสยาม แบรนด์ ที่คนนิยมไปซื้อกระเป๋ามือสอง พอซื้อเสร็จก็นำมาหาวิธีทำความสะอาดให้ใหม่แล้วนำไปขายต่อ จากมีไม่กี่สิบใบ ตอนหลังเพื่อนๆ ก็ฝากให้ช่วยทำความสะอาด จนขยายเป็นร้อยๆ ใบ จากธุรกิจเล็กๆ ตอนนี้ขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และเปิดร้านในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย มาเลเซียแล้วค่ะ”
กว่า 9 ปีของธุรกิจทำสปากระเป๋า มิณเผยว่า ปัญหาของลูกค้าที่พบเจอยังคงไม่แตกต่าง โดยเฉพาะ เรื่องการเก็บรักษาที่ส่วนใหญ่เข้าใจว่าเก็บในกล่อง ซึ่งจริงๆ แล้วการเก็บรักษากระเป๋าที่ดีคือ แค่เก็บใส่ถุงให้อากาศถ่ายเทเท่านั้น
“เพราะลูกค้าเก็บรักษากระเป๋าไม่ถูกต้อง ปัญหาการเกิดเชื้อรา หนังเสื่อมสภาพ จึงพบเจอบ่อยๆ บางรายยังไม่ได้ใช้เลยแต่หนังเสื่อมแล้วก็เสียดายแทนค่ะ แม้ปัญหาและแนวทางการซ่อมแซมสภาพกระเป๋าจะไม่แตกต่างจากเดิม แต่เราก็ไม่หยุดพัฒนาการบริการ เรามีแผนก R&B ทำการรีเสิร์ชข้อมูลและเทคนิคใหม่ๆ ในการดูแลกระเป๋า โดยการส่งช่างไปเรียนยังต่างประเทศ และนำเทคนิคใหม่ๆ มาให้บริการคนรักกระเป๋าด้วย ล่าสุด เราเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่นำเทคนิคการเปลี่ยนสีกระเป๋าให้มี 2 สีในใบเดียวได้เมื่อถูกแสงแดด เช่นกระเป๋าสีชมพูจะกลายเป็นสีม่วง หรือสีส้มจะกลายเป็นสีเหลือง เป็นต้น”
เมื่อธุรกิจเติบโตเกินคาดหมาย เจ้าของสปากระเป๋าเมืองไทยเจ้าแรกคนนี้ยอมรับว่า “ถ้ารู้ว่าจะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศแบบนี้ คงไม่ตั้งชื่อว่า โมโมโกะ (หัวเราะ)” เธอกล่าวปิดท้ายด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจในการปั้นธุรกิจสปากระเป๋าจนสำเร็จ
ตามมาด้วย “เก๋-โสภิณ รองรัตน์” ผู้บริหารสาวแห่ง Leather Solute อาณาจักรของการทำสปาเครื่องหนังแบบครบวงจร ที่พัฒนาธุรกิจนี้จากการเป็นผู้นำธุรกิจการทำเครื่องหนังภายในรถยนต์ เครื่องบินและเรือยอชต์ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องหนังในยวดยานพาหนะ มาทำความสะอาดกระเป๋า รองเท้า และเครื่องหนัง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากอเมริกา
“เก๋เริ่มต้นธุรกิจนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะกระเป๋าชาแนลใบโปรดที่ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนเป็นรอยยาว เพราะถูกขูดกับรั้ว เอาไปให้ศูนย์ฯ ดู เขาก็บอกว่าซ่อมไม่ได้แล้ว แต่พอได้คุยกับแฟน (ภูมิพัฒน์ รองรัตน์) ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องหนังภายในยานพาหนะ เขาก็แนะนำให้เราไปคุยกับช่างดูเผื่อกระเป๋าหนังของเราจะแก้ไขได้ ก็เลยลองเอาไปให้ช่างทำ สุดท้ายมันสามารถซ่อมได้ 100% จึงเกิดปิ๊งไอเดีย ทำสปากระเป๋า รองเท้าและเครื่องหนังด้วยดีกว่า เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ที่มีปัญหากระเป๋าชำรุดแบบเราได้”
สำหรับที่ Leather solute นอกจากจะใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องหนังระดับสากล นำเข้าจากอเมริกา ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น BIO ซึ่งปลอดภัยไร้สารเคมีเจ้าเดียวในประเทศไทย และยังได้ใบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานมากกว่า 40 ฉบับจากทั่วโลก พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญเครื่องหนังจากประเทศอิตาลี มาให้ความรู้แก่ช่างทำสปาเครื่องหนังเป็นประจำ จนสามารถแก้ปัญหาเครื่องหนังต่างๆ ให้สมบูรณ์แบบเกือบ 100% ไม่ว่าจะเป็นปัญหากระเป๋าเกิดเชื้อรา หรือแม้แต่กระเป๋า exotic skin ที่ซ่อมแซมยาก ก็แก้ไขจนได้ลายที่เหมือนเดิม
แม้จะแก้ปัญหากระเป๋าที่อาการสาหัสในรูปแบบต่างๆ ได้ แต่สาวเก๋ก็แนะนำให้สาวๆ ที่มีกระเป๋าและรองเท้าหนังแก้วให้ดูแลเป็นพิเศษ “ในหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เราแก้ปัญหาไม่ได้คือหนังแก้ว เพราะเป็นกึ่งพลาสติกผสมหนัง เมื่อโดนความร้อนหรืออยู่ในที่ร้อนชื้นสีจะเปลี่ยน หรือหากโดนหมึกหรือรอยปากกา หมึกจะซึมเข้าผิวหนังแก้วเร็วมาก เราไม่สามารถทำความสะอาดรอยหมึกเหล่านั้นออกได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนหนังแก้วให้เป็นเนื้อหนังได้ ทำให้ความเป็นแก้วหายไป ดังนั้น คนที่มีกระเป๋าหรือรองเท้าหนังแก้ว ควรดูแลให้ดีนิดหนึ่ง อย่าวางไว้ในที่โดนแดดจัดๆ และอย่าเก็บในที่ร้อนชื้นเพราะสีจะเปลี่ยน” เจ้าแม่สปาเครื่องหนังแนะนำส่งท้าย
ปิดท้ายที่ Bag lover จิ๊บ-ปิยะนารถ สิงห์เขียวพงษ์ นักสะสมกระเป๋าแบรนด์เนมที่ผันตัวมารับทำสปากระเป๋า ด้วยเหตุผลอยากดูแลกระเป๋าของตัวเองเผยว่า ปัจจุบันนี้มีสาวๆ หันไปเรียนการทำความสะอาดและทำสปากระเป๋ากันมากขึ้น
“จิ๊บเข้าเรียนการทำสปากระเป๋าที่สถาบันแห่งหนึ่งแถวงามวงศ์วาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็พยายามทำความสะอาดกระเป๋าด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้ผล พอได้เรียนจึงทราบว่าหนังแต่ละประเภทต้องใช้น้ำยาให้ถูกชนิด พอเพื่อนๆ รู้ ก็นำกระเป๋ามาให้ทำความสะอาด จนเปิดแฟนเพจ “supercleanspabag สปากระเป๋า” ที่ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าจากต่างจังหวัดส่งกระเป๋าหรูราคาแพงมาให้ทำความสะอาดและลูกค้ารู้จักกันมากขึ้น”
พอได้เรียนแล้วจึงรู้ว่าการทำสปากระเป๋านั้นไม่ง่ายเลย เธอยอมรับว่า การทำความสะอาดกระเป๋าต้องใจเย็นมากๆ แต่ละใบต้องใช้เวลาทำไปเรื่อยๆ ใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ถึงจะเสร็จสมบูรณ์
“การทำความสะอาดกระเป๋าเป็นงานละเอียด ต้องไม่ให้พลาดแม้แต่จุดเดียว บางคนไม่รู้ว่ากระเป๋าตัวเองเป็นแบรดน์เนมปลอม เช่นกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง หนังคาวไฮ (หนังวัว) เมื่อทำความสะอาดแล้วหนังจะออกมาสวย แต่พอใบนี้เราทำสปาให้เสร็จเนื้อของหนังกลับดำขึ้น พอเราพลิกดูถึงรู้ว่าเป็นของปลอม โชคดีที่เจ้าของเป็นเพื่อนกันเลยบอกกันได้ว่าเป็นของปลอม”
นอกจากจะต้องดูแลทำความสะอาดกระเป๋าอย่างสม่ำเสมอ จิ๊บแนะนำว่า สำหรับสาวๆ ที่ชอบแต่งหน้า ลงรองพื้น หรือบีบีครีมเสร็จ ควรล้างมือก่อนจะหยิบกระเป๋าถือออกบ้าน เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้เป็นจอมแสบที่ทำร้ายเครื่องหนังให้สีเปลี่ยนหรือเป็นรอยดำได้ง่ายๆ
พัฒนากรรมวิธีการทำสปากระเป๋า และถึงขั้นไปเรียนเพื่อมาทำความสะอาดกระเป๋าเองได้แบบนี้ ไม่รู้ว่าอนาคตการทำสปากระเป๋าจะล้ำหน้าขึ้นไปอีกแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ แอกเซสซอรีอย่าง “กระเป๋า” สำคัญไม่แพ้รูปร่างหน้าตาของสาวๆ เลยทีเดียว