xs
xsm
sm
md
lg

ต้องมนต์เสน่ห์พระอาทิตย์สีทองก่อนอำลาฤดูหนาว สะกดทุกลมหายใจ “มาดามมอนทัวร์” ที่ “กรุงโรม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


>>นับเป็นช่วงจังหวะพอเหมาะพอดีที่ “มาดามมอนทัวร์” (MadameMonTour) แห่ง Celeb Online มาเยือน “กรุงโรม” ประเทศอิตาลี ในช่วงอำลาฤดูหนาว เพราะว่าแสงอาทิตย์สีทองที่สาดส่องไปทั่วเมือง ช่วยสะกดทุกลมหลายใจให้หยุดนิ่งกับความงดงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ดูราวกับภาพวาดโดยจิตรกรขั้นเทพ ซึ่งนับว่าหาได้ยากนักที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบสดใสอันไร้ซึ่งความสลัวมัวหมองช่วงปลายฤดูหนาวเช่นนี้


ที่เกริ่นไปนั้นคือจุดมุ่งหมายอันน่าตื่นเต้นของมาดามมอนทัวร์ที่จะไปเยือนกรุงโรมครั้งนี้แต่ที่หัวใจเต้นรัวกว่าคือการได้นั่งและสัมผัสเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดของสายการบินไทยกับ A350XWB ที่เพิ่งนำมาสยายปีกบินตรงสู่สองเส้นทางไปยังประเทศอิตาลีนั่นคือ กรุงโรม และเมืองมิลานนั่นเอง

ภายในมีการตกแต่งห้องโดยสารด้วยแนวคิดแบบไทยร่วมสมัยและมีระบบแสงที่สามารถปรับได้ตามบรรยากาศ(MoodLighting) ด้วยแสง LED ที่สร้างเฉดสีได้ถึง 16.7 ล้านเฉดสี พื้นที่เหนือศีรษะถูกขยายสัดส่วนเพื่อลดความอึดอัดช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะมีขนาดใหญ่ขึ้นบานกระจกหน้าต่างกว้างขึ้นซึ่งทำให้มาดามรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง นอกจากนั้นยังถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นในทุกระดับชั้นของการบริการอีกด้วย โดยพื้นที่สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจกว้างขวางนั่งสบายมากขึ้นและที่นั่งชั้นประหยัดก็ยังเพิ่มพื้นที่ในการวางเท้าได้มากกว่าเครื่องบินในระดับชั้นเดียวกันอีกด้วย





มาดามมอนทัวร์เริ่มสัมผัสแสงแรกของกรุงโรมในช่วงปลายฤดูหนาว (ซึ่งตอนเช้าก็ยังอยู่ที่ 6-7 องศานะ) ณ บริเวณ “น้ำพุเทรวี” (TreviFountain) ซึ่งเป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกโดยชื่อเทรวีนั้นมาจากคำว่าตรีวิอุม หมายถึง การพบกันของถนนสามสายเป็นอนุสรณ์สไตล์บาโร้คออกแบบและก่อสร้างโดย “นิโคลา ซาลวี” ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปาครีเมนต์ที่ 2 ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จสันตะปาปาที่ 8 ได้หยุดชะงักลงและดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1762 รวมแล้วใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี

ทางระบายน้ำเวอร์โก้บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2,000 ปีครั้งสมัยโรมโบราณที่ปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัสซึ่งตรงกับเวลา 19 ปีก่อนคริสตศักราช บริเวณด้านหน้าโดดเด่นด้วยรูปปั้นแกะสลักที่เลิสหรูอลังการอวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้นได้แนวคิดมาจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่าหากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำเขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งในวันใดวันหนึ่ง




จากนั้นมาดามมอนทัวร์ได้เดินทางต่อไปสัมผัสกับไฮไลต์สำคัญอีกแห่งของกรุงโรมนั่นคือ “โคลอสเซียม”สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมเริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมันและสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัสในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือประมาณปี ค.ศ. 80 ตัวอัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรีเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้กับนักกีฬาและมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตกถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน




สิ่งก่อสร้างรูปทรงโค้งเป็นวงกลมซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของกรุงโรมแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเหล่านักรบโรมันและเป็นอนุสรณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมันสนามกีฬาแห่งนี้สูง 48 เมตรยาว 188 เมตรและกว้าง 156 เมตร แนวคิดในการออกแบบโคลอสเซียมแห่งนี้ยังคงมีความสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้ดังจะเห็นได้จากการออกแบบสนามกีฬาแทบทุกแห่งในโลกนับตั้งแต่นั้นมาต้องปฏิบัติตามแม่แบบดั้งเดิมของโคลอสเซียมแห่งนี้








ปิดท้ายด้วยไฮไลต์สำคัญในทริปนี้ของมาดามมอนทัวร์กับ“มหาวิหารนักบุญเปโตร” (SanPietro) เป็นสถาปัตยกรรมที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกันโดยสร้างทับวิหารเดิมที่ชื่อเดียวกัน โดมของมหาวิหารสูงโดดเด่นสามารถมองเห็นได้แต่ไกลจากในตัวกรุงโรมโบสถ์นี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2.3 เฮกตาร์ สามารถจุคนได้กว่า 60,000 คนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งในคริสตจักรโรมันคาทอลิก






ที่ตั้งโบสถ์เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังร่างของนักบุญซีโมนเปโตรซึ่งเป็นหนึ่งในอัครทูตของพระเยซูคริสตจักรถือว่านักบุญเปโตรเป็นบิชอปองค์แรกของแอนติอ็อกต่อมาได้สถาปนาขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของโรมเพราะนิกายโรมันคาทอลิก เชื่อกันว่าร่างของนักบุญเปโตรถูกฝังไว้ที่นี่ จึงเป็นประเพณีกันต่อมาว่าพระสันตะปาปาหลายองค์ได้บรรจุไว้ที่นี่

มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมเป็นโบสถ์ที่สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 4 ซึ่งมีรูปทรงแบบบาซิลิกาพอมาถึงสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาก็อยู่ในภาพที่ทรุดโทรมมากเพราะพระสันตะปาปาย้ายที่พำนักไปอยู่ที่เมืองอาวีญง ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างปี ค.ศ. 1309-1377 การตัดสินใจสร้างมหาวิหารใหม่ก็เพื่อจะได้สร้างมหาวิหารที่ใหม่กว่าและใหญ่กว่าเดิมนั่นเอง การใช้ชื่อมหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมก็ใช้มาตั้งแต่เมื่อสร้างมหาวิหารปัจจุบันเพื่อเป็นการแสดงถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งก่อสร้างปัจจุบันและสิ่งก่อสร้างเดิม

ตามติดเรื่องราวในประเทศอิตาลีในอิริยาบถอื่นๆ ของมาดามมอนทัวร์ได้ในครั้งต่อไป facebook: มาดามมอนทัวร์, Instagram : MadameMonTour และที่เว็บไซต์ www.madamemontour.wordpress.com








Fact File

1.การเดินทางจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย สู่กรุงโรม ประเทศอิตาลี มีความสะดวกยิ่งขึ้นเพราะการบินไทยมีเที่ยวบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิทุกวันจันทร์,พุธ,ศุกร์และอาทิตย์ ด้วยเครื่องบิน Airbus350-900 เที่ยวบินที่ TG944 ออกเดินทางเวลา 00.01 น. ถึงสนามบินฟูมิซิโนเวลา 05.55 น. ส่วนขากลับมีเที่ยวบินตรงทุกวันจันทร์,พุธ,ศุกร์และอาทิตย์ ด้วยเครื่องบิน Airbus350-900 เที่ยวบินที่ TG945 ออกเดินทางจากสนามบินฟูมิซิโน เวลา 13.30 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 06.05 น. สำรองที่นั่งได้ที่ THAIContact Center 0-2356-1111 หรือคลิกที่ www.thaiairways.com

2.โครงสร้างลำตัวของเครื่องบินใหม่ล่าสุดของสายการบินไทย A350XWB ประกอบด้วยวัสดุโลหะน้ำหนักเบาเช่น ไทเทเนียมและโลหะผสมอะลูมิเนียมที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพในการรับและทนต่อแรงต่างๆ ขณะทำการบิน ซึ่งเครื่องบินรุ่นนี้ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ Rolls-Royce รุ่น TentXWB มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ได้ถึง 25% ถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีเลยทีเดียว

3.ชั้นธุรกิจ (RoyalSilk Class) มีที่นั่งผู้โดยสารจำนวน 32 ที่นั่งได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกสบายแบบส่วนตัวโดยจัดวางให้มีระยะห่างระหว่างแถวที่นั่ง 41-46 นิ้วแต่ละที่นั่งมีความกว้าง 21 นิ้ว สามารถปรับเอนนอนราบได้ 180 องศา การเดินเข้า-ออกจากที่นั่งสามารถทำได้อย่างเป็นอิสระในทุกที่นั่งซึ่งสามารถเชื่อมต่อ In-FlightEntertainment รวมถึงบริการ Wifi ผ่านอุปกรณ์สื่อสารของตนเองและปลั๊กไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

4.ชั้นประหยัด (EconomyClass) ที่นั่งผู้โดยสารมีจำนวน 289 ที่นั่ง มีระยะระหว่างแถวที่นั่ง 32 นิ้ว แต่ละที่นั่งมีความกว้าง 18 นิ้ว ติดตั้งจอโทรทัศน์ระบบสัมผัสขนาด 11 นิ้วซึ่งสามารถเชื่อ,ต่อ In-FlightEntertainment รวมถึงบริการ Wifi ผ่านอุปกรณ์สื่อสารของตนเองและปลั๊กไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายอีกเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น