>>เอ่ยชื่อ “เล็ก-กรกนก ยงสกุล” หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในฐานะเซเลบริตี้ดาวเด่นอยู่ท่ามกลางแสงสีในงานสังคม ทว่าน้อยคนนักจะได้เห็นในอีกมุมที่แสนเรียบง่ายของเธอยามพักผ่อนอย่างสบายใจอยู่ในที่พักบนคอนโดกลางซอยหลังสวน สถานที่ช่วยชาร์จพลังและเป็นพื้นที่สร้างสรรค์จัดเตรียมลุยงานธุรกิจด้านพัฒนาบุคลิกภาพ “Ruenrom by lek Training Center” ที่เธอควบทั้งตำแหน่งวิทยากร คิดหลักสูตร และติดต่อประสานงานกับลูกค้า
“เล็กย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมนี้ประมาณ 3 ปี ก่อนหน้านี้อยู่คอนโดฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านพระราม 3 ตอนแรกเล็กตั้งใจซื้อที่นี่ไว้ลงทุน แต่เราใช้ชีวิตในเมืองเยอะ มีบ้านอยู่แถวทองหล่อก็รถติดเดินทางไม่สะดวก บวกกับที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรา ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนตพร้อมเทรนเนอร์ สตีมรูม สุดท้ายเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่เอง”
เมื่อย่างเท้าเข้ามาในห้อง สิ่งแรกที่ทักทายอย่างสะดุดตา คือกองทัพรองเท้าหลายสิบคู่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบตลอดสองทางเดินที่ทอดยาวมายังพื้นที่ด้านใน สะท้อนคาแรกเตอร์แฟชั่นนิสต้าสาวของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี สาวเล็กแอบกระซิบว่า “ที่เห็นนี่แค่ส่วนหนึ่งนะคะ ยังมีที่เก็บไว้ที่คอนโดมิเนียมเก่าและในตู้รองเท้า อันนี้คัดมาวางเฉพาะคู่ที่ชอบ”
ผ่านกองทัพรองเท้ามาถึงโซนอเนกประสงค์ที่เป็นทั้งพื้นที่รับแขก เคาน์เตอร์ครัว และพื้นที่กินข้าวและทำงาน ที่มีการตกแต่งแบบน่ารักที่เธอลงมือคัดสรรเองทุกชิ้น
“สไตล์การแต่งห้องนี้ ค่อนข้างต่างจากคอนโดมิเนียมเก่าของเล็กมาก ที่เก่าจะเน้นสีสันจัดจ้านมากกว่านี้ เล็กว่ารสนิยมการแต่งบ้านของเราก็เหมือนการแต่งตัวที่เปลี่ยนไปตามวัย เพราะฉะนั้นพอมาที่นี่ ด้วยความที่เราโตขึ้น รสนิยมความชอบก็เปลี่ยนตาม เลยออกมาเป็นแบบที่เห็น ไม่ได้เน้นสีสดใสมาก อาจจะมีการใช้เมทัลลิกเข้ามาบ้าง ส่วนของแต่งบ้านที่เห็นส่วนใหญ่ ก็มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อใหม่ และเป็นของสะสมของเล็กที่มีอยู่แล้ว เช่น กรอบรูป ผลงานศิลปะ”
จากใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมกลางเมือง เธอบอกว่ามีข้อดีอย่างความสะดวกสบายในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องการเดินทาง ความปลอดภัย แต่สิ่งที่ต้องยอมแลกคือ พื้นที่ใช้สอยในคอนโดฯ ที่จำกัดไม่เหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ เพราะฉะนั้นการบริหารพื้นที่ในคอนโดฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ
“ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงก็ต้องของเยอะเป็นธรรมดา อย่างเล็กเองก็ต้องบริหารพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด อย่างมุมรับแขก เล็กใช้หีบสำหรับใส่ของ (Trunk) ที่เคยใช้เก็บของตอนเรียนที่สวิสมาใช้เป็นโต๊ะวางทีวี ทำให้นอกจากดูสวยแปลกตาแล้ว ยังใช้เป็นที่เก็บของได้ด้วย เช่นเดียวกับมุมโต๊ะอาหาร ก็ใช้โต๊ะไม้ที่มีลิ้นชัก ได้ประโยชน์ทั้งโต๊ะทำงานและโต๊ะกินข้าว ส่วนที่นั่งฝั่งหนึ่งเก้าอี้พนัก อีกฝั่งใช้ม้านั่งเบาะยาวที่ด้านล่างเป็นหีบเก็บของ ซึ่งดูเข้าธีมกับ Trunk ที่ใช้วางทีวี”
เล็กยอมรับว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่พิถีพิถันกับการแต่งบ้านไม่น้อย “เพราะการแต่งบ้านไม่เหมือนกับการแต่งตัว ที่ไม่เข้ากันก็แค่เปลี่ยนตัวใหม่ แต่เฟอร์นิเจอร์ถ้าซื้อมาแล้วขนาดไม่พอดี หรือไม่เข้ากับองค์ประกอบอื่นๆ จะทิ้งก็ยาก ขนย้ายก็ลำบาก ดังนั้น ต้องคิดให้ดีก่อนซื้อ
คอนโดมิเนียมเล็กไม่มีอะไรที่บิวท์อินเลย ส่วนใหญ่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เผื่อไว้ปรับเปลี่ยน จริงๆ เล็กไม่ได้วางแผนไว้แบบนี้แต่ต้น แต่พออยู่ไปเราชอบแบบนี้มากกว่า เหมือนเราไม่ยึดติดดี(ยิ้ม)”
อย่างไรก็ตาม ถึงจะออกตัวว่าเป็นผู้หญิงที่ของใช้และเครื่องแต่งตัวเยอะมาก และแม้คอนโดมิเนียมจะมีที่จำกัด ทุกพื้นที่ในห้องจะถูกจับจองด้วยของใช้ แต่ทุกชิ้นก็ถูกจัดวางอย่างเข้าที่เข้าทางไม่ได้เกะกะรกตา
“เราเก็บของเรียบร้อยจะได้หยิบใช้สะดวก อย่างตู้เสื้อผ้า เล็กจัดแยกเสื้อผ้าเรียงตามสีเลย รองเท้าก็ไล่ตามประเภท ตามทรงรองเท้า ส่วนหนังสือ ถึงจะวางไว้ที่พื้นข้างๆ ที่วางทีวี แต่ทุกเล่มจะไล่ตามความสูง เพื่อให้ดูสวยงาม เหมือนเป็นของแต่งบ้านไปในตัว เล็กคิดว่าถึงบ้านเราจะมีของเยอะ แต่ในความเยอะก็ต้องมีระเบียบ ต้องไม่รก”
แม้จะคุ้นเคยกับชีวิตไลฟ์สไตล์คนเมืองที่มีความเป็นอิสระสูง ตั้งแต่สมัยเรียนและทำงานอยู่ในต่างแดน การใช้ชีวิตแนวดิ่งบนคอนโดฯ ที่ตอบโจทย์เธอเป็นอย่างดี เธอก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง วันหนึ่งถ้ามีครอบครัว เธอคิดว่า “บ้าน” คงเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดกับการเริ่มต้นชีวิตครอบครัว
Lek’s Tips
“ก่อนลงมือแต่งบ้าน ต้องแพลนอนาคตก่อนว่า อีก 5 ปีข้างหน้า เราจะมีของใหม่ๆ เข้ามาในบ้านมากขนาดไหน จะได้เผื่อที่ไว้ เพราะถ้าเราจัดแบบวางทุกอย่างพอดีเป๊ะ มันจะสวยแค่ช่วงแรกค่ะ พอมีของใช้เพิ่ม ก็ต้องมานั่งหาทางจัดใหม่อีก พื้นที่ก็จำกัด จะขยับอะไรก็ยาก”