>>แม้จะไม่ใช่ผู้บุกเบิกที่สร้างอาณาจักรเดอะมอลล์ กรุ๊ป ให้ผงาดเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการรีเทล แต่ในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 ที่เข้ามารับหน้าที่สานต่อธุรกิจครอบครัว ก็ถือเป็นภารกิจหินที่ท้าทายความสามารถของ “ลูกหมู-วิภา อัมพุช” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ เธอยังต้องพิสูจน์ฝีมือในฐานะทายาทรุ่นใหม่ หนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเดอะมอลล์ กรุ๊ป ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ลูกสาวคนโตของ “สุรัตน์ อัมพุช” กับ “นันท์นภัส หวันปาเต๊ะ” จบด้านบริหารจากประเทศอังกฤษ เมื่อเดินทางกลับถึงเมืองไทยก็ได้ลุยงานในทันที ซึ่งประจวบเหมาะกับที่คุณแม่ของเธอซื้อที่ดินเปล่าที่ภูเก็ตและมีโปรเจกต์พัฒนาเป็นรีสอร์ต ลูกหมูจึงได้รับโอกาสเข้ามาช่วยปลุกปั้นรีสอร์ตแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มต้นนับหนึ่งจนสำเร็จเป็น Private Resident โครงการบ้านทะเลฟ้ารีสอร์ต
“ได้ลงมือทำทุกอย่างจริงๆ ได้ใช้ทักษะทุกอย่างที่มี ตั้งแต่การติดต่อช่างรับเหมา การออกแบบ จนมาถึงการโอเปอเรชันทั้งหมด ความยากตอนนั้น คือ เราต้องบริหารจัดการทุกอย่างภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ให้สำเร็จ เกือบ 4 ปีเต็มๆ ที่ชีวิตทั้งหมดของลูกหมูโฟกัสกับงานนี้ แต่ก็เป็นช่วงที่ทั้งสนุกและท้าทาย”
ระหว่างที่กำลังสนุกกับการดูแลรีสอร์ต โอกาสสำคัญในชีวิตของลูกหมูก็มาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน เมื่อ “ศุภลักษณ์ อัมพุช” คุณอาซึ่งเป็นผู้บริหารหญิงแกร่งแห่งค่ายเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่เดินทางไปพักผ่อนที่รีสอร์ต ได้เห็นผลงานของหลานสาวตั้งแต่การออกแบบ ตกแต่ง และการบริหารงานที่เข้าตา จึงตัดสินใจเอ่ยปากชวนมาช่วยบริหารห้างสรรพสินค้า ซึ่งเธอก็รับปากอย่างรวดเร็ว
“ที่บ้านไม่เคยบังคับนะคะ ว่าลูกโตมาจะต้องทำอะไร แต่ตัวเราเองต่างหากที่รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่า วันหนึ่งก็ต้องกลับมาช่วยสานต่อธุรกิจครอบครัว ดังนั้นพอวันที่อาแอ๊วมาชวน ลูกหมูเลยตัดสินใจอย่างไม่ลังเล เพราะรีสอร์ตก็อยู่ตัวแล้ว และเราอยากเรียนรู้ อยากพัฒนาตัวเอง”
วันแรกที่ไปทำงาน เธอเดินเข้าไปกรอกเอกสารที่ฝ่ายบุคคลเหมือนพนักงานทั่วไป ทำตามระเบียบของบริษัททุกอย่าง ไม่ได้ทำตัวเป็นลูกหลาน “ลูกหมูมองว่ากระบวนการเหล่านี้มีความสำคัญนะคะ เหมือนเป็นการย้ำเตือนว่า จากนี้ไปเราได้เข้าเป็นพนักงานของเดอะมอลล์ กรุ๊ป และต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามีนามสกุลอัมพุช ยิ่งต้องทำงานให้หนักกว่าคนอื่น เพื่อพิสูจน์ผลงานให้ทุกคนได้เห็น“
แผนกแรกที่เธอได้รับมอบหมายให้ดูแลคือ “บีเทรนด์” ซึ่งเปิดโอกาสให้เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานห้างเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการติดต่อประสานงานกับซัปพลายเออร์ในการนำสินค้าเข้ามาจำหน่าย จากนั้นเธอก็ย้ายไปช่วยงานอัจฉรา อัมพุช ในแผนก Store Planning และได้เรียนรู้ในภาพรวมของธุรกิจห้าง ที่ไม่ได้มุ่งเน้นแต่การขายสินค้า แต่ยังมีเรื่องของอินทีเรียของห้างสรรพสินค้า การออกแบบจัดวางสินค้า การวางเลย์เอาต์ของส่วนต่างๆ ก่อนจะย้ายไปดูส่วนของร้านอาหาร
“แล้วก็ถึงช่วงที่เอ็มควอเทียร์เตรียมเปิดให้บริการ อาแอ๊วเริ่มนำทัพผู้บริหารต่างชาติเข้ามาทำงานในเครือมากขึ้น เพื่อนำเสนอโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่ในวงการรีเทลไม่เคยทำมาก่อนให้เกิดขึ้น ลูกหมูเองได้ช่วยดูแลในส่วนพัฒนาธุรกิจองค์กร พร้อมดูโปรเจกต์ Another Storyไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์สโตร์แห่งแรกของเมืองไทยที่รวบรวมสินค้าของนักออกแบบจากทั่วทุกมุมโลกทั้งไทยและต่างประเทศ”
เรียกได้ว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เธอได้มีโอกาสเรียนรู้งานในหลายๆ แผนก ได้รู้จักธุรกิจรีเทลชัดเจนขึ้น ที่สำคัญนอกจากจะได้เรียนรู้งาน ยังได้เรียนวิธีคิดและวิธีการทำงานจากเพื่อนร่วมงาน และผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน แถมยังได้รับประสบการณ์ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นของคนในตระกูล “อัมพุช”
โดยเธอยกคำสอนจากไอดอลอย่างคุณพ่อและคุณอาให้ฟังว่า “คุณพ่อสอนถึงการวางตัวให้สามารถเข้ากับคนอื่นได้นั้นสำคัญมาก ต้องรู้จักให้เกียรติและพูดให้เป็น เก่งไม่เก่งไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าทำงานร่วมกับผู้อื่นได้มั้ย อาแอ๊วเองก็เช่นกัน ท่านย้ำเสมอว่า ไม่มีใครสามารถทำอะไรคนเดียวได้สำเร็จลุล่วง ยิ่งงานรีเทลต้องยิ่งอาศัยกำลังคน ไม่มีใครเป็น One Man Show ในธุรกิจรีเทลได้“
และเมื่อถามถึงเป้าหมายในอนาคต ลูกหมูตอบอย่างหนักแน่นว่า ภารกิจหลักที่มาเป็นอันดับหนึ่งของเธอในตอนนี้ ยังเป็นการช่วยสานต่อธุรกิจครอบครัว
“ลูกหมูอยากเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้เดอะมอลล์ กรุ๊ป กลายเป็นรีเทลชั้นนำ เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของประเทศ เพราะธุรกิจรีเทลก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยชี้วัดความเจริญของประเทศได้ ขณะเดียวกันด้วยความที่เราเติบโตมากับธุรกิจนี้ โตมาได้ก็เพราะเดอะมอลล์ กรุ๊ป ลูกหมูจึงตั้งใจว่าในชีวิตนี้จะขอทำหน้าที่ของตัวเองในการพาองค์กรหมุนไปอย่างดีที่สุด”
ด้วยประสบการณ์ ความตั้งใจ และความเชื่อมั่นอย่างเปี่ยมล้นนี้ เชื่อว่าอีกไม่นาน “ลูกหมู-วิภา อัมพุช” จะต้องกลายเป็นอีกหนึ่งขุนศึกหญิงฝีมือเฉียบในสนามรีเทลเมืองไทยอย่างแน่นอน :: Text by FLASH