>>อยู่ในวงการแฟชั่นแต่บางทีเรื่องของสไตล์ก็ไม่จำเป็นต้อง ‘เยอะ’ เสมอไป เพราะบางทีคำว่า less is more ก็สามารถตอบโจทย์สไตล์ของตัวเองได้ เช่นเดียวกับสาวหน้าใส แต่ฝีมือระดับโปรเฟสชันนัล คนนี้ “พิม-พิมพ์กานต์ ปุญญเจริญสิน” PR & Marketing แห่งแปซิฟิกา กรุ๊ป ที่คลุกคลีอยู่กับแบรนด์แฟชั่นถึง 14 แบรนด์ แต่สไตล์ที่เธอชอบนั้นคือคำง่ายๆ ว่า Minimal
สาวหน้าใส อดีตเชียร์ลีดเดอร์จากรั้วจามจุรี หลังจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอเคยร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคในสายงานการตลาด ก่อนที่จะไปทำงานด้านที่ปรึกษาทางธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์อยู่ 2 ปี จนค้นพบว่าสิ่งที่ตัวเองชอบคือเรื่องของการตลาด
“ตอนนี้ทำงานด้าน PR & Marketing ของแบรนด์ในเครือ แปซิฟิกา กรุ๊ป ดูในส่วนของการวางแผนการตลาด ด้วยประสบการณ์ที่เคยทำในเรื่องการวางแผนงาน ก็ได้นำมาใช้อยู่แล้ว ซึ่งเราก็นำมาปรับเพิ่มในบางจุดที่เฉพาะทาง เช่น เรื่องของดีไซน์และศิลปะที่ทำให้เราได้เรียนรู้ รู้สึกว่าเป็นงานที่มีสีสัน ซึ่งเราเองก็สนใจเรื่องของแฟชั่นตามประสาผู้หญิงอยู่แล้ว
โชคดีแบรนด์ที่ทางแปซิฟิกานำเข้ามานั้นเป็นที่รู้จัก ทุกแบรนด์เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่หลายๆ คนจับต้องได้ สไตล์นั้นก็สามารถใช้ได้ในแต่ละโอกาส ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Coach, MaxMara, Sportmax, American Eagle, Coccinelle, Camper หรือ Kenneth Cole“
แม้ว่าจะต้องทำงานในการนำเสนอแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งต้องรักษาเรื่องภาพลักษณ์ความเป็นแฟชั่นของแต่ละแบรนด์นั้นๆ แต่เธอก็ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง โดยเลือกหยิบบางจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ที่เป็นสไตล์เธอมาผสมผสานกัน
“สไตล์พิมเป็นมินิมัล ไม่ชอบอะไรที่ลวดลายซับซ้อนมาก ดูเป็นเฟมินีน แต่บางทีก็มีความเป็นมัสคิวลีนด้วย แม้ว่าเราจะใส่กระโปรงแต่บางเวลาเราก็ใส่เบลเซอร์กางเกงสแลกส์ไปพบลูกค้าหรือทำงานของเราได้ แม้ว่าเรื่องเสื้อผ้าแบบจะเรียบๆ แต่พิมให้ความสำคัญกับเรื่องของเนื้อผ้าและคัตติ้ง เพราะ 2 สิ่งนี้สามารถทำให้เราดูโปรเฟสชันนัลแบบง่ายๆ เลย
เสื้อผ้าในตู้ส่วนใหญ่เป็นสีโทน Nature อย่างสีขาว เบจ เทา น้ำเงิน และสีดำ เพราะรู้สึกว่าสีต่างๆ เหล่านี้เป็นสีที่ง่ายๆ ทำให้เราไม่ต้องคิดมากเวลาแต่งตัว เพราะวันหนึ่งๆ ต้องทำอะไรหลายอย่าง และไปหลายที่ ซึ่งสีพวกนี้ก็ง่ายกับการมิกซ์แอนด์แมตช์และไปได้หลายโอกาส”
ส่วนหนึ่งของการทำงานของเธอนั้นมีโอกาสวนเวียนอยู่กับแฟชั่น แต่นิสัยการชอปปิ้งของเธอนั้นไม่ได้ฉาบฉวย เทรนดี้เสมอไป เพราะเธอมักเลือกสิ่งที่คลาสสิก คงทนและสามารถกลืนไปกับแฟชั่นในหลายๆ ยุค หลายๆ สมัยมากกว่า
“การทำงานแฟชั่นทำให้เราต้องอัปเดตตัวเองในแต่ละส่วนของแฟชั่น เวลาไปศูนย์การค้าคือไปทำงาน อาจจะไม่ค่อยได้ชอปปิ้ง หรือถ้าอยากชอปปิ้งก็จะดูจากคอลเลกชันใหม่ที่มีในร้านที่เราไปทำงานนั่นแหละค่ะ (หัวเราะ) หรือบางทีก็มีชอปปิ้งออนไลน์บ้าง ซึ่งก็ต้องดูแบรนด์ที่มีสแตนดาร์ด เพราะเราจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องไซส์ ส่วนใหญ่จะลงทุนกับการซื้อรองเท้าและกระเป๋ามากกว่า ชอบซื้อแบบที่ใช้วัสดุคงทน รูปทรงคลาสสิก จะได้นำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าได้”
นอกจากเรื่องของงานและแฟชั่นแล้ว เวลาที่เหลือของเธอเธอบอกว่าหมดไปกับการเสิร์ชอินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลวางแผนเที่ยว เรื่องนี้แหละที่เธอรักไม่แพ้เรื่องแฟชั่น
“พิมรักการเดินทาง และโชคดีที่มักมีโอกาสเดินทางไปทำงานและพ่วงการท่องเที่ยวไปด้วย ชอบไปประเทศใหม่ๆ เพราะทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้แรงบันดาลใจในการทำงาน” สาวหน้าใสตอบเราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อพูดถึงทั้งสองสิ่งที่เธอรัก :: Text by FLASH