>>กระแสข่าวของโลกวันนี้กำลังหมุนรอบ “จาเรด คุชเนอร์” สามีวัย 36 ปีของอิวานกา ทรัมป์ ทายาทของว่าที่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ในฐานะ “ที่ปรึกษาอาวุโส” ของทำเนียบขาวในชุดรัฐบาลใหม่ของทรัมป์ หลังจากมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ “พ่อตา” ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดี
จาเรด คอรีย์ คุชเนอร์ ผู้มีสุ้มเสียงนุ่มเบา ได้รับสมญานามจากสื่อว่าเป็น “พรายกระซิบ” ของทรัมป์ เขายอมวางมือจากธุรกิจ รวมถึงอิวานกา-ผู้ภรรยา ก็ยอมวางมือจากแบรนด์แฟชั่นที่ตนเองก่อตั้งขึ้น เพื่อเข้ารับตำแหน่งที่ทำเนียบขาว และเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่เขามีต่อทรัมป์
ความจงรักภักดีของคุชเนอร์นั้นมีมานาน ก่อนที่เขาจะเข้าไปเป็นสมาชิกในจักรวรรดิของทรัมป์ด้วยซ้ำ เมื่อปี 2004 ตอนที่พ่อของเขา “ชาร์ลส์ คุชเนอร์” เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี คดีเลี่ยงภาษีและเงินบริจาคพรรคการเมืองผิดกฎหมาย จาเรดเดินทางไปเยี่ยมบิดาที่เรือนจำทุกวันอาทิตย์ ในระหว่างนั้นเขายังต้องประคับประคองอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวมูลค่านับพันล้าน
จากปี 2007 ถึง 2016 คุชเนอร์ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เฉพาะในนิวยอร์กจำนวนกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ ในจำนวนนั้นรวมถึงการซื้อ 666 Fifth Avenue อาคารเดี่ยวซึ่งมีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
ปี 2006 หนุ่มนักศึกษาจากฮาร์เวิร์ดสร้างแรงกระเพื่อมให้กับแวดวงธุรกิจ เมื่อเขาตัดสินใจซื้อ The New York Observer หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ซึ่งเป็นที่นิยมและเชื่อถือของสถาบันการเงินและเศรษฐกิจ มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ ด้วยวัย 25 ปีขณะนั้นเขากลับกลายเป็นเจ้าของสื่อที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่ง
ไม่ช้าคุชเนอร์ก็ปรับเปลี่ยนสื่อหนังสือพิมพ์ของตนเองเสียใหม่ เขาลงทุนสร้างระบบดิจิตัลขึ้น และต่อมาก็ยุติการตีพิมพ์หลังจากวันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดี ทุกวันนี้ Observer มุ่งผลกำไรอย่างเดียว แต่ไม่เหลือคุณค่าอะไรทางสังคมอีกแล้ว
เส้นทางการเข้าสู่แวดวงสังคมชั้นสูงของคุชเนอร์เริ่มในปี 2009 เมื่อเขาเข้าพิธีสมรสกับอิวานกา ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเขารู้จักระหว่างมื้อกลางวันทางธุรกิจ หลังแต่งงานอิวานกายอมเปลี่ยนตัวเองเข้าสู่ศาสนายิวนิกายออร์โธด็อกซ์ และมีลูกกับเขาสามคนตามวิถีชีวิตแบบชาวยิว
หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาประกาศแต่งตั้งจาเรด คุชเนอร์-ลูกเขยของตนเองเป็น “ที่ปรึกษาอาวุโส” ของทำเนียบขาว สุ้มเสียงตอบรับแรกที่ได้ยินมาจากภูมิภาคตะวันออกกลาง อิสราเอลกล่าวทักทายโดยซิปี โฮโทเวลี-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ “เรายินดีต้อนรับเขา” :: Text by FLASH