หลายคนตั้งสัตย์ปฏิญาณว่า ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ ก็จะรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตลอดไป จนกลายเป็นที่มาของเครื่องหมายแทนใจในความภักดีอันเลอค่า โดยเฉพาะ เข็มกลัดติดเสื้อที่ถูกออกแบบในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนอกจากจะติดไว้เพื่อถวายความอาลัยแล้ว ผู้รับยังคงจะเก็บรักษาไว้เพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่านตลอดไป
เซเลบสาว เอ๋-กัญญารัตน์ พลาดิศัย ลงทุนฝ่าฝูงคนไปถึงสำเพ็ง เพื่อเลือกสรรริบบินและเข็มกลัด เพื่อนำมาทำริบบินถวายอาลัย แต่ที่พิเศษในคอลเลกชันของเอ๋คือ การปักเลข 9 อย่างประณีตบรรจง เจ้าตัวเล่าว่า เดือนที่ผ่านมาเป็นเดือนแห่งความทุกข์โศก และการไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลายคนมีจิตอาสาไปช่วยทำอาหารแจกประชาชน เธอก็มานึกถึงว่าสิ่งที่ถนัดคืออะไร เพราะเธอไม่ถนัดทำกับข้าว หรือไปช่วยเก็บขยะที่บริเวณสนามหลวงได้แต่ก็ไปไม่ได้ทุกวัน
“ ก็มาลงตัวที่เราชอบงานประดิษฐ์ ชอบเย็บปัก จึงเป็นที่มาของการทำเข็มกลัดไว้อาลัยที่ทำแจกให้ผู้ที่สนใจครั้งนี้ค่ะ"
ด้วยใจภักดิ์ หลังจากที่เอ๋เลือกสรรริบบินผ้าและริบบินกำมะหยี่เนื้อหนาได้แล้ว ก็จัดส่งไปให้ช่างปักเป็นตัวเลข ๙ แล้วนำมาประกอบเข้ากับเข็มกลัดด้วยตัวเองหลากหลายรูปแบบ ทั้งเข็มกลัดธรรมดาติดเสื้อทั่วไป หรือเข็มติดสูทสีทอง ล่าสุด เป็นเข็มกลัดติดสติกเกอร์เลข ๙ สีทองแวววาว โดยจัดทำแล้วกว่า 1,000 ชิ้น
เอ๋เล่าต่อว่า ผู้สนใจอยากได้มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเข้ามาขอรับเข็มกลัดเหล่านี้ทางเฟซบุ๊กและไลน์ โดยเอ๋เป็นคนจ่าหน้าซองจดหมายและส่งเองทั้งหมด ที่สำคัญเพื่อให้ผู้รับได้ติดเข็มกลัดอย่างถูกวิธีและตรงกับเนื้อผ้า เอ๋จัดทำคลิปวิธีติดเข็มกลัดแต่ละแบบโพสต์ให้ผู้ขอรับเข็มกลัดนำไปประยุกต์ใช้อีกด้วย
ส่วนโอ๋-บุปผา กิ่งชัชวาลย์ เจ้าของร้านเครื่องประดับ Sincere jewelry รังสรรค์เข็มกลัดเพชรไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามคำเรียกร้องของลูกค้า โดยความพิเศษของเครื่องประดับไว้อาลัยแต่ละชิ้นจะมีดีไซน์ที่แตกต่างกัน เพราะเจ้าตัวมีแนวทางในงานออกแบบตามพระราชดำรัสของในหลวงที่ว่า “เมื่อทำงานต้องมุ่งถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของงาน งานจึงจะสำเร็จ ได้รับประโยชน์ครบถ้วนทั้งประโยชน์ของงานและประโยชน์ของผู้ทำ”
โอ๋ เล่าว่า “ที่มาของโบว์เพชรถวายอาลัยชิ้นแรก เกิดขึ้นตั้งแต่วันครบรอบพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต 10 วัน โดยลูกค้ามาขอให้ออกแบบโบว์ชิ้นนี้ให้ เพื่อถวายอาลัยแด่พระองค์ท่าน หลังจากนั้นก็ได้ออกแบบอีกหลายชิ้น แต่ความพิเศษคือ เครื่องประดับละชิ้นจะมีดีไซน์ที่ไม่ซ้ำแบบกันและความล้ำค่าของเพชรแต่ละเม็ดก็แตกต่างกันตามความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญงานออกแบบครั้งนี้ฝืนความรู้สึกมาก ในความรู้สึกเศร้า ซึม สมองคิดอะไรไม่ออก แต่ลูกค้าต้องการด่วนมาก จึงนึกถึงพระราชดำรัสของในหลวง ที่เราได้นำมาเป็นแนวทางในงานออกแบบตลอด จึงได้ชิ้นงานอันเลอค่าชิ้นนี้”
เจ้าของร้านจิวเวลรีชื่อดังเผยว่า เครื่องประดับเพชรรูปโบว์ไว้อาลัยแต่ละชิ้นที่ลูกค้าสั่งนั้น เจ้าของร้านจะมีโอกาสได้ยลโฉมและสัมผัสได้ไม่เกิน 20 นาที เพราะลูกค้าจะรีบมารับและตรงเวลามาก โดยแต่ละคนจะให้ออกแบบอย่างต่ำ 3-5 แบบ โดยเชื่อว่าเครื่องประดับไว้อาลัยประดับเพชรเหล่านี้ จะเป็นเครื่องเตือนใจและรำลึกถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ตลอดไป
ปิดท้ายที่ศิลปินสาว นวลตอง ประสานทอง ที่มีโอกาสได้ร่วมออกแบบสติกเกอร์ที่ระลึกให้ห้างเกษร จนมีเสียงตอบรับที่ดีและสติกเกอร์ไว้อาลัยติดรถก็กลายเป็นไอเทมชิ้นหนึ่งที่ทุกคนอยากได้
“นวลกับห้างเกษรทำงานด้วยกันอยู่แล้ว เมื่อห้างเกษรได้ติดต่อมาให้ออกแบบลายสติกเกอร์ไว้อาลัย นวลก็ยินดีมากค่ะ เพราะในช่วงเวลาที่คนกำลังทุกข์โศก แล้วเราทำงานเกี่ยวกับศิลปะ ซึ่งพอมีโอกาสได้ใช้ศิลปะช่วยผ่อนคลายความทุกข์โศกได้ก็ยินดีค่ะ โดยโจทย์ในงานออกแบบครั้งนี้ต้องการให้มีความเป็นยูนิเซ็กซ์ ต้องเป็นสติกเกอร์ที่ติดได้ทั้งรถของผู้ชายและผู้หญิง จึงออกแบบริบบินที่ดูไม่เรียบเกินไปโดยใส่เงาเข้าไปที่ริบบินค่ะ ซึ่งผลตอบรับของสติกเกอร์ริบบินชิ้นนี้ดีเกินคาด จนทางห้างเกษรต้องผลิตและแจกเพิ่ม”
นอกจากการได้ออกแบบสติกเกอร์ริบบินไว้อาลัยแล้ว ศิลปินสาวเล่าว่า “มีโอกาสได้ทำโปรเจกต์ร่วมกับศิลปินคนอื่นกับโครงการ “สานต่อที่พ่อทำ” 70 ภาพ 70 คำสอน ตลอด 70 ปี ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่มีก่อนที่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะสวรรคต ซึ่งนวลมีโอกาสได้วาดภาพ 7 ภาพ ตอนวาดภาพพระองค์ท่าน ได้จ้องหน้าพระองค์ จ้องตาพระองค์ ยิ่งได้รับพลังในการทำงานมากยิ่งขึ้น พอหลังจากท่านสวรรคตแล้ว นอกจากความรู้สึกสูญเสีย เสียใจ แต่เรากลับได้เห็นภาพและพระราชดำรัสของพระองค์ท่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากทีวี วิทยุ อินเตอร์เน็ต เหมือนตอนท่านยังอยู่และท่านไม่เคยจากคนไทยไปไหนค่ะ”