“จิตอาสา” คือผู้ที่มีจิตใจที่เป็นผู้ให้ เช่น ให้สิ่งของ ให้เงิน ให้ความช่วยเหลือด้วยกำลังแรงกาย แรงสมอง ซึ่งเป็นการเสียสละสิ่งที่ตนเองมี แม้กระทั่งเวลา เพื่อเผื่อแผ่ให้กับส่วนรวม ดังเช่น น้องๆ กลุ่มเยาวชนยุคใหม่หัวใจจิตอาสา LIONHEART ที่มีแนวคิดแบ่งปันโอกาสดีๆ ที่ตัวเองเคยได้รับ ส่งต่อแก่ผู้ยากไร้ให้มีโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เพราะความยากจนเป็นปัญหาสำคัญที่สังคมไทยเผชิญมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ ชุมชนในต่างจังหวัดที่มักจะได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคม และส่งผลให้มีเด็กๆ จำนวนมาก ต้องเผชิญการขาดแคลนโอกาสทางการศึกษา หากเป็นโรงเรียนในชนบทมักจะขาดแคลนครู ขาดแคลนอุปกรณ์การศึกษา และที่สำคัญคือขาดแคลนโภชนาการ ทำให้โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่มีงบประมาณพอสำหรับ อาหารกลางวันของเด็กนักเรียน จึงเป็นที่มาของสองพี่น้องเยาวชนยุคใหม่หัวใจจิตอาสา เกิดแนวคิดที่จะแบ่งปันโอกาสดีๆ แก่เด็กผู้ยากไร้ให้มีโอกาสทางการศึกษา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อรณ พีท ยนตรรักษ์ หัวหน้ากลุ่มกล่าวว่า The Lionheart Society เป็นกลุ่มงานพัฒนาจิตอาสากลุ่มแรก ที่จัดตั้งขึ้นด้วยความริเริ่มของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ เพียงแปดคน เมื่อเดือนตุลาคม 2553 เพื่อตามรอยพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้ช่วยกันช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทั้งในกรุงเทพฯ และชุมชนห่างไกลในชนบท ด้วยการยึดหลัก “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” โดยชมรมได้มุ่งในการส่งเสริมการศึกษา การยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาส และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นในประเด็นปัญหาที่นักเรียนสามารถมีส่วนร่วมในการรับรู้และแก้ไขได้ และที่สำคัญคือ เป็นองค์กรที่สมาชิกเป็นผู้วางแนวนโยบาย วางแผนการจัดการบริหาร ทั้งด้านการระดมทุนในการบริหารโครงการต่างๆ ปัจจุบันมีสมาชิกและอาสาสมัครในสังกัดมากกว่า 100 คน
โปรดปราน สุขเจริญ หัวหน้ากลุ่มร่วมของชมรมกล่าวเสริมว่า เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์หลัก จึงมีการแบ่งโครงการเป็น 5 โครงการใหญ่ๆ ได้แก่ โครงการปลูกพืชผักปลอดสาร เพื่อนำมาจำหน่ายหารายได้ไปใช้จ่ายในโครงการอื่นๆ โครงการให้ความช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่ยากไร้ โดยมีโครงการย่อยหลายประเภท เช่น ส่งเสริมการศึกษาในโรงเรียนยากจน ในรูปแบบของห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด อุปกรณ์การเรียนการสอน ริเริ่มโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โดยการเลี้ยงปลาดุก กบ ไก่ไข่ เพาะเห็ด ปลูกพืชผักสวนครัว ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยโรงเรียนลดต้นทุนในการประกอบอาหารกลางวัน นอกจากนี้ ผลผลิตส่วนที่เหลือทางโรงเรียนในพื้นที่กันดารนั้น สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในการเลี้ยงและเพาะปลูกต่อๆ ไปได้ ชุมชนสามารถช่วยเหลือและยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้
โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ทำได้ด้วยตนเอง เช่น การเก็บรวบรวมหลอดไฟฟ้า แบตเตอรี่ กล่องนม ขวดน้ำพลาสติก ฯลฯ โดยประสานกับโครงการเพื่อนพึ่งภาฯ ยามยาก ส่งกล่องนมใช้แล้วไปโรงงาน Tetra Pack เพื่อรีไซเคิลเป็นกระเบื้องมุงหลังคา และเรือบริจาคให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งในครั้งน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ทาง The Lionheart Society ได้บริจาคกล่องนมทำเรือได้ประมาณ 30 ลำ โครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ขาดเงินค่ารักษาพยาบาล เช่น ช่วยเหลือผู้ป่วยฟอกไต การอุปถัมภ์ช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อเอดส์แต่กำเนิด ให้ได้รับการศึกษา วิชาชีพ และดำรงชีวิตเช่นคนปกติทั่วไปได้ โครงการสอนหนังสือเด็กในชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในพื้นที่มีปัญหายาเสพย์ติดขั้นรุนแรง
อรณ กล่าวสรุปว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา The Lionheart Society ช่วยยืดอายุผู้ป่วยไตวายขั้นสุดท้ายที่เคยเกือบเสียชีวิตเมื่อสี่ปีที่แล้ว ให้ยังได้มีชีวิตอยู่ได้เห็นลูกสองคนโตขึ้นมา จวบจนวันนี้ช่วยเหลือเด็กผู้ป่วยเอดส์สามคนได้เข้าเรียนเหมือนคนอื่นๆ ให้มีอนาคตเหมือนคนทั่วไป เราบริจาคกล่องนมมากพอผลิตกระเบื้องมุงหลังคามากกว่า 1,000 แผ่น และเรือมากกว่า 60 ลำ นอกจากนั้น เราทำให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ยากไร้ได้มีน้ำสะอาดดื่มมากกว่า 850,000 แก้ว มีอาหารกลางวันได้ทานกันมากกว่า 625,000 มื้อ จากผลิตผล ที่ชมรมไปช่วยส่งเสริมให้ปลูกและเพาะเลี้ยงตามโรงเรียนต่างๆ
ความสำเร็จทั้งหมดนี้ สมาชิกในกลุ่มทุกคนมีแรงบันดาลใจและกำลังใจจากความใฝ่ฝันที่จะสืบสานคำสอนของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นแบบอย่างให้ประชาชนคนไทยทุกเพศทุกวัยได้เห็นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net