“อย่ามาชน กระเป๋านะ!! ”
เสียงร้องภายในใจ ของ หมอเอ๋-ช้องมาศ เลิศสิน ที่มักมาพร้อมอาการลุ้นตัวโก่ง เวลาที่เดินเกี่ยวก้อยกับสามี คุณหมอบอย-นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมกรุงเทพฯ AIC Clinic (เอไอซี คลินิก) ไปไหนมาด้วยกัน เจ้าตัวหัวเราะเขินๆ ก่อนจะบอกต่อว่า “มีความสุขที่ได้เดินด้วยกัน แต่ก็กลัวกระเป๋าถูกชน ขูดขีดนิดนึงก็เสียดายค่ะ” คำตอบสุดท้ายที่ให้มา ทำให้รู้ว่ากระเป๋าแบรนด์เนมคู่กายก็เป็นอีกหนึ่งของรักที่เธอหวงแหนยิ่งนัก
หมอเอ๋ บอกถึงที่มาแห่งการชื่นชอบกระเป๋าแบรนด์เนม จนกลายมาเป็นของสะสมชิ้นสำคัญว่า เริ่มต้นจากกระเป๋า Hermes Kelly ที่คุณแม่มอบให้เป็นของขวัญในวันที่เธอเรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยรังสิต กระเป๋าหรูใบนี้เป็นที่ถูกใจเธอยิ่งนัก แต่เนื่องจากราคาที่แพงมากทำให้ไม่กล้าใช้ ได้แต่เก็บรักษาไว้ในห้องนอน นานนับ 10 ปี จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการเก็บสะสมกระเป๋าที่มากไปด้วยคุณค่า
“ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นได้มาก็ชอบ แต่คิดว่ายังไม่เหมาะในช่วงนั้น เพราะ โก้และหรูหรามาก ทรงดูเป็นผู้ใหญ่ จะใช้ก็รู้สึกเสียดาย เลยเก็บไว้ นานๆ ได้ไปงานจึงจะนำออกมาใช้ ใบนี้เก็บจนเกือบลืม 10 กว่าปี เอาออกมาดูแต่เชื่อมั๊ยคะว่า ไม่เก่าเลย ตรงนี้จุดประกายให้ชอบกระเป๋าแบรนด์เนมทันที เพราะคุณภาพดีจริงๆ ก็คิดว่าเราลงทุนครั้งเดียวแต่เก็บไว้ใช้ได้นาน”
จากคุณภาพที่ได้สัมผัสประกอบกับดีไซน์ใหม่ๆ ที่มีเข้ามาทำให้คุณหมอคนสวยหลงใหลกระเป๋าแบรนด์เนมหลากหลายยี่ห้อ และเมื่อทำงานเธอจึงเริ่มเก็บเงินซื้อเองมากขึ้น โดยการซื้อของเธอเน้นซื้อเฉพาะใบที่ชอบจริงๆ และนำมาเก็บไว้ใช้งานได้จริง มากกว่านำมาเก็บไว้ขายเก็งกำไร
คุณหมอเอ๋ ยอมรับว่ากระเป๋าที่เธอใช้อาจมีราคาแพงเมื่อเทียบกับของใช้อื่นๆ ช่วงแรกหลังแต่งงาน หากอยากได้กระเป๋าใบไหน จึงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ในการขออนุมัติจากคุณหมอบอยผู้เป็นสามีอยู่บ่อยๆ โดยหลายครั้งต้องอธิบายว่า คุณภาพของกระเป๋าที่ซื้อมานั้นคุ้มค่าเพียงใด กว่าที่หมอบอยจะยอมรับก็ใช้เวลาพอควร “ช่วงแรกซื้อมาต้องนำไปซ่อน ตอนหลังเขาได้เห็นคุณภาพ ได้เห็นคนอื่นใช้ ก็เริ่มเข้าใจว่าเราไม่ได้ผิดปกติอะไร และตัวเขาเองก็เริ่มชอบ เดี๋ยวนี้เลยมาช่วยเลือกด้วยค่ะ อย่างเวลาไปประชุมต่างประเทศ เราก็ขอแว่บไปซื้อ แป๊บนึงเขาจะไลน์ถามแล้วว่าได้อะไรบ้าง”
ความชื่นชอบที่ส่งต่อไปถึงสามี ทำให้เดี๋ยวนี้ เวลาซื้อกระเป๋าแต่ละใบ สามีจะต้องเข้ามามีส่วนช่วยเลือก ขณะที่ กระเป๋าบางใบก็ถูกสามียึดและนำไปใช้บางโอกาส “มีกระเป๋าคลัทช์สีดำอยู่ใบหนึ่ง ทุกวันนี้ถูกยึดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ในจำนวนกระเป๋าสะสมหลากหลายใบนั้น หมอเอ๋บอกว่ารักทุกใบ แต่ใบโปรดที่รักและชื่นชอบเป็นพิเศษนั้น ต้องยกให้เป็น Hermes Kelly ที่คุณแม่มอบให้นั่นเอง เพราะนอกจากสวยงามแล้วยังมีคุณค่าทางใจอีกด้วย
ส่วนใบที่สองคือ “เบอร์กินหนังจระเข้สีดำสายพันธุ์นิโครติน” ราคาเทียบเท่ากับรถยนต์คามรี 1 คัน เสน่ห์ของกระเป๋าใบนี้เธอบอกว่า คงเป็นที่ความยาก ที่เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตรวมถึงการได้มาครอบครอง เพราะได้มาหลังจากไปปฏิบัติธรรม ที่ วัดวิปัสสนาติขวราราม อ.วังน้ำเขียว โคราช “ทุกปี เอ๋ต้องหาเวลาไปปฏิบัติธรรมให้ได้ 1 คอร์ส รวม 8 วัน 7 คืน มีอยู่ปีนึง พอหมดคอร์สหมอบอยก็แนะนำว่า อยากได้อะไรก็ให้ลองอธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเขาเคยขอแล้วสำเร็จ กลับถึงบ้านเอ๋ก็มานั่งนึกขออะไรดี พอดีเห็นกระเป๋ารุ่นนี้ก็ปิ๊ง แต่ราคาสูงก็เลยอธิษฐานในใจ แล้วส่งไลน์ขอไป ปรากฏเขาก็อนุญาตก็ซื้อเลยค่ะ” หมอเอ๋เล่าด้วยอารมณ์ขัน
สำหรับใบที่ 3 เธอยกให้เป็นกระเป๋าลองฌอมป์ (LONGCHAMP) เลอ ปลิยาจ เอฮิตาจ ไตรคัลเลอร์ ไอคอนทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ใบเดียวในโลก ที่เพิ่งได้มาในวันเปิด ลองฌอมป์ (LONGCHAMP) แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในไทย โดย โซฟี เดอลาฟองเตน ทายาทรุ่น 3 ของลองฌอมป์ นำมาประมูลหารายได้ให้มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยฯ และคุณหมอบอย ผู้เป็นสามีก็ควักเงินประมูลให้เป็นของขวัญด้วยมูลค่า 250,000 บาท
"รักใบนี้เพราะเราตั้งใจอยากร่วมทำบุญอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะได้จริงๆ เพราะเป็นการประมูลปิด คุณหมอบอยเขียนไป 2.5 แสน พอได้มาก็รู้สึกดีใจ นอกจากได้ทำบุญแล้ว ติดใจที่ความเรียบหรู สีสวยสดใสมีสามสีในใบเดียวกันค่ะ”
และใบสุดท้ายที่ปลื้มมากคือ กระเป๋าสะพาย Disney x Coach รูปทรงมิกกี้เม้าท์สีแดงสดใส คอลเลกชันพิเศษที่ Coach ตั้งใจทำร่วมกับ ดิสนีย์ ฉลอง 75 ปีของแบรนด์โค้ช “ใบนี้ไม่แพงมาก ชอบที่เป็นมิกกี้เม้าท์ มี 2 สี ดำกับแดง แต่เอ๋เลือกสีแดงเพราะสดใส”
จากแววตาและรอยยิ้มยามได้พูดถึงของรักของหวง ทำให้รับรู้ถึงความสุข ซึ่งหมอเอ๋ก็ยอมรับว่า ความรักที่มีให้กระเป๋านั้น มากจริงๆ การเก็บรักษาของเธอจึงต้องดีที่สุด เวลาใช้ต้องระวังไม่ให้ใครมาชน กลัวเสียทรง ถ้าเปื้อนก็รีบเช็ดพอกลับถึงบ้านเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งหากระดาษยัดกระเป๋านำใส่ถุงผ้า ก่อนนำไปเก็บ
เรื่อง วรกัญญา สมพลวัฒนา
ภาพ ธัชกร กิจไชยภณ
