xs
xsm
sm
md
lg

Herb is in my Heart สลิลาพร กองทองมณี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สลิลาพร กองทองมณี
 
เพราะ "ยาไทยโบราณ" เปรียบดั่งลมหายใจของครอบครัว มุ่ย-สลิลาพร กองทองมณีโรจน์ ทายาทของ ศรเทพศรทอง อดีตราชาเพลงลูกทุ่งชื่อดังที่หันมาดำเนินธุรกิจด้านการรักษาและผลิตยาสมุนไพรตามบรรพบุรุษที่วางรากฐานไว้นั้น จึงอาสาใช้ความรักผสมความรู้ด้านสมุนไพรที่ตัวเองช่ำชอง นำทัพออกมาสานต่องานผลิตยาต่อสู้โรคร้าย อันเป็นมรดกชิ้นสำคัญของครอบครัวให้สืบทอดต่อไป

 
วันที่ท้องฟ้าฉ่ำฝน มุ่ย-สลิลาพร กองทองมณีโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองและสายตาแบรนด์ I-DEE (ไอ-ดี) เปิดพิพิธภัณฑ์ยาสมุนไพรไทย ย่านบางบัวทอง ให้เราได้เข้าไปสัมผัสและพูดคุยเรื่องราวของสูตรยาสมุนไพรไทยรักษาโรค ที่เธอตกหลุมรักว่า ตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เธอและพี่-น้องเจ็บป่วย ปู่-ย่า และศรเทพศรทอง ผู้เป็นพ่อ จะดูแลและจัดยาสมุนไพรพื้นบ้านมาให้ทานตามอาการที่เป็น ทำให้พวกเธอคุ้นเคยกับสมุนไพรเหล่านั้นเรื่อยมาจนเมื่อเติบโตหากตัวเองหรือคนรอบข้างเจ็บป่วย ก็จะรักษาด้วยสมุนไพรตลอด

“อาการเล็กๆน้อยๆ อย่างถ้าอากาศเปลี่ยนเริ่มเป็นหวัดกัน คุณพ่อก็เอาหัวหอมทุบมาวางบนที่นอน เอารากก้นบึ้งน้อย มาต้มน้ำให้ดื่ม เพราะช่วยลดอาการไข้และอาการร้อนใน แต่ถ้าใครท้องผูก ก็กินยาต้มเป็นใบชุมเห็ดเทศไปต้มน้ำกินเพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ แต่คุณพ่อจะไม่ใช้ติดต่อกันนาน เพราะกลัวร่างกายเสียน้ำ-เสียเกลือแร่ค่ะ ซึ่งที่เราทานบางครั้งเป็นยาลูกกลอนรสชาติขมมาก ก็ไม่ค่อยอยากทานกัน จำได้ตอนเด็กเวลาถูกบังคับให้ทานยาจะร้องไห้กันหนักมาก แต่พอโตมาก็เริ่มชินเดี๋ยวนี้สบายมากค่ะ”

 
แม้จะรักและรู้คุณค่ายาสมุนไพรพื้นบ้านมากแค่ไหน แต่เธอก็เป็นสาวสมัยใหม่ที่ไม่คิดจะเป็นหมอยาโบราณอย่าง “ศรเทพศรทอง” ผู้เป็นบิดา เมื่อจบมัธยมปลายมุ่ยจึงเลือกเรียนบริหารธุรกิจ และรัฐประศาสนศาสตร์ ที่ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ควบคู่กันไป พอจบแล้วยังเรียนต่อปริญญาโท MBA มหาวิทยาลัยขอนแก่น “รู้ว่าต้องมาช่วยงานคุณพ่อ ก็เลือกเรียนบริหารทั้งหมด แต่พอมาทำจริงๆก็ได้สัมผัสคนไข้ รักษา ได้เห็นขั้นตอนการทำงาน ทำให้รู้สึกลุ้น ท้าทาย ก็เริ่มสนใจคุณพ่อเลยแนะนำให้เรียนแพทย์ไทย มุ่ยเลยสมัครเรียนปริญญาโทสาขาสุขภาพจิตที่จุฬาฯอีกใบ และก็เรียนรู้จากคุณพ่อสอนตลอดว่าอาการแบบนี้ต้องใช้อะไรบ้าง”

การจัดยาแผนไทยโบราณ แม้จะไม่ใช่เรื่องยากของ “มุ่ย” แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มุ่ย บอกว่ากว่าที่เธอจะจดจำถึงขนาดสั่งยาได้ ไม่ใช่แค่เรียนเก่ง หรือเรียนได้ปริญญาหลายใบ แต่เธอต้องอาศัยทั้งความรัก ขยัน ประสบการณ์ และความคุ้นเคย เพราะสมุนไพร 1 ชนิด ใบ ราก เหง้า แต่ละส่วน จะให้คุณต่างกัน ตรงนี้เป็นสิ่งที่เธอต้องระมัดและจำจดให้แม่น

 
ความยากอันเนื่องมาจากความหลากหลายของพืชนานาชนิดที่ต้องจดจำแล้ว อีกปัญหาที่เธอต้องเผชิญคือการต่อสู้กับความคิดของญาติผู้ป่วยที่ยังไม่ค่อยเชื่อถือนัก ซึ่งเธอยอมรับว่าทำให้เกิดความรู้สึกท้อบ้าง แต่ไม่มากเพราะเมื่อรักษาเห็นผล ความคิดต่อต้านก็หายไป โดยเธอยกกรณีตัวอย่างที่เธอให้คำปรึกษาคุณป้าคนหนึ่ง ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน อาการตอนมาคลินิกค่อนข้างหนักแล้วคือตัวดำคล้ำ เธอก็สั่งยาให้ แต่ยาสมุนไพรไทยที่ใช้รักษาอาการของโรคก็จะต้องใช้ตามที่สรรพคุณ ทำให้มียาหลายขนาน

“ลูกๆคุณป้าเห็นยาที่มุ่ยจัดให้ เค้าก็ตกใจ พูดออกมาต่อหน้ามุ่ยเลยว่า ให้แม่เค้ากินยาเยอะขนาดนี้จะไหวเหรอ เราฟังก็ท้อนะคะ ดีว่าคุณป้ายืนยันจะทาน เค้าเลยต้องยอม จน 1 เดือนผ่านไป คุณป้ากลับมาพร้อมอาการที่ดีขึ้น ความรู้สึกตอนนั้น มุ่ยมีความสุขนะคะ”

ความสุขที่อบอวลขณะนั้น กระตุกต่อมคิดให้ “มุ่ย” รู้สึกอยากต่อยอดยาในมือของเธอให้ดียิ่งขึ้น โดยเธอให้เหตุผลว่า เมื่อคนไข้ดีขึ้นแล้ว ก็อยากดูแลให้ดีที่สุด เธอจึงตัดสินใจควักกระเป๋าส่วนตัวเปิดบริษัท มี อินฟินิตี้ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

 
ทุกวันนี้แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่สิ่งที่เธอยึดติดไม่เคยลืมคือ ความซื่อสัตย์และความกตัญญู “คุณพ่อสอนเสมอไม่ให้ลืมตัวไม่ให้ลืมรากเหง้าของตัวเอง มุ่ยระลึกเสมอเรามีอาชีพในวันนี้ได้ เพราะบรรพบุรุษ เพราะครูยา ทุกๆปีคุณพ่อจะจัดพิธีไหว้ครูยา และอีกส่วนหนึ่งเราเปิด พิธภัณฑ์สมุนไพรโบราณ ที่ทำการเก็บสมุนไพร อายุนับ 100 ปี ไว้เป็นที่ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับยาสมุนไพรอีกด้วย ที่ตรงนี้คุณพ่อตั้งใจสร้างขึ้นมาให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติการแพทย์แผนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เราหวังให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้เรียนรู้ว่าสมุนพีไทยมีดีอย่างไร”

มุ่ย-สลิลาพร ยังปิดท้ายกับเราถึงความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เกิดภายใต้อาณาจักรตำหนักยาไทย ว่า เมื่อก่อนเธออาจจะเพียงแค่รู้สึกทึ่งกับสรรพคุณดีๆของสมุนไพรไทย หากแต่ในวันนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งได้สัมผัสใกล้ชิด เธอก็ยิ่งรักและหวงแหนสมุนไพรไทยยิ่งนัก “มุ่ยเชื่อว่าตำรายาไทยทั้งของครอบครัวกองทองมณีโรจน์ และที่ได้รับการถ่ายทอดต่อๆกันมาจนถึงมุ่ยนั้น วัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อช่วยรักษาคนไข้ให้หายจากอาการเจ็บป่วย ดังนั้น เมื่อโอกาสตรงนี้ตกมาถึงมุ่ย มุ่ยก็อยากทำให้ดีที่สุด อยากรักษาสิ่งดีๆเหล่านี้ไว้เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของครูยาค่ะ”

เรื่อง วรกัญญา สมพลวัฒนา
ภาพ วชิร สายจำปา
กำลังโหลดความคิดเห็น