>>ในแต่ละวันตั้งแต่ตอนเช้าที่เราก้าวเท้าออกจากบ้าน จนกระทั่งถึงเวลากลับบ้าน เรามักต้องเผชิญกับสถานการณ์ และกิจกรรมมากมายหลากหลายที่นำไปสู่ปัญหากลิ่นอันไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้าโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า “ปัญหากลิ่นเหม็นที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า” ถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักๆ ที่คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของผู้หญิงวัยทำงาน และกลุ่มแม่บ้านยุคใหม่มักเป็นกังวล จนทำให้สูญเสียความมั่นใจในระหว่างวันได้ ด้วยเหตุนี้ “ดาวน์นี่” จึงมาร่วมเผยผลสำรวจที่สุดของ 10 ปัญหากลิ่นเหม็นที่คนไทยต้องพบเจอในแต่ละวัน พร้อมแชร์เคล็ดลับสุดฮิตที่คนไทยมักกระทำเพื่อกำจัดและหลบเลี่ยงกลิ่นเหม็นไม่ให้ติดบนเสื้อผ้า
“ในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ดาวน์นี่เข้าใจถึงความต้องการของ ผู้หญิงไทยเป็นอย่างดีว่าให้ความสำคัญในเรื่องของความสะอาด และกลิ่นหอมบนเสื้อผ้าของสมาชิกทุกคนในครอบครัวเป็นลำดับแรก ซึ่งแม่บ้านเหล่านี้จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้กลิ่นหอมนี้คงอยู่เสื้อผ้าตลอดทั้งวัน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์หรือทำกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างวัน ซึ่งในบางครั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่พบเจอกับกลิ่นเหม็นได้ และเพื่อให้รู้ถึงที่มาของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่มักพบเจอระหว่างวันมากที่สุด รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ผู้หญิงไทยมักกระทำ ดาวน์นี่จึงได้ทำการสำรวจกับกลุ่มผู้หญิงทั้งหมด 400 คน ทั้งกลุ่มแม่บ้านที่มีลูกอายุระหว่าง 5 -15 ปี และกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานอายุระหว่าง 25 - 45 ปี พบว่า
10 กลิ่นสุดทนที่สร้างความหงุดหงิดใจมากที่สุด
เมื่อถามถึงปัญหากลิ่นเหม็นบนเสื้อผ้า 10 อันดับที่สร้างความหงุดหงิดมากที่สุดได้แก่ กลิ่นเหงื่อ กลิ่นอาหารปิ้งย่าง กลิ่นควันรถยนต์ กลิ่นบุหรี่ กลิ่นเหม็นอับชื้นบนเสื้อผ้าหลังจากฝนตก กลิ่นอาหารทอด กลิ่นสุกี้ยากี้ กลิ่นชาบู กลิ่นเหม็นจากศูนย์อาหาร และกลิ่นควันธูป
ร้อยละ 69 ยอมรับว่ากลิ่นเหงื่อและกลิ่นกายเป็นปัญหายอดฮิตอันดับ 1 ของคนไทยที่พบเจอมากที่สุด จนทำให้สูญเสียความมั่นใจระหว่างวัน
กลิ่นเหงื่อหรือกลิ่นกายถือเป็นปัญหากลิ่นเหม็นยอดฮิตที่มักติดอยู่บนเสื้อผ้าในระหว่างวันมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยกลิ่นเหม็นจากอาหารและกลิ่นควันรถ ซึ่งปัญหากลิ่นเหม็นที่ติดบนเสื้อผ้านี้ ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่สูญเสียความมั่นใจ หงุดหงิดและรำคาญใจ ส่งผลให้หลายคนเลือกที่หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับคนรอบข้าง เพราะเกรงว่าคนอื่นจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นเหม็นที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของตนเอง
ทิปส์แอนด์ทริคสุดฮิตในการกำจัดและหลบเลี่ยงกลิ่นเหม็นไม่ให้ติดบนเสื้อผ้า
และเมื่อถามถึงวิธีการที่คุณผู้หญิงมักใช้เพื่อให้เสื้อผ้าของตนมีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดทั้งวัน พบว่า ร้อยละ 73 ใช้น้ำยา ปรับผ้านุ่มในปริมาณที่เยอะกว่ากำหนดในขั้นตอนการซัก เพื่อให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดทั้งวัน และในบางครั้งเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเดินผ่าน หรือเข้าใกล้บริเวณที่คาดว่าอาจส่งผลให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ติดบนเสื้อผ้าในระหว่างวันได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นติดแล้ว ผู้หญิงกว่า ร้อยละ 66 เลือกที่จะพกขวดสเปรย์น้ำหอมไว้ในกระเป๋า เพื่อฉีดดับกลิ่นเหม็นระหว่างวัน อีกหนึ่งวิธีคือการนั่งตากลมหรือเครื่องปรับอากาศให้กลิ่นเหม็นเบาบางลง หรือถึงกับนำเสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนในระหว่างวันทำงาน
จากผลสำรวจดังกล่าว ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า ปัญหากลิ่นอันไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้าไม่ว่าจะเป็นกลิ่นประเภทไหน ล้วนทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่รู้สึกสูญเสียความมั่นใจ และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ถึงแม้จะมีวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากมายที่ผู้หญิงไทยเลือกใช้ แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดกลิ่นเหม็นบนเสื้อผ้าให้หายไปได้จริง ซึ่งต่อไปนี้ ทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวล และไม่ต้องสรรหาวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอีกต่อไป เพราะผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มดาวน์นี่มาพร้อมสูตรใหม่ล่าสุดที่ถูกคิดค้นและพัฒนาเพื่อการแก้ปัญหากลิ่นเหม็นบนเสื้อผ้าระหว่างวัน ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของดาวน์นี่ให้พลังต่อต้านที่สุดของ 10 กลิ่นเหม็นบนเสื้อผ้าให้จางหายไป หลงเหลือไว้แต่ความหอมสดชื่นที่ยาวนานกว่าเดิม เพื่อความมั่นใจของทุกคนในครอบครัวตลอดทั้งวัน
คำนวณจากข้อมูลการขายในกลุ่มผลิตภัฑณ์ปรับผ้านุ่มโดยบริษัท Nielsen เดือน ก.ด. 2557 - มิ.ย. 2558 จาก 24 ประเทศใน 4 ทวีป