>>ถ้าใครติดตาม IG ของอาร์ทิสต์สาวร่างเล็ก “ผึ้ง-มธุนาฏ ซอโสตถิกุล” จะได้เห็นภาพเธอกับรถรุ่นคลาสสิกไม่ว่าจะเป็น Karmann Ghia รุ่นปี 1970 หรือ Corvette รุ่นปี 1969 ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรถรุ่นในฝันของหนุ่มๆ หลายคน แต่ใครจะรู้บ้างว่าในชีวิตจริงแล้ว สาวที่หลงใหลในรถวินเทจคนนี้จะเลือกรถรุ่นทันสมัย ขวัญใจวัยรุ่นหนุ่มสาวอย่าง Mini Cooper เป็นรถคู่ใจ เพราะถูกใจในขนาดที่กะทัดรัด รูปร่างปราดเปรียว เหมาะกับการใช้ขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัดและที่จอดรถหายากเป็นที่สุด
“ผึ้งชอบรถวินเทจค่ะ ดำเนินรอยตามคุณพ่อ (ธีระ ซอโสตถิกุล) แต่ผึ้งเป็นได้แค่คนนั่งอย่างเดียวนะคะ ไม่ได้ขับ เพราะขับรถเกียร์ธรรมดาไม่เป็น (หัวเราะ) เคยพยายามฝึกตั้งแต่ตอนหัดขับรถใหม่ๆ อายุ 15-16 ปี คุณพ่อให้เริ่มขับจากเกียร์ธรรมดา เพราะเขารู้ว่าถ้าเราฝึกขับจากเกียร์ออโต้ พอขับได้แล้วก็คงไม่กลับไปฝึกเกียร์ธรรมดาอีกแน่ คุณพ่อเคยเป็นนักแข่งรถ เขาก็อยากให้เราขับเกียร์ธรรมดาให้เป็น เพราะพวกรถแรงๆ หรือรถคลาสสิกที่เขามีก็ใช้เกียร์ธรรมดากันหมด
แต่ฝึกยังไงก็ขับไม่ได้ เพราะเกียร์กระปุกมันยากอ่ะ ยิ่งฝึกขับแถวหมู่บ้าน แล้วมันมีลูกกระโดดเยอะ ก็ต้องชะลอรถ เบาเครื่อง เราขับไม่เป็นมันก็จะดับ รถสั่นๆ ทำอะไรไม่ถูก ฝึกอยู่นานก็ยังขับไม่ได้ จนสุดท้ายผึ้งเลยต้องยื่นคำขาดว่า ถ้าพ่อจะรอให้หนูขับเกียร์ธรรมดาเป็น หนูอาจจะขับรถไม่ได้เลยก็ได้นะ งั้นให้ฝึกเกียร์ออโต้แล้วขับรถให้เป็นจะดีกว่าไหม เขาถึงได้ยอม ซึ่งทำให้กว่าผึ้งจะขับรถเป็นจริงๆ ก็ตอนขึ้นปี 3 แล้ว อายุประมาณ 20 ละ ซึ่งถือว่าช้ากว่าเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ก็เพราะมัวไปฝึกเกียร์กระปุกอยู่นี่แหละค่ะ”
แม้จะขับรถเป็นตั้งแต่ปี 3 แต่เธอเริ่มมาขับรถใช้เองอย่างจริงจังก็เพิ่งจะแค่เมื่อราว 3 ปีที่แล้ว “สมัยเรียนผึ้งไม่ค่อยขับรถเท่าไรเพราะเรียนสถาปัตย์การบ้านเยอะมาก นอนน้อย ขับเองไม่ไหว พอไปต่อต่างประเทศก็ใช้พวกรถไฟใต้ดินมากกว่า และพอกลับมาเมืองไทยก็มีแฟนคอยขับรถให้ เพิ่งจะช่วง 3 ปีนี้แหละที่เป็นโสดค่ะ เลยต้องขับรถเองละ”
รถมินิคันโปรดของเธอจากที่ต้องจอดทิ้งไว้ ก็เพิ่งนำออกมาใช้งานจริงจังตอนนี้นี่เอง “เป็นรถที่ผึ้งรักมาก เพราะผึ้งเลือกเอง ตอนแรกที่ขับรถเป็นใช้รถของที่บ้านเป็นเบนซ์ C-Class ผึ้งขับแล้วไปชนนั่นนี่ตลอดเลย คือคันมันใหญ่แล้วตัวเราเล็ก กะระยะพลาดบ้าง มองไม่เห็นบ้าง รู้สึกไม่เหมาะกับเรา ไม่คล่องตัว ก็เลยอยากได้รถคันเล็กๆ แทน
ตอนแรกที่บ้านก็คัดค้านไม่อยากให้เราขับรถคันเล็ก เพราะกลัวไม่ปลอดภัย จำได้เลยคุณยายบอกว่าขับทำไมรถพลาสติก คือมันดูเล็กมาก และเขาไม่รู้ว่ามินิมันก็แข็งระดับเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูนี่แหละ ส่วนคุณพ่อถึงกับต้องลองซื้อมาขับเอง เอามาเทสต์ก่อนว่าปลอดภัยจริง แข็งจริง เพราะเขารู้ว่าเราขับรถไม่เก่ง เดี๋ยวไปชนนั่นนี่ เป็นห่วงความปลอดภัยเรา เขาลองจนมั่นใจถึงจะอนุมัติให้เรา
และที่ตลกคือ สุดท้ายคุณพ่อเองก็ติดใจ ถอยมาใช้อีกคัน เพราะรถมันปราดเปรียวเหมาะสำหรับขับในเมืองมาก ไปไหนมาไหนเขาประหยัดเวลาขึ้นอีกเยอะเลย อย่างเพื่อนๆ ผึ้งที่ขับรถคันใหญ่ๆ เวลามานั่งรถเรา พอเห็นทางแคบๆ หรือมีรถขวาง ทุกคนจะคิดว่าไม่พ้นแน่ แต่มินิเลี้ยวผ่านได้เฉยเลยค่ะ”
นอกจากความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองที่รถติดอย่างกรุงเทพฯ แล้ว อีกหนึ่งข้อดีของรถมินิที่สาวผึ้งถูกใจสุดๆ คือ “มันหาที่จอดง่ายมากเลยค่ะ เวลาไปที่ไหนๆ ที่ว่าหาที่จอดยาก ผึ้งไม่เคยมีปัญหาเลย เพราะขนาดกะทัดรัดแบบนี้ช่องเล็ก มุมแคบแค่ไหน มันเข้าได้หมด แต่ถ้าเป็นรถคันใหญ่คงต้องวนหาที่จอดกันอีกนานแน่ๆ”
มินิลายคัพเค้ก
แม้ว่าสีแดงดูจะเป็นสียอดนิยมของรถแบรนด์นี้ ที่พบเห็นอยู่มากมาย แต่รถมินิคันนี้ของเธอไปที่ไหนใครก็จำได้ เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่ลายคัพเค้กที่ประดับประดาอยู่ทั่วรถ
“คัพเค้กถือเป็นซิกเนเจอร์ของผึ้งไปแล้ว เพราะผึ้งชอบวาดรูปขนมพวกนี้ ได้เอาไปเป็นลวดลายประกอบในคอลเลกชันของนันยาง รุ่น Sugar ด้วย หรืออย่างธุรกิจใหม่ของผึ้งที่กำลังทำอยู่คือเพนต์ลายรองเท้าผ้าใบก็โด่งดังเพราะลายยอดฮิตที่แหละ พอมีรถเราก็เลยอดที่จะเอาคัพเค้กและขนมต่างๆ มาตกแต่งไม่ได้ อย่างที่ติดเสาอากาศ หรือที่แขวนกระจกก็จะเป็นพวกมินิคัพเค้ก เป็นโดนัท ห้อยอยู่ ไปไหนมาไหนคนก็เลยรู้ว่านี่แหละรถผึ้งแน่นอน” :: Text by FLASH