xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวที่แกร่ง ต่อย-ณัยณพ ภิรมย์ภักดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ต่อย-ร.ต.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี
 
ก้าวแรกที่ ต่อย-ร.ต.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี บุตรชายคนสุดท้องของ จุตินันท์-ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี กลับถึงเมืองไทย ชื่อเสียงของเขาก็ฟุ้งกระจาย เพราะนอกจากจะเป็นทายาทตระกูลดังของไทยแล้ว เขายังหอบกระบี่นักเรียนนายร้อยจากเมืองผู้ดี กลับมารับใช้ชาติ ด้วยการติดยศร้อยตรีเป็นนายทหารไทยสังกัดกระทรวงกลาโหม และล่าสุด ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นนักแข่งรถทีมคราฟฟ์ แบมบู เรซซิง (Craft Bamboo Racing) เตรียมลงแข่ง จีที เอเชีย ซีรีส์ การแข่งรถรายการใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้ชื่อเสียงของหนุ่มคนนี้ยิ่งโด่งดังยิ่งนัก

 
ต่อย-ร.ต.ณัยณพ ถูกส่งไปเรียนและใช้ชีวิตที่อังกฤษตั้งแต่เด็ก หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ แทนที่จะใช้ชีวิตตามประสาลูกมหาเศรษฐี แต่เขากลับอยากเรียนทหาร

ต่อยบอกว่า หลังจากได้เรียนรักษาดินแดนที่อังกฤษ ก็รู้สึกประทับใจ จึงขอพ่อ-แม่ไปเรียนทหาร ซึ่งในช่วงแรกทั้ง จุตินันท์ และ ม.ล.ปิยาภัสร์ ไม่ยอม แต่ก็มาเปลี่ยนใจในวันที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนใกล้จบปริญญาตรี โดยยอมให้ไปสมัครโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์ทซ์ เพราะเป็นโรงเรียนที่สร้างวินัยให้คนเป็นอย่างมาก
 

 
ที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์ทซ์ สหราชอาณาจักร หนุ่มหล่อคนนี้ต้องเรียนหลักสูตรจู่โจม เสือคาบดาบ หรือ Ranger ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้ชื่อว่าหินและโหด ก่อนจะกลับมาเข้าหลักสูตรโดดร่ม Airborne ของ ทบ. และเข้ารับราชการทหารกับกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในปัจจุบัน

“การฝึกทหารที่นั่นค่อนข้างโหด เข้าป่า นอนในหลุม ขุดหลุม 4-5 วัน ไม่ได้นอน โดนทดสอบความอดทนสารพัด แต่ที่ผมรู้สึกว่ายากสำหรับผมคือ ทุกเช้าต้องลุกมาดื่มน้ำต่อหน้าครูฝึกให้ได้วันละ 1 ลิตร มันลำบากแต่ก็ชอบครับ เพราะได้เรียนรู้ตัวเองเยอะมาก ได้วินัย ได้ความเป็นผู้นำ ได้เห็นมิตรภาพการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามลำบาก ไม่มีใครทิ้งใคร”

 
ในวัย 26 ของ “ร.ต.ณัยณพ” ดูช่างสมาร์ท ทะมัดทะแมง นิ่งและสุขุม เหมาะกับเครื่องแบบนายทหารยิ่งนัก หลังการฝึกหนักและการทำงานที่เคร่งเครียด หากเป็นวัยรุ่นคนอื่นๆ คงเลือกที่จะชอปปิง ดูหนัง ฟังเพลง หรือกินอาหารอร่อยๆ ในร้านหรูหรา แต่กับต่อย เขาเลือกที่จะใช้เวลาพักผ่อนให้หมดไปกับการแข่งรถ

 
นอกจากอาชีพทหารแล้ว ต่อยยังชอบความเร็วอีกด้วย จุดเริ่มต้นเส้นทางนักแข่งของเขาเกิดขึ้นตอนอายุ 15 ปี หลังปิดเทอมใหญ่ได้กลับมาเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทยแล้วมีโอกาสได้ลองขับรถแข่ง ทำให้รู้สึกชอบ ซึ่งพ่อกับแม่ก็สนับสนุนเป็นอย่างดี แม้ไม่ได้แข่งเก็บคะแนนจริงจังตลอดทั้งปี เหมือนนักแข่งทั่วไป เพราะยังติดเรียนหนังสือ แต่ถ้าว่างก็ลงสนามแข่ง เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเพียงไม่นานชื่อของ “ต่อย” ก็เริ่มเป็นที่ยอมรับ คว้าชัยชนะได้ถ้วยรางวัลมาครอง 16 รายการ

“ที่ประทับใจผมจริงๆ คงเป็นการแข่งที่สนามบางแสน สตรีทเซอร์กิต ชลบุรี เพราะทำเวลาได้ดีที่สุด และยังทำให้ผมได้พบ แฟรงค์ ยู ผู้ก่อตั้งและเจ้าของทีม "คราฟท์ แบมบู เรซซิง" ซึ่งเขาได้ชวนให้ผมไปเป็นนักแข่งทีมของเขาด้วย ตรงนี้ผมภูมิใจเพราะเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ร่วมทีมนี้ แข่งงานแรกตอนนี้คือ "จีที เอเชีย ซีรีส์ 2016" กำลังแข่งขันสนามที่ 2 จาก 6 สนามครับ”

 
ต่อยยังบอกถึงเทคนิคการแข่งขันรถของเขาว่า อยู่ที่สติและทักษะ เครื่องยนต์ที่ดีช่วยได้นิดหน่อยเท่านั้น แต่ทักษะที่ดีจะรู้ตัวเองว่าตรงไหนควรขับอย่างไร ทั้งการเข้าโค้ง การเบรค การกดคันเร่ง

ภาพนักแข่งรถอาชีพ ที่ฝากชีวิตไว้หลังพวงมาลัยและความเร็วของเข็มไมล์ ที่ไม่ให้ต่ำกว่า 340 กม./ชม. ทำให้ผู้เขียนนึกหวาดเสียว จนต้องถามถึงอุบัติเหตุและความห่วงใยของพ่อ-แม่ ซึ่งต่อยยอมรับว่า มีบ้างเหมือนกัน แต่เป็นการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น “อุปกรณ์ช่วยเซฟให้ปลอดภัยมากขึ้น แรกๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ห่วงบ้าง แต่ท่านเห็นว่าผมเป็นคนระมัดระวังอยู่แล้วก็เลยเลิกกังวล”

 
นานกว่า 9 ปีแล้ว ที่หนุ่มต่อยได้โลดแล่นอยู่ในสังเวียนนักแข่งรถ แม้จะได้ลงแข่งในรายการใหญ่ และสามารถคว้าชัยมาหลายสนาม หากแต่สนามในฝันที่เขาบอกว่าไปแล้วต้องทำให้ได้นั่นคือ การลงสนามแข่งในรายการแข่งขันรถยนต์ 24 ชั่วโมง เลอม็อง ที่ฝรั่งเศส “24 ชั่วโมง เลอม็อง เป็นหนึ่งในสามรายการใหญ่ที่เรียกว่า  "ทริปเปิลคราวน์" ของรายการแข่งรถ ร่วมกับ โมนาโกกรังปรีซ์ และ อินดีแอนาโพลิส 500 เป็นการแข่งขันที่นักแข่งทุกคนอยากไป เพราะได้ทดสอบความทนทานของรถและนักแข่งครับ”

 
แม้จะเป็นถึงทายาทมหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจใหญ่โตในเมืองไทย แต่ต่อยก็ไม่ได้ลุ่มหลงทำตัวฟุ้งเฟ้อตามแบบฉบับลูกคนรวยบางคน สิ่งที่ได้ทำ ณ วันนี้ เขาบอกว่า พอใจที่สุดแล้ว การเป็นทหารและนักแข่งรถ ซึ่งเป็นสิ่งที่ “รัก” สามารถทำได้โดยไม่เบียดบังเวลากัน “งานประจำจะทำจันทร์ถึงศุกร์ เวลาว่างช่วงเย็นหลังเลิกงานก็เดินทางไปซ้อมได้ แต่ถ้าเป็นวันแข่งจริง ส่วนใหญ่จะตรงกับเสาร์-อาทิตย์ สามารถเดินทางไป-กลับมาทันวันจันทร์ทำงานอยู่แล้วครับ”

ก่อนจากกัน ต่อย-ณัยณพ ยังออดอ้อนขอกำลังใจในการแข่งขัน "จีที เอเชีย ซีรีส์ 2016" สนาม 2 ที่อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเขามั่นใจและหวังจะได้ขึ้นโพเดียมอันดับสูงสุดให้ได้ รถที่ใช้แข่งครั้งนี้เป็นปอร์เช่สีเหลืองเขียวหมายเลข 91 และเพื่อนร่วมทีมหมายเลข 88

เรื่อง วรกัญญา สมพลวัฒนา
ภาพ พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร และ ณัยณพ ภิรมย์ภักดี
กำลังโหลดความคิดเห็น