>>เคยมีคนบอกว่าถ้าอยากอายุยืนเพิ่มขึ้น 1 ปี ให้ไปนอนสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ “เขาค้อ” 1 คืน เพราะเขาค้อขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอากาศบริสุทธิ์เป็นแหล่งโอโซนชั้นเลิศของเมืองไทย แม้ว่าท่ามกลางสภาพอากาศที่ปรอทพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 40 องศาเซลเซียส แต่ที่เขาค้อก็ยังมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี เราจึงไม่รอช้าขับรถผ่านระยะทาง 400 กว่ากิโลเพื่อไปเช็กอินสัมผัสอากาศดี๊ดีที่เขาค้อ...
มีคนถามว่าอากาศร้อนบ้าง สลับฝนตกบ้าง ทำไมเราถึงต้องเลือกไปเขาค้อ? ก็เพราะว่า เขาค้อเป็นสถานที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามทางธรรมชาติ โอบล้อมด้วยขุนเขา อีกทั้งยังเป็นแหล่งโอโซนระดับโลก เนื่องจากมีอากาศที่บริสุทธิ์ ชนิดที่ว่าคนที่เป็นโรคภูมิแพ้หากได้มาพักผ่อนที่นี่แล้วอาการภูมิแพ้กลับดีขึ้น! และด้วยความสูงของพื้นที่โดยเฉลี่ยของเขาค้อราว 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล จึงทำให้อุณหภูมิของที่นี่เย็นสบายตลอดทั้งปี และมั่นใจได้ว่าไม่เกิดน้ำท่วมอย่างแน่นอน
ส่วนในเรื่องการเดินทางสู่เขาค้อก็แสนสะดวก สามารถเดินทางมาจากสนามบินพิษณุโลกด้วยถนนสาย 12 ก็ได้ หรือหากเดินทางด้วยการขับรถท่องเที่ยวเราก็จะได้สัมผัสบรรยากาศของความคดเคี้ยวเล็กๆ น้อยๆ ที่แทรกอยู่ท่ามกลางต้นไม้และภูเขา ช่างเป็น Road Trip ที่น่าประทับใจ
สำหรับทริปนี้เรามีโอกาสได้มาเช็กอินที่ “The Blue Sky” รีสอร์ตสไตล์ English Country ที่ต้อนรับเราอย่างโรแมนติกและอบอุ่น ซึ่ง Concept Design ที่สวยงามนี้ เจ้าของรีสอร์ตบอกว่าตั้งใจจะให้เหมือนย่าน Cotswold ซึ่งเป็นย่านชนบทของประเทศอังกฤษ ที่เต็มไปด้วยบ้านแสนรักแสนอบอุ่น
The Blue Sky ตั้งอยู่บนจุดชมวิว “ผาซ่อนแก้ว” ซึ่งเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามอีกแห่งหนึ่งในเขาค้อ มีลักษณะเป็นทางลาดเอียง ทำให้พื้นที่ในส่วนนี้เป็นมุมที่มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ห้องพักทุกห้องถูกตกแต่งอย่างหรูหราและสะดวกสบายในสไตล์วินเทจ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกเลือกอย่างพิถีพิถัน เรียกได้ว่าถ้ามาเยือนที่นี่คุณจะสนุกกับการถ่ายรูปแทบจะทุกมุมของห้องพัก
นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหารขนาดใหญ่ไว้คอยให้บริการแก่ผู้มาพักในรีสอร์ต มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor สำหรับให้ผู้พักได้มานั่งรับประทานอาหารเช้า จิบชากาแฟในยามบ่าย และดินเนอร์ใต้แสงเทียนพร้อมชมวิวผาซ่อนแก้วในบรรยากาศสุดโรแมนติก
และที่จะลืมพูดถึงไม่ได้ก็คือในอาณาเขตของพื้นที่ The Blue Sky Garden ที่มีขนาดกว่า 2,000 ตารางเมตร อันประกอบไปด้วยสวนดอกไม้หลากสีสัน ทุ่งสวนวงกตขนาด 1,600 ตารางเมตร (The Maze) และซุ้มดอกไม้ที่ทอดยาวอีก 150 เมตร พร้อมทั้งร้านกาแฟกลางทุ่งดอกไม้ขนาด 5 ไร่ ด้วยบรรยากาศเช่นนี้ทำให้ The Blue Sky Garden เป็นหนึ่งในสถานที่ที่บรรยากาศโรแมนติกสวยงามแห่งหนึ่ง ประหนึ่งการเที่ยวยุโรป
ไม่ใช่แค่การได้สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์เท่านั้น เรายังสามารถเติมเต็มบรรยากาศราวกับไปเที่ยวย่านชนบทของยุโรปได้อีกด้วย ถ้าลองมาเช็กอินที่ “The Blue Sky” เขาค้อสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่าความสดชื่นและโรแมนติกที่เรากล่าวมานั้นเป็นเรื่องจริง
Cotswold ฟีลชนบทอังกฤษที่เมืองไทย
ถ้าหากไปเที่ยว “เขาค้อ” แล้วเกิดติดใจกับอากาศที่แสนบริสุทธิ์ท่ามกลางหุบเขา และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนอยากจะพำนักอยู่ที่เขาค้อ หรืออยากจะมีบ้านหลังที่สองเอาไว้พักผ่อนกาย ผ่อนคลายจิตใจ เราพบว่าตอนนี้ที่เขาค้อกำลังมีพื้นที่ให้ได้จับจองเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องไร้กังวล
โครงการหมู่บ้าน “The Cotswold @ เขาค้อ” (เดอะคอทส์โวลด์) เป็นโครงการที่เน้นการออกแบบ ตกแต่งที่สวยงาม โดดเด่นตามแบบฉบับของประเทศอังกฤษ โดยบ้านทุกหลังนั้นได้รับการออกแบบให้อยู่บนเนินเขา พร้อมระเบียงที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา และยังมั่นใจได้ว่า พื้นที่ของ “The Cotswold” แห่งนี้เป็นที่ดินที่จดจัดสรรและมีโฉนดอย่างถูกต้อง สร้างความมั่นใจแก่ผู้ครอบครองอย่างแน่นอน
ในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง มี 2 ส่วนคือ “หมู่บ้านอังกฤษ” เริ่มการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2020 และคอนโดรูปแบบใหม่ที่ขนานนามว่า “ปราสาทในยุโรป” หากอยากฟูลฟีลชนบทของประเทศแถบยุโรป โดยไม่ต้องเดินทางไกล การมีบ้านพักสักหลังที่ เดอะคอทส์โวลด์ น่าจะเป็นคำตอบได้อย่างดี :: Text by FLASH