>>จากความชอบเรื่องความสวยความงามและความผูกพันในวัยเด็กนำ ไปสู่การเป็นสาวนักบริหารศูนย์ความงามครบวงจร “ปิ๋ม-พริดา ลิมปานนท์” ทายาทสถาบันผมและความงามครบวงจรอันดับ 1 ของประเทศไทย นิวเจเนอเรชันบิวตี้แห่งร้าน “PANIPA Hair, Nails, Beauty & Wellness” ซึ่งครั้งนี้เธอคือแขกคนพิเศษที่จะมาฉายภาพประสบการณ์ดีๆ ที่ได้รับจากการเป็นผู้บริหารที่ต้องดูแลงานกว่า 8 สาขา และโอกาสสุดพิเศษที่ได้ก้าวไปสู่การนั่งบัลลังก์ตัดสินผมระดับเอเชีย
“พริดา ลิมปานนท์” ลูกไม้ใต้ต้นของ “อาจารย์พรรณิภา ปวนะฤทธิ์” Elite Hair GURU ของเมืองไทย อีกทั้งเป็นนายกองค์การกำหนดเทรนด์ผมโลก IntercoiffureThailand เธอเริ่มเล่าให้เราฟังว่าตั้งแต่เกิดมาเธอก็เห็นร้าน “PANIPA” แล้ว เพราะกว่า 40 ปีที่คุณแม่บุกเบิกศูนย์ความงาม “PANIPA” มานั้นทำให้ทุกอย่างแทบจะซึมซับอยู่ในสายเลือดของเธอ
“สำหรับร้าน “PANIPA” นั้นเปิดมาแล้ว 40 กว่าปีโดยมาจากความชอบของคุณแม่ ตอนนั้นคุณแม่ไปเรียนที่ LondonInstitute ประเทศอังกฤษ ซึ่งยุคนั้นเป็นยุคของ The Beatle และแฟชั่นสไตล์ Funky ที่มีความจัดจ้านมาก ทำให้คุณแม่มีแรงบันดาลใจเยอะในเรื่องของแฟชั่นและทรงผม เมื่อเรียนจบกลับมาจึงตั้งใจเปิดร้านอย่างจริงจัง
และตั้งแต่เล็กๆ ปิ๋มเป็นเด็กที่ติดแม่มาก เวลาคุณแม่ไปทำงานที่ร้านก็จะตามไปด้วย จึงทำให้เรามีโอกาสช่วยงานคุณแม่ตั้งแต่เด็ก ทำงานง่ายๆ เช่น ช่วยต้อนรับแขก เป็นแคชเชียร์ดูแล เทกแคร์ลูกค้าเหมือนเป็นการฝึกงานตั้งแต่เด็ก ซึ่งความรู้สึกในตอนนั้นรู้สึกว่าการที่เราเป็นเด็กตัวเล็กๆ แล้วสามารถปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ได้รู้เรื่องเป็นความภูมิใจรู้สึกว่าเราโตกว่าคนอื่น และก็ส่งผลมาถึงตอนโตจริงๆ เพราะทำให้เรามีความรับผิดชอบ รักที่จะทำงาน และที่สำคัญทำให้ปิ๋มชอบที่จะเรียนรู้และดูแลตัวเองเป็นคนรักสวยรักงามด้วยค่ะ”
ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอเล่าว่าหลายๆ ครั้งมักจะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของมหาวิทยาลัยในด้านความสวยความงาม หรือในระหว่างที่ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้าน Internationl Business ที่มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และเรียนเพิ่มด้านสื่อสารการตลาด ที่ชิคาโก เธอก็มักจะเทกคอร์สเกี่ยวกับการแต่งหน้า ทำผม ทำเล็บ ควบคู่ไปด้วยเสมอ
“ตอนเด็กเราจะโฟกัสเรื่องเรียน แต่เราก็เป็นคนที่ชอบด้านความงามด้วย เมื่อเราชอบทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องความสวยความงาม เราจึงเอาทั้งสองอย่างมาผสมผสานกันรู้สึกว่าเราควรจะใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ชอบ ก็คือเรื่องความสวยความงาม และในขณะเดียวกันก็ควรสอดคล้องและขับเคลื่อนให้มีความสมบูรณ์ทางธุรกิจด้วย ปิ๋มจะคอย Update ความรู้เกี่ยวกับผมอยู่ตลอดเวลา มันถึงจะเป็นวงจรที่ไปด้วยกันได้”
จากประสบการณ์ในการทำงาน ปัจจุบันนี้ปิ๋มทำหน้าที่บริหารงาน PANIPA Hair, Nails, Beauty & Wellness ที่มีอยู่ 8 สาขา โดยมีแม่เป็นแรงหลักในการดูแลความเรียบร้อยในภาพรวม
“งานบริหารงาน PANIPA ปิ๋มช่วยกันดูแลกับคุณแม่ เราสองคนรู้งานเท่ากัน ทำงานแทนกันได้มีอะไรก็คุยกัน แลกเปลี่ยนอัปเดตสิ่งใหม่ๆ ให้กันเสมอ ด้วยความที่คุณแม่ประสบการณ์เยอะมาก ปิ๋มก็จะขอคำปรึกษาและเรียนรู้จากท่านเยอะ แต่หลังๆ คุณแม่จะพยายามถ่ายทอดงานให้ปิ๋มมากขึ้น ทำให้เราต้องตั้งใจในการเรียนรู้จากท่าน” ปิ๋มมีโอกาสได้ดูแฟชั่นโชว์หลายประเทศ สามารถเอามาใช้ในการทำงานของเราได้
และจากการผนึกกำลังระหว่างประสบการณ์ระดับอาจารย์กับคนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้าอย่างคุณปิ๋มก็ทำ ให้PANIPA Hair, Nails,Beauty & Wellness มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และมีโอกาสแสดงศักยภาพในการเป็นตัวแทนช่างผมชาวไทยอยู่ในหลายๆ เวที ปิ๋มเองได้ศึกษาที่ Pivot Point Academy เป็นสถาบันที่สอนเรื่องการทำผมอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ส่วนเล็บ ผิว ทรีตเมนต์แต่งหน้า กายวิภาค เรียนคอร์สสำคัญๆ และเรียนคอร์สสั้นๆ เช่นจากครู Vidal Sassoon รวมถึงการเดินทางไปดูแฟชั่นโชว์งานผมที่ต่างประเทศ และงาน Hair Expo ต่างๆ และรับตำแหน่งกรรมการองค์การผมโลกด้วย
“ร้านเราได้รับรางวัลจากประเทศฝรั่งเศส ทางด้านมาตรฐานผมสากล เกี่ยวกับผมและผิวโดยตรง และคุณแม่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนและคณะผู้ก่อตั้ง Intercoiffure Mondial ด้วย เราจึงมาเริ่มที่เมืองไทยในการที่จะเป็นตัวแทนองค์กรผมโลก ทำหน้าที่ติดต่อกับต่างประเทศและทำ การประชาสัมพันธ์ให้กับช่างผมไทย”
เมื่อมีรางวัลหลายรางวัลมาการันตี สิ่งสำคัญก็คือการรักษาคุณภาพและมาตรฐานให้คงอยู่ ซึ่งกว่าที่จะปล่อยพนักงานคนหนึ่งให้มาทำผม ดูแลลูกค้าได้นั้นต้องผ่านการเทรนอย่างเข้มข้นและใช้เวลานานจนกว่าจะเข้าเป้าตามหลักมาตรฐานของ PANIPA
“การทำงานในร้านค่อนข้างเข้มงวด กว่าจะขยายแต่ละสาขาเราใช้เวลาในการควบคุมคุณภาพค่อนข้างสูงมาก หรือการเทรนพนักงานหนึ่งคนเราก็ใช้เวลานานมากเพื่อให้เขาสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างดีที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า บริการของเรามีครบวงจรทั้งทำผม ทำเล็บ ทำสีผม ในราคาสมเหตุสมผล ซึ่งเรามีเทคนิคพิเศษที่ลูกค้าหลายๆ คนติดใจเพราะว่าเรามีประสบการณ์ทางด้านผมเยอะมาก นอกจากนั้นเรายังอัปเดตเทรนด์ผมตลอด โดยมีครูจากสถาบันผมต่างๆ มาสอนพนักงานของเรา และเราก็ส่งพนักงานออกไปอบรมหาความรู้เพิ่มเติมด้วย”
จากความพิถีพิถันในการบริหารควบคุมงานก็ทำให้ร้าน PANIPA ได้รับคัดเลือกจากนิตยสารชื่อดังให้เป็น 1 ใน 10 ร้านเล็บที่ดีที่สุดในเมืองไทย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความละเอียดและครบวงจรในเรื่องความงาม และทุกแผนกสามารถรักษามาตรฐานคุณภาพได้เป็นอย่างดีและกับความภูมิใจล่าสุดที่คุณปิ๋มเล่าให้เราฟังด้วยบรรยากาศแช่มชื่นก็คือ เมื่อปีที่แล้วเธอได้รับเทียบเชิญจากองค์กร AHA Asian Hair Association ให้เป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดผมที่ประเทศเกาหลี
“AHA Asian Hair Association จะมีการจัดงานปีละครั้งทุกปีโดยเขาจะเชิญตัวแทนจาก 10 ประเทศทั่วโลก ไปเป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันที่มีผู้เข้าแข่งขันกว่า 400 คน ทั้งด้านการตัดผม ดัด ทำสีผม และมีผู้เข้าร่วมชมกว่า 1,000 คน โดยเราเป็นผู้ให้คะแนน ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เราได้รับเกียรตินี้ค่ะ”
หากอยากลองสัมผัสกับความครบวงจรเรื่องการดูแลความงามระดับมาตรฐานเวิลด์คลาส สามารถพบกับ “PANIPA Hair, Nails, Beauty & Wellness” ได้ทั้ง 8 สาขา สุขุมวิท 19, สุขุมวิท 39, สุขุมวิท 63, สุขุมวิท 101 (ลาซาล), สาธรธานี, นิชดาธานี, ริเวอร์ไรน์เพลส และท่ามหาราช facebook : PANIPA Hair Nails Beauty Wellness :: Text by FLASH