ในยุคความงามไร้ขีดจำกัดแบบนี้ โซเชียลมีเดียเริ่มเข้ามามีบทบาท ที่ช่วยอัปเดตความงามให้กับคนอยากสวยทั้งหลาย อาชีพ “บิวตี้ บล็อกเกอร์” จึงเริ่มมีพื้นที่ยืนเคียงข้างเจ้าแม่ความงามอย่าง บิวตี้ อิดิเตอร์ ของแมกกาซีนที่เคยทรงอิทธิพลมาตลอด ด้วยเนื้อหาในบล็อกเกอร์เน้น How To ที่ไปโดนใจคนเดินดิน ที่สามารถสวยดั่งเนรมิตได้เพียงทำตามคลิปเท่านั้น เรียกยอดฟอลโลกระจาย จนแม้แต่เจ้าของเครื่องสำอางยังต้องหันมาให้ความสำคัญกับบล็อกเกอร์ จนตอนนี้มีบิวตี้ บล็อกเกอร์ทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นเต็มไปหมด เพราะบิวตี้ บล็อกเกอร์ ตอนนี้กลายเป็นอาชีพที่ทรงอิทธิพลและสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
เมื่ออาชีพนี้สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ จึงมีทั้งของจริงและของเลียนแบบเต็มไปหมด จนผู้สันทัดกรณีออกมาเตือนให้ผู้บริโภคควรใช้วิจารณญาณเลือกเชื่อ และชี้ว่าถ้าบิวตี้บล็อกเกอร์ยังตั้งหน้าตั้งตาเมคมันนีจนลืมจรรยาบรรณอีกไม่นานก็จะเข้ายุคเสื่อม เพราะเจ้าของสินค้านับวันแต่จะเอือมกับพฤติกรรมที่เยอะเกิน
** 5 อันดับบิวตี้ บลอกเกอร์สุดฮอต
ยอดไลค์และการยอมรับจากแบรนด์เครื่องสำอาง คงการันตีความน่าเชื่อถือของบิวตี้ บลอกเกอร์แต่ละคนได้เป็นอย่างดี หากวัดกันที่ยอดไลค์ คงต้องยกให้เจ้าแม่อาร์ติสต์ “แพรี่ พาย” อมตา จิตตะเสนีย์ ที่มียอดไลค์แฟนเพจมากกว่าล้านไลค์ ด้วยฝีมือในการรังสรรค์เมคอัพหลากสีสันให้กลายเป็นศิลปะอันสวยงามบนใบหน้า พร้อมกับประสบการณ์แต่งหน้าบนรันเวย์ลอนดอน แฟชั่น วีก เลยการันตีฝีมืออันเชี่ยวชาญของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วย “Sp Saypan” ของสาวสายป่าน ที่มียอดไลค์ 6 แสนกว่า โดดเด่นด้วยการเขียนตาให้เวอร์วังและเฉี่ยว จากสาวตาเล็กๆ กลายเป็นกลมโตดูดึงดูดใจ อันดับสาม “หญิงแย้” นนทพร ธีระวัฒนสุข ที่สร้างชื่อเสียงฮือฮาจากการเผยว่าตัวเองทำศัลยกรรมตั้งแต่หัวจรดเท้า จากหน้าแย้ๆ เป็นหญิงแย้ที่ดูไฮโซ มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ธรรมดา จนมีแฟนคลับติดตามกว่าหกแสนไลค์
อันดับสี่ “โมเม พาเพลิน” ของสาวโมเม-นภัสสร บุรณศิริ ที่แม้จะยอดไลค์น้อย แต่ความฮอตในวงการความงามของนางก็ไม่เป็นรองใคร ซึ่งหากเท้าความไป สาวโมเมน่าจะเป็นเจ้าแม่บิวตี้ บลอกเกอร์ อันดับต้นๆ ที่เรียกเรตติ้งดีกรีความฮอตจากการโพสต์เทคนิคความงามต่างๆ ลงบนยูทูป ภายใต้รายการโมเม พาเพลิน เมื่อหลายปีก่อน จนเดี๋ยวนี้ โมเม กลายเป็นกูรูความงามที่แบรนด์เครื่องสำอางทั้งหลายยอมรับ
อันดับห้า สาวน้อยเมอา-พรพรรณ เรืองปัญญาธรรม ก็นำความสวยใสของตัวเองมาคว้ารางวัล Youtube Silver Button ที่เว็บไซต์ยูทูปมอบให้ผู้ที่มียอด Subscribers ครบ 1 แสน จนตอนนี้มีแฟนเพจติดตามขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนั้น ก็มีบิวตี้ บลอกเกอร์ที่เป็นที่มียอดติดตามอีกมากมาย อาทิ Feonalita, Kunginter, Cinnamongal, Onnbaby, Jelly Fish Makeup Mania, Jellyfish, Evefeemakeup ฯลฯ
** สไตล์ใครสไตล์มัน
เมื่อบิวตี้ บลอกเกอร์ความงามมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนก็มีแนวทางการนำเสนอความงามในสไตล์ของตัวเอง สาวๆ ที่คิดจะติดตามใคร ก็ต้องรู้ว่ากูรูความงามแต่ละคนเชี่ยวชาญด้านไหน เพราะการจะซื้อเครื่องสำอางหรือแต่งหน้าตามสาวงามเหล่านั้น ก็ใช่ว่าจะตรงกับความสวยงามของตัวเอง
ใครที่ชื่นชอบการแต่งหน้าในแบบไม่ซ้ำใคร ชอบงานศิลปะ และมีกำลังซื้อเครื่องสำอางสีสันหลากหลายแบบไม่เกี่ยงราคา ก็ต้องตามแฟนเพจ Peary Pie เพราะเธอจะมีวิธีการแต่งหน้าด้วยสีสันที่หลากหลาย และไอเดียใหม่ๆ เพื่อสร้างการแต่งหน้าให้ดูแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร เช่น ใช้สีเขียวแต่งตา หรือประดับคริสตัลแต่งคิ้วให้สวยสะดิ้ง
แต่ถ้าใครที่อยากอัปเดตเครื่องสำอางชิ้นหรู ก็ต้องติดตามสาวโมเม-นภัสสร ซึ่งเธอได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดตัวเครื่องสำอางแบรนด์หรูอยู่เนืองๆ ประกอบกับการอยู่ในวงการสังคม ตอนนี้สาวโมเมเลยผันตัวออกมาเป็นกูรูแนะนำการแต่งตัวให้สวยหรูเพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง
Cinnamongal คุณแม่บล็อกเกอร์ความงามนามว่า “มด” ก็ทำเอาเหล่าคุณแม่หรือสาววัยกลางคนต้องหลงใหล ด้วยหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงลูก แต่ก็ไม่ลดละความงามของตัวเอง สาวมดจึงมีวิธีอัปเดตความงามไปพร้อมๆ กับเทคนิคการเลี้ยงลูกน้อย ส่วนเครื่องสำอางที่เธอเลือกก็จะติดแบรนด์หรูเช่นกัน
หรือใครที่เป็นติ่งเกาหลี อยากมีใบหน้าสวยใสฟรุ้งฟริ้งแบบสาวเกาหลี ต้องตามเพจของ สาวเมอา-พรพรรณ ที่เน้นหน้าใสๆ ไม่ต้องแต่งแต้มอะไรมาก ซึ่งเธอขยันโพสฮาวทูในยูทูป พร้อมกับเทคนิคการนำเสนอในแบบน่ารักในสไตล์ของตัวเอง หรือใครอยากมีทรงผมสวยๆ ควบคู่ไปกับความงาม ต้องเข้าไปดูเพจของ Jelly Fish Makeup บล็อกเกอร์ความงามของสาวจูน ที่เธอเติมเทคนิคการทำผมในรูปแบบต่างๆ ให้สาวๆ ได้อัปเดตกันด้วย
** ค่าตัวยิ่งฮอตยิ่งแรง... สวยฟรีไม่มีในโลก
ย้อนไปเมื่อเกือบสิบปีก่อน คนที่ลุกขึ้นมาเป็นบล็อกเกอร์ความงามทุกคน เริ่มต้นด้วยใจรักทั้งนั้น ดังนั้นเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวทุกชนิดล้วนต้องลงทุนซื้อหามารีวิวกันเอง จนเมื่อชุมชนโซเชียลมามีอิทธิพลกับคนยุคใหม่มากขึ้น พลอยทำให้บิวตี้ บล็อกเกอร์มีคนตามทั้งในIG แฟนเพจ หรือ Youtube มากขึ้น กลายเป็นเรตติ้งที่ดึงดูดเหล่าเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางหันมาสนใจบิวตี้ บล็อกเกอร์ขึ้นมา
ยุคหลังๆ เหล่าค่ายเครื่องสำอางจึงหันมาให้ความสำคัญกับบิวตี้ บล็อกเกอร์มากขึ้น มีทั้งส่งสินค้าตัวใหม่ให้รีวิว และมีการเชิญไปออกอีเวนต์ จนปัจจุบันนี้บิวตี้ บล็อกเกอร์ก็ได้รับความสนใจจากเจ้าของสินค้าพอๆ กับบิวตี้เ อิดิเตอร์ แมกกาซีน อย่างเช่น แพรี่ พาย ได้รับเชิญไปเป็นวีไอพีของงานอีเวนต์แนะนำเครื่องสำอาง รวมถึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ขงอโฟมล้างหน้ายี่ห้อหนึ่ง
หรือบางงานเชิญบิวตี้ บล็อกเกอร์ไปเป็นGuest Speaker เมื่อไม่นานมานี้เครื่องสำอางแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น ซึ่งวางแผนจะบุกเมืองไทย ก็สร้างความฮือฮาในวงการเมื่อลงทุนเชิญบิวตี้ บล็อกเกอร์กลุ่มหนึ่ง นั่งเครื่องบิซิเนสคลาสไปทำกิจกรรมเกี่ยวกันเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่น
เป็นที่รู้กันว่า เดี๋ยวนี้ถ้าจะให้บิวตี้ บล็อกเกอร์รีวิวสินค้านั้น คำว่า “ฟรี” ไม่มีอีกแล้ว เพราะทุกอย่างมีค่าตัวหมด เรทค่าตัวบิวตี้ บลอกเกอร์นั้น เริ่มตั้งแต่การโพสรูปลงอินสตาแกรมในราคาหลักหมื่น ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับความฮอตของบลอกเกอร์แต่ละคน และราคาจะขยับขึ้นตามวิธีการโพส เช่น โพสในเฟซบุ๊กจะมีค่าตัวสูงกว่าโพสในอินสตาแกรม หรือจะรวมเป็นแพกเกจเดียวทั้งอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ราคาก็จะเพิ่มขึ้นอีก 3-4 เท่า หรือเจ้าของสินค้าอยากเพิ่มกิจกรรมต่างๆ ลงในแฟนเพจ หรือรีวิวสินค้าลงเป็นวิดีโอในแฟนเพจจะมีราคาอยู่ที่ครึ่งแสน หรือแสนอัพ
หรือหากโพสเป็นวิดีโอลงยูทูปสนนราคาเป็นแสน หรือแสนกว่าบาท ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับว่าเจ้าตัวบล็อกเกอร์ถ่ายทำเอง หรือต้องใช้ทีมงานในการถ่ายทำ โดยบิวตี้ บลอกเกอร์แต่ละคนก็จะมีแพกเกจให้ลูกค้าได้เลือกสรร ซึ่งมีทั้งโพสครั้งเดียว หรือเป็นลูกค้าต่อเนื่องเป็นแพกเกจแบบรายเดือน
นอกจากนั้น บิวตี้ บล็อกเกอร์ที่มีโปรไฟล์ดี สามารถให้ความรู้ในเรื่องความงามจนได้เป็นกูรูถ่ายทอดในงานอีเวนต์เปิดตัวสินค้าความงามต่างๆ หรือร่วมทำเวิร์กชอปทดลองใช้สินค้าเหล่านั้น ก็จะมีค่าตัวไม่ต่างจากวิทยากรในสายอาชีพอื่นๆ เช่นกัน
**ดังแล้วเรื่องเยอะ**
วงการบิวตี้บล็อกเกอร์ก็เหมือนอีกหลาย ๆ วงการ คือเมื่อดังและมีชื่อเสียงแล้วก็เริ่มเหลิง พฤติกรรมของบางคนทำเอาเหล่าเจ้าของสินค้าบ่นว่า "เยอะเกิน" บางคนเมื่อก่อนแค่ได้รับเชิญไปร่วมงานอีเว้นต์ก็ดีใจแย่แล้ว แต่พอมีชื่อเสียงขึ้นมา พอไปงานอีเว้นต์จะขออัพเป็นแขกวีไอพี เพื่อหวังจะได้สินค้าทั้งชุดใหญ่มาใช้ฟรี จนเจ้าของงานบางรายยั๊วะจัดถึงกับตะเพิดออกจากงานก็มีให้เม้าท์ในวงการมาแล้ว
ขณะที่บางคนตั้งหน้าแต่จะเมคมันนี่อย่างเดียว โดยไม่สนใจจรรยาบรรณ มีเรื่องที่เล่าขานกันว่าสินค้าไหนที่เหลือค้างสต็อกมาก ๆ แล้วอยากเคลียร์สต็อกด่วน ก็ต้องจ้างบิวตี้ บล็อกเกอร์แถวหน้านางหนึ่งมารีวิว เพราะเธอเคยรีวิวมาแล้วได้ผลของดีหรือไม่ดีไม่รู้ แต่ขายดิบขายดีจนเกลี้ยงสต็อกในบัดดล จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็กลายเป็นที่พึ่งของสินค้าทุกรายที่ขายของไม่ออก
ไม่เพียงเท่านั้น บางคนไปรีวิวคลีนิคเสริมความงามแบบเจ้าของคลีนิคจัดเต็มทั้งใบหน้า ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ เธอมีใบเสร็จไปเรียกเก็บค่ารีวิวหลายหมื่น งานนี้เจ้าของคลีนิคถึงกับต้องทะเลาะกันกระจาย เพราะมาทำฟรีแล้วยังกล้ามาเก็บค่ารีวิวอีก แต่เธฮก็แน่เพราะขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินก็จะเม้าท์ในบล็อกให้เสียหายเหมือนกัน
เมื่อวงการบิวตี้บล็อกเกอร์เมคมันนี่ได้คล่อง แถมแจ้งเกิดในวงการง่ายนิดเดียว ขอให้มียอดฟอลโลวหรือยอด LIKE เยอะ ๆ เท่านั้น ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ทำไม่ยาก แค่มีเงินลงทุนนิดหน่อยก็สามารถซื้อยอดคลิกให้ดังกระจาย ดังนั้นวงการนี้จึงมีทั้งของจริงและบล็อกเกอร์ผีเต็มไปหมด ซึ่งผู้บริโภคควรจะใช้วิจารณญาณในการเลือกเชื่อข้อมูลของบิวตี้บล็อกเกอร์ ส่วนเจ้าของสินค้านอกจากเอือมระอากับพฤติกรรมที่ไม่ดีของวงการนี้แล้ว ยังเริ่มไหวตัวกับเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนที่คลิกกระจาย ไลค์กระจุย ถึงกับออกปากว่าอีกไม่นานอาจจะเข้าสู่ยุคเสื่อมของบล็อกเกอร์ก็ได้
"วงการบิวตี้บล็อกเกอร์ถ้าอยากดังง่ายนิดเดียว ไปจ้างคนมากดไลค์ก็ได้เกิดแล้ว วงการนี้เลยมีทั้งน้ำดีและน้ำเน่า แต่เกิดง่ายก็ตายง่ายเหมือนกัน อีกไม่นานก็จะไม่มีใครเชื่อถือ และในที่สุดอาชีพนี้ก็อาจจะหมดไปในเวลาอันรวดเร็วก็ได้ " ผู้สันทัดกรณีคนหนึ่งวิจารณ์