>>ในยุคปัจจุบัน ที่หันไปทางไหนก็เจอครีมไวเทนนิ่ง แอปแต่งรูปให้หน้าขาวใส เป็นค่านิยมของสังคมไทยที่ผู้หญิงสวยต้องขาว ผิวขาวๆ จะทำให้ผู้หญิงมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การเข้าสังคม หรือแม้กระทั่งการมีแฟน สาวๆ ทั้งหลายเลยต้องสรรหาทุกวิถีทางที่จะทำให้ผิวของตัวเองขาวขึ้น และสาวสวยคนนี้ “โม หม่อมหลวงรังษิอาภา ภาณุพันธุ์” ก็เคยยึดติดกับค่านิยมเหล่านั้นอยู่นาน จนมาค้นพบว่าผิวแทนสีน้ำผึ้งแบบไทยๆ นี่แหละที่มีเสน่ห์และเป็นที่น่าอิจฉาของผู้หญิงทั่วโลก
ด้วยพื้นเพสีผิวสไตล์ไทยแท้ที่คมเข้มไม่ขาวหมวยแบบสมัยนิยม ประกอบกับการเป็นนักว่ายน้ำที่ต้องฝึกซ้อมอยู่กลางแดดจ้าเป็นประจำ “โม-ม.ล.รังษิอาภา” จึงมีสีผิวที่คล้ำกว่าเพื่อนๆ และกลายมาเป็นปมด้อยในสมัยเด็ก
“โมว่ายน้ำมาตั้งแต่เล็กๆ เลยค่ะ มีซ้อมว่ายน้ำตากแดดทุกวันทำให้ผิวคล้ำมาก ก็จะโดนเพื่อนๆ ล้อตลอด จนเราแอบเก็บมาคิดน้อยใจไม่ได้ว่าทำไมเราไม่ขาวแบบคนอื่นเขา อยากสวยเหมือนคนอื่นก็ไปสรรหาวิธีทำให้ขาว ทั้งครีมกันแดด ใช้ครีมไวเทนนิ่ง ทาทุกวันไม่มีขาด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เห็นว่ามันจะได้ผลสักเท่าไร”
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ย่อท้อ พยายามสรรหาทุกวิถีทางเพื่อทำให้ผิวของเธอขาวขึ้น เหมือนอย่างภาพมายาที่ฉายชัดถึงภาพลักษณ์ของผิวขาวที่ถูกให้ค่าผ่านทางสื่อช่องทางต่างๆ
“ทำทุกอย่างเลยค่ะ ขอให้ขาวให้ทำอะไรก็เอาหมด ไม่ว่าจะเป็นการขัดผิว การกินกลูต้า หรือการทานผลไม้ต่างๆ เพื่อช่วยให้ขาวขึ้น ค้นหาสูตรมาพอกหน้าพอกตัว ทุกสูตรที่เขาบอกว่าจะทำให้ขาวขึ้น เช่น พอกหน้าด้วยโยเกิร์ต หรือใช้กรดผลไม้ ลองทำทุกอย่าง
บางครั้งก็เหมือนจะได้ผลนะคะ ผิวดูขาวขึ้น กระจ่างขึ้น แต่มันก็แค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะไลฟ์สไตล์เรายังคงเดิมคือ ต้องซ้อมว่ายน้ำ ตากแดดอยู่ทุกวัน มันเลยช่วยอะไรได้ไม่มาก คือมันขาวขึ้นนิดเดียว พอหยุดทำมันก็กลับมาเหมือนเดิม”
ช่วงที่เริ่มทำใจยอมรับว่าทำยังไงก็คงไม่ขาวขึ้นมาได้ ประกอบกับด้วยวัยที่เริ่มโตขึ้น พ้นผ่านจากช่วงวัยรุ่นที่ไหลไปตามกระแสสังคม และเก็บเอาความคิดเห็นของคนอื่นมาเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต มาสู่ช่วงที่เข้าใจตนเอง เธอจึงเริ่มปรับเปลี่ยนความคิดที่อยากจะขาว กลายมาเป็นความภูมิใจในผิวแทนของตนเอง
“เริ่มรู้สึกชอบในผิวของเราเอง มองว่าผิวแทนๆ ที่แหละที่ทำให้ดูคมสวยได้โดยไม่ต้องขาว โมก็เลยเลิกหาวิธีที่จะทำให้ผิวขาวขึ้น แล้วหันไปดูแลบำรุงผิวแทน หาข้อมูลว่าทำยังไงให้ผิวแทนดูสวย ตากแดดแล้วไม่ผิวเสีย แห้งกร้าน ทำให้ผิวผ่องเนียนสวยในแบบของเรา ไม่ต้องไปสนว่าจะสีเข้ม สีอ่อน หรือขาวเหมือนใครเขาไหม”
มาหาจุดและทำความเข้าใจกับตัวเองได้ จากความภูมิใจในสีผิวที่คมเข้มของตัวเองก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองขึ้นมาได้
“ตอนนี้ชอบตัวเราเองที่เป็นแบบนี้ รักในตัวตนและสีผิวแทนๆ ของเรามาก และก็ทำให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ สนุกสนานกับการใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะไปตากแดดแล้วผิวจะคล้ำ จะดำ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมโปรดอย่างการว่ายน้ำ ดำน้ำ เดินป่า เราก็สนุกกับมันมากขึ้น แต่ก่อนอาจจะต้องแบบใส่เสื้อคลุม ใส่แขนยาว หลบแดดให้มากที่สุด ทุกวันนี้ก็ไม่ต้องแล้ว ทำให้เราเป็นตัวตนของเราได้อย่างเต็มที่ สดชื่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น”
โดยสาวโมแบ่งปันวิธีการดูแลผิวในสไตล์ของเธอที่ไม่เกรงกลัวต่อแสงแดดนี่ให้ฟังว่า “ก่อนออกแดดโมทาครีมกันแดด ไม่ใช่เพราะกลัวดำ แต่เพื่อป้องกันแสงยูวี ไม่ให้ผิวของเราโดนแสงแดดทำลาย ทาน้ำมันมะพร้าวให้ความชุ่มชื่นกับผิว และที่สำคัญคือการรับประทานผักและผลไม้ทุกวัน คืออันนี้เป็นอะไรที่ทำจนเป็นกิจวัตร เพราะมันทั้งช่วยเติมอาหารผิว และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อย ระบบขับถ่าย ซึ่งจะส่งผลให้ผิวดูใสเปล่งปลั่งได้ ทุกวันนี้โมต้องกินผลไม้อย่างน้อย 1 ชนิด และในแต่ละมื้อก็จะมีผักรวมด้วยเสมอ”
“ผิวแต่ละแบบก็สวยแตกต่างกันไป มีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน อย่างผิวขาว จุดได้เปรียบคือ เลือกใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายกว่า คือเข้ากับสีสันได้ง่าย ใส่อะไรก็ดูสวย ในขณะที่ผิวแทนๆ หรือผิวสีเข้ม การใส่สีสดๆ อย่างแดงสด หรือเขียวจัด มันก็ดูไม่ค่อยเข้าเท่าไร ก็ต้องรู้จักเลือกสรรให้เหมาะสม อย่างของโมเองก็ปรับสีเสื้อผ้าในการแต่งตัว ให้มันเป็นแบบสีที่มันดูขับผิวขึ้นมา อย่างเช่น สีน้ำเงิน สีฟ้า สีส้มอ่อนๆ แทน
แต่คนผิวแทนก็มีดีตรงที่ผิวเราจะสม่ำเสมอ ดูแลง่ายกว่า คือถ้าคนขาวๆ เวลาตากแดดแล้วมันจะเบิร์น จะแดง แล้วก็กลายเป็นสีผิวไม่เท่ากัน และที่สำคัญผิวแทนๆ แบบนี้แหละค่ะ ที่เป็นผิวในฝันของสาวๆ ประเทศอื่น เพื่อนต่างชาติของโมทุกคน มีแต่อยากได้สีผิวแบบโม หรือเวลาเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไหร่ ก็จะมีแต่คนชมสีผิวของเราเสมอ ยิ่งทำให้เราภูมิใจในสีผิว และมั่นใจในตัวเองมากขึ้นค่ะ” หม่อมหลวงรังษิอาภากล่าวปิดท้าย ด้วยความหวังที่อยากให้สาวๆ ทั้งหลาย ไม่ต้องวิ่งตามสมัยนิยมไปขาวหมวยแบบใคร และจงภูมิใจในผิวสีแทนที่สวยคมเข้มในแบบไทยๆ ในแบบที่ตนเป็น :: Text by FLASH
Special Thanks : โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์พอยต์ เทอร์มินอล 21 โทรศัพท์ 0-2681-9000 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพ