วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ “จงมั่นใจในสไตล์ของตัวเอง”
ถ้าให้เอ่ยถึงหนุ่มที่แต่งกายดีมีสไตล์และได้รับรางวัลสไตล์ไอคอนจากหลายสำนักมาติดต่อกันหลายปี รับรองได้ว่าต้องมีรายชื่อของ “ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ” รวมอยู่ในลิสต์ด้วยอย่างแน่นอน ด้วยหนุ่มมากความสามารถผู้นี้ที่เป็นทั้งผู้อำนวยการการตลาดและประชาสัมพันธ์บริษัท คริสเตียน ดิออร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรของไทยทีวีสีช่อง 3 รวมไปถึงเป็นเจ้าของแบรนด์ธุรกิจหิน Medusa (IG @medusastones) ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ดาราและเซเลบริตี้ชื่อดัง ถือได้ว่ามีเอกลักษณ์ทั้งการแต่งกายและทรงผมที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร
:: นิยามสไตล์ของตัวคุณ
ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่าสไตล์ที่ป๊อปแต่งมันเรียกว่าอะไร เพราะเราไม่ได้อ้างอิงมาจากคอนเซ็ปต์หรือยุคไหน ขอเรียกว่าเป็นสไตล์ป๊อปละกัน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ทรงผม มันมาจากความชอบของเรา เป็นตัวตนของเรา ใส่ออกมาแล้วมั่นใจ มีความสุขก็โอเคแล้ว โดยสไตล์ป๊อปจะเน้นที่ความสบาย แต่ก่อนอาจจะแต่งเยอะ คิดเยอะกว่านี้ ตอนนี้น้อยลงมาก ยังสนุกกับการแต่งตัวอยู่แต่ไม่มากเท่าก่อน เหมือนหาสไตล์ที่ใช่สำหรับเราเจอแล้ว ก็เลยนิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าจะนิ่งสนิทนะ เพราะเช่นเดียวกับแฟชั่นที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด สไตล์เราเองก็มีการปรับไปตามเวลาเช่นกัน
:: กว่าจะถึงจุดที่ลงตัวอย่างทุกวันนี้ มีจุดพลาดของชีวิตบ้างไหม?
ป๊อปไม่เรียกว่าพลาดนะ เพราะป๊อปเชื่อว่าคนเราจะแต่งตัวออกจากบ้าน ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในสายตาตัวเองแล้วต้องพอใจไม่งั้นก็คงเปลี่ยนแล้วหละ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอเวลาผ่านไป ด้วยแฟชั่นที่เปลี่ยนไป เวลาที่เปลี่ยนไป บางครั้งพอมองย้อนไปสิ่งที่เคยคิดว่าดีและพอใจในตอนนั้น มันอาจจะดูขำ หรือไม่ดีพอในวันนี้ก็ได้ หรือสิ่งที่เราใส่คนอื่นอาจจะมองว่าดูไม่เข้าท่า แต่ป๊อปว่าทุกคนล้วนมีสไตล์มีความชอบเป็นของตัวเอง เราไม่ควรจะไปวิจารณ์ใคร คุณไม่ชอบแต่คนอื่นอาจจะชอบก็ได้ มันสำคัญอยู่ที่เจ้าตัวเขาพอใจและมั่นใจเป็นพอ ซึ่งจากหลายๆ รางวัลด้านสไตล์การแต่งตัวที่ได้รับมาก็น่าจะพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่งว่าสไตล์ของป๊อปก็น่าจะโอเคอยู่นะครับ
:: สิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นคุณที่สุด
ต้องยกให้กับทรงผมเลย มองมาเห็นแค่หัวก็รู้แล้วว่านี่ป๊อป โดยทรงนี้ได้น้องซัน ช่างจากร้าน The Lougne ออกแบบให้ ซึ่งวันนั้นไปตัดผมแล้วอยากเปลี่ยนทรง เขาก็เสนอว่า ลองไถข้างไหมแล้วมัดจุกด้านหลัง ซึ่งนั่นคือ 3-4 ปีมาแล้ว ตอนนั้น Undercut นี่แทบไม่เห็นใครทำเลย พอลองตัดออกมาก็ชอบเลย เพราะมันสบายหัว แถมทำผมง่ายมาก ไม่ต้องเซตอะไรเลย แค่รวบมัดจุกก็เรียบร้อยแล้ว จึงทำมาตลอด ซึ่งป๊อปเคยเจอน้องๆ ผู้ชายหลายคนเลยนะที่เข้ามาทักแล้วบอกว่าเขาได้ทรงผมเราเป็นแรงบันดาลใจในการตัดผมเขาเลยนะ
:: แรงบันดาลใจการแต่งตัวในแต่ละวัน
เป็นคนแต่งตัวเร็ว ไม่เคยมานั่งเตรียมเสื้อผ้าไว้ก่อน แล้วแต่อารมณ์ว่าวันนั้นอยากใส่อะไร โดยดูถึงสถานที่และงานที่จะต้องทำในแต่ละวันเป็นหลักว่าต้องการความเรียบร้อยแค่ไหน และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือการดูโฉลกสี โดยไม่ถึงขนาดว่าวันนี้จะต้องแต่งสีอะไร แต่จะดูแค่ว่าสีไหนที่ไม่เป็นมงคล ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ใส่สีนั้นเพื่อความสบายใจ
:: แหล่งชอปปิ้งสุดโปรด
ชอบได้หมด ถ้าเป็นต่างประเทศจะเน้นไปซื้อ Dior Homme เพราะเมืองไทยยังไม่เอาเข้ามา ถ้าเป็นเมืองไทย ถ้าไม่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ ก็ Terminal 21 ซื้อแบรนด์สลับกันไปหลากหลาย เน้นพวกเสื้อผ้าที่ใส่ได้จริงและราคาเป็นมิตร อย่าง Uniqlo, Zara, Theater, 5CM ฯลฯ
:: Item ที่ขาดไม่ได้
แว่นตาครับ เป็นคนสายตาสั้นมาก ใส่แว่นมาตั้งแต่ ป.3 จนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ป๊อปมีแว่นสายตาเยอะมาก หลากหลายแบบ เอาไว้เลือกใส่ให้เข้ากับการแต่งกาย โดยตอนนี้กำลังชอบพวกเลนส์สีๆ ซึ่งมันแค่เปลี่ยนทรงแว่นหรือสีเลนส์ก็ช่วยทำให้ลุคเราเปลี่ยนไปได้หลากหลาย ถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้สนุกกับการแต่งตัวยิ่งขึ้น
พิยะดา นันทะ “การแต่งตัวคือการบอกเล่าความเป็นตัวเอง”
ลิปสติกสีสด แว่นกันแดด สไตล์การแต่งตัวเท่ๆ แบบ Masculine และคลัตช์เก๋ๆ ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของสาวสวยมากความสามารถ “เดือน-พิยะดา นันทะ” อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง M.A.C ที่ใครเห็นการแต่งตัวและลุคแบบนี้ต่างต้องนึกถึงเธออย่างแน่นอน
:: นิยามสไตล์ของตัวคุณ
สไตล์เราเป็นแบบมิกซ์แอนด์แมตช์ เดือนจะแต่งตัวตามอารมณ์ในแต่ละวันมากกว่า เป็นคนไม่ได้ติดกับแบรนด์มากนัก จะดูที่เนื้อผ้า แพตเทิร์น และลายเป็นส่วนใหญ่ เอามามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้ ทำให้เกิดเป็นอารมณ์ที่หลากหลาย แต่สมัยทำงานเราก็จะมี Dress Code เป็นเสื้อผ้าสีดำขาวซึ่งก็จะเยอะมาก ชอบเพราะเป็นสีคลาสสิก แต่งได้หลายลุค แล้วก็มีความเป็น Masculine อยู่ในตัว เดือนไม่ใช่สาวหวาน จะชอบแต่งตัวสไตล์เท่ๆ แคชวลนิดๆ มี Musculine ผสมอยู่ค่ะ
:: กว่าจะถึงจุดที่ลงตัวอย่างทุกวันนี้ มีจุดพลาดของชีวิตบ้างไหม?
เรารู้จักสไตล์และรูปร่างของตัวเอง ประกอบกับเป็นคนตัวเล็กด้วยก็เลยไม่ได้กังวลเรื่องส่วนเกินอะไรมากมาย พอใส่อะไรที่ดูมีวอลุ่มก็จะดูมีเชฟขึ้น เดือนจะใช้เสื้อผ้าเป็นตัวสร้างมิติในการแต่งตัว แต่ก็มีเหมือนกันที่รู้สึกแต่งตัวออกมาแล้วไม่มั่นใจ เหมือนไม่ได้คิดว่าจะแต่งอะไรในตอนนั้น แล้วก็คิดว่าคงไม่เจอใคร แต่ตัวช่วยที่ทำให้เรามั่นใจขึ้นก็คือลิปสติกสีสวยๆ สักแท่ง เดือนว่ามันช่วยให้มั่นใจขึ้นได้นะ
:: สิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นคุณที่สุด
อายไลเนอร์กับลิปสติกสีสดๆ ค่ะ หลายคนว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเดือนเลย ส่วนใหญ่คนจะจำทรงผมกับเมกอัพของเราได้ เมื่อก่อนชอบตัดผมม้าแล้วก็จะไว้ทรงนี้นานมากเป็นปีๆ ช่วงนี้ชอบทรงผมที่ดูพองดูมีวอลุ่มแบบนี้ ทรงนี้ก็ทำมานานแล้วเหมือนกัน บางคนอาจจะชอบการเปลี่ยนทรงผมบ่อยๆ แต่เดือนไม่ค่อยเปลี่ยนทรงผมนะ จะอยู่กับสิ่งนั้นนานพอสมควร นานๆ ทีถึงรู้สึกอยากจะเปลี่ยน ส่วนเมกอัพนั้นยังคงเอกลักษณ์เดิมค่ะ
:: แรงบันดาลใจการแต่งตัวในแต่ละวัน
ในความคิดเดือนการแต่งตัวคือการบอกเล่าความเป็นตัวเอง เราอยากบอกเล่าตัวเองออกมาในรูปแบบไหนในแต่ละวันก็จะถ่ายทอดออกมาแบบนั้น บางทีมีคนบอกวันนี้ใส่เสื้อผ้าสีแสบตามาก แต่ไม่รู้สิ วันนี้รู้สึกว่าฟีลลิ่งมันดูสดใส มันอาจจะถูกหรือผิดในสายตาคนอื่น แต่เรารู้สึกว่าอะไรที่ใส่แล้วเรามั่นใจหรือมีความสุข นั่นก็คือบอกเล่าความเป็นเรา ไม่มีกฎตายตัว บางคนอาจจะเอาชุดนอนมาใส่แมตช์กับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ มันก็อาจจะดูเก๋ก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรแต่งให้เหมาะกับกาลเทศะ โอกาส และสถานที่ด้วย
:: แหล่งชอปปิ้งสุดโปรด
มีคนถามเยอะเหมือนกัน ว่าไปได้เสื้อผ้าหรือแอกเซสซอรีที่ไหนมา จริงๆ แล้วเดือนไปชอปที่ห้างสรรพสินค้าน้อยมาก แต่จะใช้การชอปปิ้งร่วมไปกับการเดินทาง เราเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยว มักจะเลือกไปเมืองที่มีคัลเจอร์ มีความเป็นโลคัล เพราะฉะนั้นจะได้อะไรที่แปลกๆ เก๋ๆ ติดไม้ติดมือกลับมา เช่น ตอนไปเนปาล เมืองที่ไปอยู่ติดกับทิเบต เราจะชอบไปดูของพวก Local Antique แล้วก็ได้คลัตช์สีเงินกลับมาใบหนึ่ง สวยมาก ราคาแค่ 500 บาทเอง แล้วก็ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ หรือตอนไปอินเดียก็จะได้ผ้าหรือตัวปักเอามาแมตช์กับเชิ้ตเรียบๆ ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ
:: แบรนด์ที่ชื่นชอบ
เดือนชอบ Rei Kawakubo ดีไซเนอร์ของ Comme des Garcon ค่ะ เพราะชอบแพตเทิร์นและสีขาวดำของเขา ซึ่งดูเท่และมีความเป็น Masculine อยู่ในตัว เราใส่ของเขามานานแล้วก็ยังไม่เบื่อ แต่ช่วงนี้อินกับลุค Total Look และลายพรินต์เป็นพิเศษ ก็จะชอบงานของ Mary Katrantzou และ Peter Pilotto เพราะมีสีสันที่จัดจ้านและลวดลายที่แปลกใหม่มีออกมาให้ดูเยอะดีค่ะ
Special Thanks : Ma Du Zi Hotel Bangkok โทรศัพท์ 0-2615-6400 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพ
จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล “ถ่ายทอดตัวตนผ่านสไตล์การแต่งตัว”
สาวหน้าเฉี่ยว ผู้โดดเด่นในวงการแฟชั่นด้วยการสร้างชื่อทำแบรนด์แว่นสุดเปรี้ยว Moo Eyewear แว่นตาทรงเก๋ที่ผ่านการลง Hot Item ในนิตยสารชื่อดังของโลกแทบทุกหัวและเป็นที่นิยมทั้งในหมู่เซเลบริตี้คนดังในไทยไปจนถึงแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ระดับโลก “หมู-จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล” เป็นอีกหนึ่งสาวที่มีสไตล์โดดเด่นและแตกต่างไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว แต่งหน้า หรือ ทรงผม
:: นิยามสไตล์ของตัวคุณ
หมูขอเรียกว่า “สไตล์ตามใจฉัน” ละกันนะคะ เพราะหมูไม่ได้มีสไตล์ที่แน่นอน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับอารมณ์ ในตู้นี้มีเสื้อผ้าหลากหลายมาก มีทั้งเดรสหวานๆ เสื้อเชิ้ต ไปถึงชุดลายดอก แล้วแต่ว่าวันไหนอยากแต่งแบบไหน หมูก็จะเลือกหยิบออกมา โดยทุกอย่างต้องเป๊ะ คือ จะคิดแพลนในหัวมาก่อนเลยว่า จะหยิบเสื้อตัวนั้นมาคู่กับกางเกงตัวนี้ รองเท้าคู่ไหน มีวาดภาพไว้ในใจก่อนแล้ว
:: กว่าจะถึงจุดที่ลงตัวอย่างทุกวันนี้ มีจุดพลาดของชีวิตบ้างไหม?
ไม่ค่อยพลาดนะ อาจจะมีช่วงเด็กๆ เลย สมัยเรียนพลาดเรื่องทรงผม เพราะเป็นนักเรียนไทยทำอะไรกับผมมากไม่ได้ สมัยก่อนไว้ผมยาว มัดผม มันดูรุงรังมาก เพราะหมูเป็นคนผมดก ผมหนา การแต่งกายก็มีหลากหลายแบบ ตอนยังไม่มีประสบการณ์มาก ก็เรียนรู้ไป แต่งตามเทรนด์ตามแฟชั่นไป จนมาถึงจุดที่ทุกวันนี้รู้แล้วว่าอะไรเหมาะกับเรา เทรนด์เลยไม่ค่อยมีผลอะไรกับหมูแล้ว
:: สิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นคุณที่สุด
ทรงผมบ๊อบหน้าม้านี่แหละค่ะ ถือเป็นเอกลักษณ์ของหมูเลย ตัดมาตั้งแต่ปี 2 แล้วก็ไม่เคยเปลี่ยนทรงอีกเลย ทรงนี้ช่างประจำตัวเขาครีเอตให้ หมูชอบเพราะมันดูแลง่าย ที่สำคัญคือมันเหมาะกับตัวหมูมาก เพราะหมูเป็นคนแต่งตัวเยอะแล้ว เลยไม่อยากให้ทรงผมต้องเยอะไปอีก ก็เป็นบ๊อบเรียบๆ แบบนี้แหละลงตัวดี
:: แรงบันดาลใจการแต่งตัวในแต่ละวัน
หมูให้ความสำคัญการแต่งตัวมาก ทุกวันก่อนจะแต่งตัวนี่ต้องร่างภาพไว้ก่อนเลย จะหยิบอะไรบ้าง ต้องใส่อะไรบ้าง อะไรเข้ากันสุด เพราะหมูถือว่าการแต่งตัวคือการสร้างความมั่นใจให้เราได้อย่างหนึ่ง ยิ่งเวลาหมูทำงาน ทำธุรกิจนี่ การแต่งตัวที่ดี เรียบร้อยเหมาะกับกาลเทศะ มันช่วยสร้างความภูมิฐาน สร้างความประทับใจแรกให้กับคนที่เราติดต่อด้วยได้ ถ้ามีงานซีเรียสจะแต่งเรียบร้อยมาก แต่ถ้าวันไหนสบายๆ หมูก็จะครีเอตแบบแล้วแต่อารมณ์เลย บางวันก็สาวหวาน หรือบางวันลายทั้งตัวเลย แล้วแต่ว่าวันนั้นมีอารมณ์นึกสนุกแบบไหน
:: แหล่งชอปปิ้งสุดโปรด
ที่เมืองไทยไม่ค่อยได้ชอปค่ะ เพราะงานยุ่งมาก ไม่ค่อยได้ไปไหน แต่จะชอบชอปเวลาไปอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ห้าง Brown อันนี้ร้านโปรดเลย เพราะเขาจะสรรหาของเก๋ พวกแบรนด์ของดีไซเนอร์หน้าใหม่มารวมไว้ สไตล์จะโดดเด่นและแตกต่างถูกใจหมูมากๆ เลยค่ะ
:: แบรนด์ที่ชื่นชอบ
ถ้าเป็นเสื้อผ้าหมูชอบ Sretsis ที่สุด แต่ถ้าเป็นเครื่องประดับอย่างกระเป๋า รองเท้า จะชอบ Charlotte Olympia ทั้งสองแบรนด์ หมูชอบมากเพราะของเขานอกจากจะดีไซน์สวยและคุณภาพดีแล้ว เขายังมีคอนเซ็ปต์ มีเรื่องราวซ่อนอยู่ในทุกคอลเลกชัน ใส่แล้วเรารู้สึกสนุกไปด้วย ส่วนเสื้อเชิ้ตซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่มีเยอะและชอบใส่มากที่สุด จะชอบของแบรนด์ Comme des Garçons ของผู้หญิงที่เป็นทรงคอบัวมากที่สุด ส่วนแว่นตาแน่นอนค่ะ ต้องเป็นแบรนด์ของหมูเอง “Moo Eyewear” :: Text by FLASH
