>>ลมหนาวปีที่แล้วเพิ่งจะจางหายไปได้ไม่นาน รันเวย์แฟชั่นฟากยุโรปอย่าง นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส ก็จัดเต็มไปด้วยโชว์คอลเลกชันสุดคูลจากเหล่าดีไซเนอร์มือฉมังให้คนแฟชั่นทั่วโลกได้เห็นกันไปบ้างแล้ว และก็มาถึงคิวของศูนย์กลางแฟชั่นอีกแห่งหนึ่งของโลกอย่าง มิลาน ที่ปีนี้ดีไซเนอร์หัวกะทิต่างปล่อยของชนิดที่ว่าหมัดแลกหมัด สู้กันยิบตาเลยทีเดียว
คงเป็นที่รู้กันดีสำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกว่าช่วงต้นซีซันฤดูร้อนอย่างนี้ จะเป็นเวลาที่รันเวย์แฟชั่นปกคลุมไปด้วยคอลเลกชันลมหนาวหน้าที่กำลังจะมาถึง และเฉกเช่นเดียวกับทุกปี ทุกซีซันที่ผ่านมาที่เหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำจะขุดเอาแรงบันดาลใจสุดเท่ ทั้งยังแฝงไปด้วยคติความคิด อีกทั้งยังวิธีการนำเสนอแปลกใหม่ที่พาให้เหล่าแฟชั่นเนเบิลต่างต้องอ้าปากค้างคาฟรอนต์โรว์ และที่เห็นได้ชัดยิ่งกว่าคอนเซ็ปต์ แรงบันดาลใจนั้น และต้องกลายเป็นไอเท็ม Must Have เป็นแน่แท้ นั่นก็คือลายพิมพ์ทั้งหลายที่ปีนี้ยังคงเน้นการดังอิลิเมนต์จากธรรมชาติ อาทิ ดอกไม้ พรรณพฤกษาต่างๆ รวมไปถึงลวดลายของสิ่งมีชีวิต เช่น เสือ ม้าลาย มาใช้ แต่ก็ยังไม่ทิ้งเฟลอที่เห็นว่าจะลดปริมาณลงไปไม่น้อย อาจเป็นเพราะกระแสอนุรักษ์สัตว์โลกจะมาแรง ซึ่งนั่นก็ถือเป็นข่าวดีของเหล่าคนแฟชั่น เพราะไม่ต้องรู้สึกผิดเมื่อต้องสวมใส่ชุดเฟลอ และถ้าสังเกตให้ดีคอลเลกชันฤดูหนาวนี้แลดูจะสดใสขึ้นกว่าทุกปี ด้วยสีสันตั้งแต่พาสเทลไปจนถึงสีสดแซบก็ถูกดึงมาใช้แต่งเติมความหม่นของบรรยากาศให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมา
ถ้าจะพูดถึงโชว์ที่น่าสนใจและเป็นไปไม่ได้ที่คนแฟชั่นทั้งโลกจะไม่กล่าวถึง คงหนีไม่พ้น Dolce&Gabbana ที่ปีนี้ยิ่งกว่าจัดเต็มด้วยการนำนางแบบคุณแม่ทั้งหลายที่จูงลูกหนุ่มสาวตัวน้อยมาเดินบนรันเวย์ หรือแม้กระทั่งท้องกำลังป่องก็ไม่เว้นที่จะมาอวดโฉมเสื้อผ้าคอลเลกชันนี้ ซึ่งตอกย้ำว่าแบรนด์ของสองดีไซเนอร์หัวครีเอทีฟ Stefano Gabbana กับ Domenico Dolce สามารถเนรมิตให้สาวๆ สวยได้ทุกสถานการณ์ ซึ่งแนวคิดนี้คงต้องยกนิ้วให้เขาจริงๆ แต่ถึงกระนั้นแบรนด์อื่นๆ ก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ เพราะต่างก็งัดกลเม็ดการพรีเซนต์เสื้อผ้าคอลเลกชันลมหนาวนี้ให้ออกมาประทับใจเหล่าคอแฟชั่น และเป็นไปได้ว่าเสื้อผ้าหลายตัวที่เดินเจิดบนแคตวอล์กคงจะต้องตกไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าของสาวทั่วทุกมุมโลกในหนาวหน้านี้เป็นแน่ :: Text by FLASH