By Lady Manager
เป็นข่าวร้อนฉ่ามาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนกับสาวห้าวแอบเซ็กซี่ พะแพง-ธนัยนันท์ เต็มปรีชา กับการงัดซิลิโคนออกจากจมูก ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยถึงสาเหตุ ว่าจะถอดออกทำไมล่ะ แล้วจากคนที่เคยมีดั้งจมูกโด่งเป็นสัน จะรับได้ไหมกับการมีจมูกธรรมชาติแบบเก่าหรือเปล่า
“เอาซิลิโคนออกมาประมาณ 2 เดือนที่แล้วค่ะ ตั้งแต่ต้นธันวาคมปี 57 พะแพงทำดั้งมาประมาณอายุ 21 ปี ตอนนี้ก็เสริมจมูกมา 4 ปีแล้วค่ะ ทำที่คลินิกย่านห้วยขวาง ประมาณหมื่นกว่าบาท
และที่ต้องเอาซิลิโคนออกเพราะมีปัญหาเรื่องซิลิโคนทะลุ” พะแพง เล่าถึงประสบการณ์เสริมจมูกสุดระทึก
ทำจมูกมา 4 ปี ซิลิโคนทะลุ 2 รอบ!
ด้วยไลฟ์สไตล์ของสาวห้าวแก้นเซี้ยวจึงไม่ได้เหมาะกับการทำศัลยกรรมเท่าไหร่นัก เพราะกิจกรรมของพะแพงโลกโผนโจนทะยานเกินหญิงซะเหลือเกิน หน้าจึงกระแทกโดนของแข็งได้ง่าย
“หลังจากทำจมูกมาได้ 2 ปี ครั้งแรกที่ซิลิโคนทะลุ เพราะไปเล่นสเก็ตบอร์ดแล้วหน้าคว่ำ ก็เป็นอุบัติเหตุ เพราะด้วยไลฟ์สไตล์เรามันไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับคนที่ทำศัลยกรรมมาเลย จากนั้นก็ไปแก้จมูก เสริมใหม่ ทำทรงคล้ายเดิม แต่เอาดั้งลงมานิดเดียว ไม่เอาดั้งเยอะแล้ว
และจากนั้นอีก 2 ปี ซิลิโคนก็ทะลุอีก สาเหตุจากหมาเฟรนซ์บลูด็อกของเราเอง เล่นกับหมา แล้วหมาก็มาชนที่หน้า ซิลิโคนจึงทะลุเป็นครั้งที่ 2
“พะแพง ไม่ไหวแล้ว เรารู้สึกว่า เราเจ็บตัวบ่อยเกินไป”
จึงเปลี่ยนคุณหมอ เป็นคุณหมอพีระค่ะ หาข้อมูลอยู่หลายเดือน และเข้าไปปรึกษา คุณหมอบอกว่าจมูกทะลุแล้วไม่สามารถใส่ซิลิโคนได้ เพราะแผลติดเชื้อ
ตอนแรกเขาจะเอาเนื้อส่วนอื่น เช่น สะโพก มาใส่เป็นดั้งให้เราแทน เราเลยบอกว่า ไม่เอาดีกว่า จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินไป พะแพงจึงเลือกไม่ใส่ซิลิโคนแล้วกัน จริงๆ หนูอยากมีดั้งจะตาย แต่ใส่ซิลิโคนไม่ได้แล้วไง แต่จำเป็นต้องซ่อมปลายจมูก
เพราะคุณหมอบอกว่า ถ้าไม่ทำปลายจมูกจะเสี่ยงต่อการเนื้อจมูกบุ๋ม ก็เลยยอม ปลายจมูกพะแพงกระดูกมันคดเบี้ยว มันเละ ถ้าไม่ซ่อมปลาย เนื้อตรงปลายจมูกจะบุ๋มลงไป ก็กลายเป็นว่า เป็นศัลยกรรมซ่อมแซมของเดิม คือซิลิโคนมันกดทับจมูกเราลงไป และเราก็ชอบไปจับบ้างอะไรบ้าง จึงทำให้ปลายจมูกไม่ดีแล้ว
ซ่อมตรงปลายจมูกด้วยการใช้กระดูกหลังหู พะแพงเลยบอกคุณหมอว่า ทำปลายจมูกให้มีสภาพดีซ่อมแซมให้ดีที่สุด และขอทำปลายให้มีออกมานิดหนึ่ง
เพราะพะแพงไม่สามารถใส่ดั้งใส่ซิลิโคนได้แล้ว ทั้งๆที่หนูอยากมีดั้งมากๆ งั้น ถ้าดั้งไม่มีก็ขอปลายสวยๆแล้วกันนะคะคุณหมอ ซึ่งตอนนี้ก็พอใจที่ไม่มีดั้งนะคะ คุณหมอซ่อมปลายให้ซะสวยเลย
แล้วที่เห็นว่า ทำไมจมูกยังโด่งอยู่นั้น ก็เพราะว่า จมูกเรายังมีพังผืดเกาะอยู่ตามปกติของคนเสริมจมูกอยู่แล้ว เลยดูเหมือนมีดั้ง พังผืดจะหายไปประมาณ 6 เดือน เท่ากับว่าดั้งที่เกิดจากพังผืดก็จะหายไป ค่อยๆสลายออกไปนั่นเอง
และการซ่อมแซมจมูกนี่แพงกว่าเสริมอีกนะคะ เป็นหลักแสน พูดเลย”
ประสาทเสีย สภาพจิตย่ำแย่ จ้องแต่จมูกทั้งวี่ทั้งวัน
และสาเหตุที่ทำให้เธออยากเอาซิลิโคนออกนอกจาก “เจ็บ” จากความรู้สึกทางกายแล้ว ความรู้สึก ด้านจิตใจก็ย่ำแย่ วิตกจริตจากซิลิโคนทะลุอีกด้วย
“ตั้งแต่พะแพงทำจมูกมานะ ตาอยู่แต่กับจมูก จิตใจอยู่แต่กับจมูก”
ตอนมีดั้งนี่จิตใจไม่ปกติเลยนะ คือเราเสียตังค์ เสียเวลา เจ็บตัว นั่งเฝ้าถามกับตัวเองว่า ทำไมไม่สวย ทำไมไม่ดี ทำไมเบี้ยว เวลาส่องกระจกจะเล็งแต่จมูก
รูจมูกก็ไม่เท่ากันเพราะปลายที่ซิลิโคนทะลุมันกลายเป็นแผล ปลายข้างขวาข้างใน เลยทำให้รูจมูกเบี้ยว เพราะเราเคยทะลุมาแล้ว และเรารู้สึกว่า มันจะทะลุอีกไหม กลายเป็นว่าเราประสาทเสียไปเลย วันๆ ดูแต่จมูก ไม่ดูส่วนอื่นของหน้าเลย
และอีกอย่างหนึ่งหลังจากเอาซิลิโคนออกสิ่งที่เห็นอย่างเห็นได้ชัดก็คือสภาพจิตใจดีขึ้นมาก เยอะขึ้นมากๆ มันไม่ต้องมากังวลเรื่องจมูกมาก เพราะเรารู้แล้วว่า ตอนนี้จมูกเราไม่มีซิลิโคนอีกต่อแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะว่าแพงมีปัญหากับซิลิโคนมาตลอดเลย นอยด์มาก ถึงขั้นแบบว่า ทำไมชีวิตชั้นก็เป็นแบบนี้
อย่างคนอื่นเขาจะมองว่าจมูกเราไม่เบี้ยวนะ แต่เราจะมองว่าเบี้ยว เพราะจ้องมันทุกวัน เราก็เลยคอยแต่หาจุดที่บกพร่องไม่ถูกใจเรา
ตอนนี้เริ่มชอบกับจมูกธรรมชาติแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่มั่นใจเลย เพราะเราทำจมูกทำดั้งมาแล้วตั้ง 4 ปี ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แต่ตอนนี้มันจะไม่ได้สวยแล้ว จะออกแนวเด็กๆ ก็พอใจอีกแบบหนึ่ง”
อยากเหมือนผู้หญิงปกติ ไม่ต้องศัลย์ สีผม-เมกอัพช่วยได้
“เออเนอะ! ไม่มีดั้ง มันก็ไม่ได้แย่นี่”
พะแพงเปิดใจหลังจากผ่านมรสุมซิลิโคนทะลุ 2 รอบมาแล้วว่า ตอนนี้อยากเหมือนผู้หญิงปกติ
“ก็อยากสวยนะคะ แต่พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ทำให้เราคิดได้ แม้ฟีดแบกของคนรอบข้างจะค่อนข้างไม่ชอบนะ บอกว่าอยากให้เรามีดั้งกัน เพราะเวลาแพงมีดั้งจะดูเป็นสาวสวย ส่วนตัวแพงก็ชอบนะคะ เพราะดูเป็นธรรมชาติ ดูเด็กๆ แต่เราก็อยากเด็กนะไม่ได้อยากแก่ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน
เพราะตอนนี้เราเป็นสาวและโตมากขึ้น รู้จักการแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว ทำให้ดูดีกว่าตอนเข้าวงการใหม่ๆ เพราะไม่ค่อยแต่งหน้า เพราะปีกจมูกก็ไม่ได้ตัดนะคะ หนูเชื่อว่าถ้าตัดหน้าหนูจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้ ฉะนั้นจะไม่ยุ่งกับจมูก ขอให้เป็นออริจินัล
นอกจากจมูกพะแพงไม่เคยทำอะไรเลย แพงโชคดีอย่าง คือเมื่อผอมลงหน้าจะชัดขึ้น ก็เคยมีฉีดโบท็อกซ์บ้าง หน้าจะเล็กลง ด้วยการที่เราทำงานแบบนี้ ก็เลยต้องฉีดโบท็อกซ์เป็นครั้งคราว เพราะมันไม่ได้อยู่ถาวร ศึกษามาแล้วว่ามันปลอดภัย ก็เลยทำก็ได้ นานๆ ฉีดที
สุดท้ายพะแพง ฝากถึงคนที่อยากจะไปศัลยกรรม ต้องหาข้อมูลศึกษา อย่าใจร้อนเด็ดขาด
การที่ซิลิโคนทะลุ จมูกเบี้ยว หรือศัลยกรรมออกมาแล้วไม่ได้ดั่งใจ มันก็เป็นเรื่องปกติของคนที่ทำศัลยกรรม เราต้องยอมรับอยู่แล้วว่า จะต้องเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น
ดังนั้นใครจะไปทำศัลยกรรมควรศึกษาข้อมูลดีๆนะคะ คือมันอาจจะมีปัญหา ไม่ได้ดั่งใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เราต้องรับข้อผิดพลาดในการทำศัลยกรรมก่อน บอกเลยว่า ต้องเผื่อใจไว้ แต่ถ้าทำดีก็คือว่า โชคดีไป แต่อยากให้เผื่อใจไว้
และศึกษา หาข้อมูลคุณหมอ เอาที่เราถูกใจ และปลอดภัย เวลาคุณหมอท่านนี้ทำให้เราอาจจะไม่ได้สวยเหมือนคนอื่น คือต้องศึกษาว่า ทรงจมูกแบบนี้คุณหมอท่านนี้ทำสวยนะ หมอคนนี้เก่งนะ แต่ทำทรงนี้ไม่สวย
อย่างพะแพงศึกษาประมาณ 3-4 เดือน ปรึกษาไม่รู้กี่หมอต่อหมอก่อนจะตัดสินใจทำ” พะแพง แนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวสุดๆ
ขอบคุณภาพอินสตาแกรม papang_x_pensive
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
เป็นข่าวร้อนฉ่ามาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนกับสาวห้าวแอบเซ็กซี่ พะแพง-ธนัยนันท์ เต็มปรีชา กับการงัดซิลิโคนออกจากจมูก ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยถึงสาเหตุ ว่าจะถอดออกทำไมล่ะ แล้วจากคนที่เคยมีดั้งจมูกโด่งเป็นสัน จะรับได้ไหมกับการมีจมูกธรรมชาติแบบเก่าหรือเปล่า
“เอาซิลิโคนออกมาประมาณ 2 เดือนที่แล้วค่ะ ตั้งแต่ต้นธันวาคมปี 57 พะแพงทำดั้งมาประมาณอายุ 21 ปี ตอนนี้ก็เสริมจมูกมา 4 ปีแล้วค่ะ ทำที่คลินิกย่านห้วยขวาง ประมาณหมื่นกว่าบาท
และที่ต้องเอาซิลิโคนออกเพราะมีปัญหาเรื่องซิลิโคนทะลุ” พะแพง เล่าถึงประสบการณ์เสริมจมูกสุดระทึก
ทำจมูกมา 4 ปี ซิลิโคนทะลุ 2 รอบ!
ด้วยไลฟ์สไตล์ของสาวห้าวแก้นเซี้ยวจึงไม่ได้เหมาะกับการทำศัลยกรรมเท่าไหร่นัก เพราะกิจกรรมของพะแพงโลกโผนโจนทะยานเกินหญิงซะเหลือเกิน หน้าจึงกระแทกโดนของแข็งได้ง่าย
“หลังจากทำจมูกมาได้ 2 ปี ครั้งแรกที่ซิลิโคนทะลุ เพราะไปเล่นสเก็ตบอร์ดแล้วหน้าคว่ำ ก็เป็นอุบัติเหตุ เพราะด้วยไลฟ์สไตล์เรามันไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับคนที่ทำศัลยกรรมมาเลย จากนั้นก็ไปแก้จมูก เสริมใหม่ ทำทรงคล้ายเดิม แต่เอาดั้งลงมานิดเดียว ไม่เอาดั้งเยอะแล้ว
และจากนั้นอีก 2 ปี ซิลิโคนก็ทะลุอีก สาเหตุจากหมาเฟรนซ์บลูด็อกของเราเอง เล่นกับหมา แล้วหมาก็มาชนที่หน้า ซิลิโคนจึงทะลุเป็นครั้งที่ 2
“พะแพง ไม่ไหวแล้ว เรารู้สึกว่า เราเจ็บตัวบ่อยเกินไป”
จึงเปลี่ยนคุณหมอ เป็นคุณหมอพีระค่ะ หาข้อมูลอยู่หลายเดือน และเข้าไปปรึกษา คุณหมอบอกว่าจมูกทะลุแล้วไม่สามารถใส่ซิลิโคนได้ เพราะแผลติดเชื้อ
ตอนแรกเขาจะเอาเนื้อส่วนอื่น เช่น สะโพก มาใส่เป็นดั้งให้เราแทน เราเลยบอกว่า ไม่เอาดีกว่า จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินไป พะแพงจึงเลือกไม่ใส่ซิลิโคนแล้วกัน จริงๆ หนูอยากมีดั้งจะตาย แต่ใส่ซิลิโคนไม่ได้แล้วไง แต่จำเป็นต้องซ่อมปลายจมูก
เพราะคุณหมอบอกว่า ถ้าไม่ทำปลายจมูกจะเสี่ยงต่อการเนื้อจมูกบุ๋ม ก็เลยยอม ปลายจมูกพะแพงกระดูกมันคดเบี้ยว มันเละ ถ้าไม่ซ่อมปลาย เนื้อตรงปลายจมูกจะบุ๋มลงไป ก็กลายเป็นว่า เป็นศัลยกรรมซ่อมแซมของเดิม คือซิลิโคนมันกดทับจมูกเราลงไป และเราก็ชอบไปจับบ้างอะไรบ้าง จึงทำให้ปลายจมูกไม่ดีแล้ว
ซ่อมตรงปลายจมูกด้วยการใช้กระดูกหลังหู พะแพงเลยบอกคุณหมอว่า ทำปลายจมูกให้มีสภาพดีซ่อมแซมให้ดีที่สุด และขอทำปลายให้มีออกมานิดหนึ่ง
เพราะพะแพงไม่สามารถใส่ดั้งใส่ซิลิโคนได้แล้ว ทั้งๆที่หนูอยากมีดั้งมากๆ งั้น ถ้าดั้งไม่มีก็ขอปลายสวยๆแล้วกันนะคะคุณหมอ ซึ่งตอนนี้ก็พอใจที่ไม่มีดั้งนะคะ คุณหมอซ่อมปลายให้ซะสวยเลย
แล้วที่เห็นว่า ทำไมจมูกยังโด่งอยู่นั้น ก็เพราะว่า จมูกเรายังมีพังผืดเกาะอยู่ตามปกติของคนเสริมจมูกอยู่แล้ว เลยดูเหมือนมีดั้ง พังผืดจะหายไปประมาณ 6 เดือน เท่ากับว่าดั้งที่เกิดจากพังผืดก็จะหายไป ค่อยๆสลายออกไปนั่นเอง
และการซ่อมแซมจมูกนี่แพงกว่าเสริมอีกนะคะ เป็นหลักแสน พูดเลย”
ประสาทเสีย สภาพจิตย่ำแย่ จ้องแต่จมูกทั้งวี่ทั้งวัน
และสาเหตุที่ทำให้เธออยากเอาซิลิโคนออกนอกจาก “เจ็บ” จากความรู้สึกทางกายแล้ว ความรู้สึก ด้านจิตใจก็ย่ำแย่ วิตกจริตจากซิลิโคนทะลุอีกด้วย
“ตั้งแต่พะแพงทำจมูกมานะ ตาอยู่แต่กับจมูก จิตใจอยู่แต่กับจมูก”
ตอนมีดั้งนี่จิตใจไม่ปกติเลยนะ คือเราเสียตังค์ เสียเวลา เจ็บตัว นั่งเฝ้าถามกับตัวเองว่า ทำไมไม่สวย ทำไมไม่ดี ทำไมเบี้ยว เวลาส่องกระจกจะเล็งแต่จมูก
รูจมูกก็ไม่เท่ากันเพราะปลายที่ซิลิโคนทะลุมันกลายเป็นแผล ปลายข้างขวาข้างใน เลยทำให้รูจมูกเบี้ยว เพราะเราเคยทะลุมาแล้ว และเรารู้สึกว่า มันจะทะลุอีกไหม กลายเป็นว่าเราประสาทเสียไปเลย วันๆ ดูแต่จมูก ไม่ดูส่วนอื่นของหน้าเลย
และอีกอย่างหนึ่งหลังจากเอาซิลิโคนออกสิ่งที่เห็นอย่างเห็นได้ชัดก็คือสภาพจิตใจดีขึ้นมาก เยอะขึ้นมากๆ มันไม่ต้องมากังวลเรื่องจมูกมาก เพราะเรารู้แล้วว่า ตอนนี้จมูกเราไม่มีซิลิโคนอีกต่อแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะว่าแพงมีปัญหากับซิลิโคนมาตลอดเลย นอยด์มาก ถึงขั้นแบบว่า ทำไมชีวิตชั้นก็เป็นแบบนี้
อย่างคนอื่นเขาจะมองว่าจมูกเราไม่เบี้ยวนะ แต่เราจะมองว่าเบี้ยว เพราะจ้องมันทุกวัน เราก็เลยคอยแต่หาจุดที่บกพร่องไม่ถูกใจเรา
ตอนนี้เริ่มชอบกับจมูกธรรมชาติแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่มั่นใจเลย เพราะเราทำจมูกทำดั้งมาแล้วตั้ง 4 ปี ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แต่ตอนนี้มันจะไม่ได้สวยแล้ว จะออกแนวเด็กๆ ก็พอใจอีกแบบหนึ่ง”
อยากเหมือนผู้หญิงปกติ ไม่ต้องศัลย์ สีผม-เมกอัพช่วยได้
“เออเนอะ! ไม่มีดั้ง มันก็ไม่ได้แย่นี่”
พะแพงเปิดใจหลังจากผ่านมรสุมซิลิโคนทะลุ 2 รอบมาแล้วว่า ตอนนี้อยากเหมือนผู้หญิงปกติ
“ก็อยากสวยนะคะ แต่พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ทำให้เราคิดได้ แม้ฟีดแบกของคนรอบข้างจะค่อนข้างไม่ชอบนะ บอกว่าอยากให้เรามีดั้งกัน เพราะเวลาแพงมีดั้งจะดูเป็นสาวสวย ส่วนตัวแพงก็ชอบนะคะ เพราะดูเป็นธรรมชาติ ดูเด็กๆ แต่เราก็อยากเด็กนะไม่ได้อยากแก่ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน
เพราะตอนนี้เราเป็นสาวและโตมากขึ้น รู้จักการแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว ทำให้ดูดีกว่าตอนเข้าวงการใหม่ๆ เพราะไม่ค่อยแต่งหน้า เพราะปีกจมูกก็ไม่ได้ตัดนะคะ หนูเชื่อว่าถ้าตัดหน้าหนูจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้ ฉะนั้นจะไม่ยุ่งกับจมูก ขอให้เป็นออริจินัล
นอกจากจมูกพะแพงไม่เคยทำอะไรเลย แพงโชคดีอย่าง คือเมื่อผอมลงหน้าจะชัดขึ้น ก็เคยมีฉีดโบท็อกซ์บ้าง หน้าจะเล็กลง ด้วยการที่เราทำงานแบบนี้ ก็เลยต้องฉีดโบท็อกซ์เป็นครั้งคราว เพราะมันไม่ได้อยู่ถาวร ศึกษามาแล้วว่ามันปลอดภัย ก็เลยทำก็ได้ นานๆ ฉีดที
สุดท้ายพะแพง ฝากถึงคนที่อยากจะไปศัลยกรรม ต้องหาข้อมูลศึกษา อย่าใจร้อนเด็ดขาด
การที่ซิลิโคนทะลุ จมูกเบี้ยว หรือศัลยกรรมออกมาแล้วไม่ได้ดั่งใจ มันก็เป็นเรื่องปกติของคนที่ทำศัลยกรรม เราต้องยอมรับอยู่แล้วว่า จะต้องเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น
ดังนั้นใครจะไปทำศัลยกรรมควรศึกษาข้อมูลดีๆนะคะ คือมันอาจจะมีปัญหา ไม่ได้ดั่งใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เราต้องรับข้อผิดพลาดในการทำศัลยกรรมก่อน บอกเลยว่า ต้องเผื่อใจไว้ แต่ถ้าทำดีก็คือว่า โชคดีไป แต่อยากให้เผื่อใจไว้
และศึกษา หาข้อมูลคุณหมอ เอาที่เราถูกใจ และปลอดภัย เวลาคุณหมอท่านนี้ทำให้เราอาจจะไม่ได้สวยเหมือนคนอื่น คือต้องศึกษาว่า ทรงจมูกแบบนี้คุณหมอท่านนี้ทำสวยนะ หมอคนนี้เก่งนะ แต่ทำทรงนี้ไม่สวย
อย่างพะแพงศึกษาประมาณ 3-4 เดือน ปรึกษาไม่รู้กี่หมอต่อหมอก่อนจะตัดสินใจทำ” พะแพง แนะนำจากประสบการณ์ส่วนตัวสุดๆ
ขอบคุณภาพอินสตาแกรม papang_x_pensive
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net